โปรดระวัง เซลฟีจับสะดือ
พ.อ.นพ.ดุษฎี ทัตตานนท์ ผู้อำนวยการกองออร์โธปิดิกส์ รพ.พระมงกุฏเกล้า กล่าวถึงกรณีเทรนด์ฮิตใหม่ #เซลฟีจับสะดือ อันตรายมากกว่าแค่ไหล่เคล็ด ชี้มีสิทธิข้อไหล่เคลื่อน กระทบกล้ามเนื้อแขน ข้อมือ กระดูกสันหลัง ไปจนถึงสะบัก และหมอนรองกระดูกอักเสบ ระบุ คนมีปัญหาข้อต่อและกล้ามเนื้ออยู่แล้ว อาจทำให้โรคหวนคืน ยันท่าอ้อมแขนจับสะดือไม่วัดหุ่นผอมเพรียว แจงเป็นเรื่องของความอ่อนตัวของข้อ
กรีนไลฟ์ฟิตเนส เราใช้วิธีวัดรอบเอวซึ่งแม่นยำกว่าการวัดด้วยน้ำหนักตัวหรือ BMI ด้วยครับ
credit: manager.com
หมายเหตุ-
ขอฝากถึงแพทย์ผู้จำเป็นต้องให้คำแนะนำแก่คนไข้ที่จะออกกำลังกาย
เรื่องการวัดดังต่อไปนี้ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนน้อยกว่าแบบเดิม
ด้วยความเคารพครับ
1. การวัดความอ้วน
ในปัจจุบันนี้ เราวัดความอ้วนด้วยขนาดรอบเอว ชาย 90 ซม. หญิง 80 ซม.
โดยไม่ใช้สูตรคำนวณหา BMI อีกแล้ว
http://www.doctor.or.th/article/detail/4041
2. การวัดระดับความหนักที่เหมาะสมในการออกกำลังกาย
ในปัจจุบันนี้ เราวัดระดับความหนักที่เหมาะสมของการออกกำลังกาย
ด้วยความสามารถของการพูดในขณะที่กำลังออกกำลังกาย
โดยไม่ใช้สูตรคำนวณหาชีพจรที่เหมาะสมด้วยอายุอีกแล้ว
http://www.acefitness.org/…/does-your-heart-rate-really-mat…
ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้อัพเดตๆ เพิ่งทราบว่าเขาวัดกันที่รอบเอวจะแม่นยำกว่าค่ะ
อืม... คนที่สามารถยื่นแขนอ้อมจับสะดือได้ถือว่า เก่งนะครับ จะข้ออ่อน หรือเอวอ่อน หรือว่าแขนยาวกว่าปกติ ก็ไม่ธรรมดาน่ะ 555
แต่ที่สำคัญกว่า สะดือต้องสวยด้วย อิอิ...
เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก ๆค่ะ อ่านทุกลิ้งค์ ชอบค่ะ
มีคอมเม้นท์นิดนึงค่ะ
1. กินผลไม้เยอะไม่ดีเหรอคะ มันสวนทางกับความรู้สึกมากค่ะ
2. สูตร น้ำหนักตัวที่เหมาะสม = น้ำหนักตัวเป็นเซ็นติเมตร หญิงลบ 110 ชายลบ 100 โหดไปหน่อยนะคะสำหรับ สว. :)
ขอบคุณมากค่ะอาจารย์
ขอบคุณมากครับสำหรับทุกๆความเห็น
ตอบอ.จันทวรรณ-
หากออกกำลังกายด้วยระดับความหนักที่เหมาะสมตามข้อ 2
ก็ไม่ต้องวัดรอบเอวตามข้อ 1 ก็ได้ครับ..ฮา
ตอบอ.กุหลาบ-
1. กินผลไม้เยอะจะได้น้ำตาล fructose เยอะ
ซึ่งคุณหมอ Tom Wu ระบุว่าอาจทำให้ผนังหลอดเลือดอักเสบได้
ลองทานผลไม้ที่ไม่หวานมาก เช่น ฝรั่ง แอปเปิล แทนจะดีไหมครับ
2. สูตรน้ำหนักตัวที่เหมาะสมนี้มีความคลาดเคลื่อนครับ โดยเฉพาะในหมู่ของผู้ที่มีกระดูกใหญ่
เพียงพอสำหรับคนอายุเกิน 60 ไหม.....
ขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกายครับ อ.กุหลาบ มัทนา
ผมมีอายุเกิน 60 แล้วและผมก็ยังทำมากกว่านี้เยอะ
แต่นั่นเป็นเพราะผมเป็นนักกีฬามาตั้งแต่เด็ก
หลักสำคัญอันหนึ่งของการออกกำลังกายเพื่อให้แข็งแรงขึ้นๆคือ
overloading principle
ซึ่งเป็นการเพิ่มความหนักหรือความยากขึ้นไปเรื่อยๆ
ดังนั้นหากเราทำแบบเดิมๆทุกครั้ง
ผลคือแค่ maintain ไม่ได้ช่วยให้แข็งแรงมากขึ้น ซึ่งยังดีกว่าไม่ได้ทำเลย
ส่วนจะเพียงพอสำหรับคนอายุเกิน 60 ไหมนั้น
ขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกายทั้งในด้านความแข็งแรงและยืดหยุ่น
รวมถึงเป้าหมายว่าอยากให้แข็งแรงมากเพียงใด
เพราะศักยภาพที่มีในร่างกายของพวกเรานั้นมักมีมากกว่าที่เราเชื่อว่ามี
การออกกำลังกายให้ถูกวิธีและเหมาะสมสำหรับแต่ละท่าน
จึงควรมีโค้ชผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล อย่างน้อยก็ในช่วงแรกซึ่งควรปูพื้นฐานที่ดีให้แน่น
ที่สำคัญคือไม่ให้บาดเจ็บจากการทำท่าที่ไม่เหมาะสมหรือหักโหม overtrain นั่นเองครับ
ขอบคุณอาจารย์มาก ๆ ค่ะ
Very very encouraging and inspiring indeed!
ในโซเชี่ยลนี่มีอะไรประหลาดๆ มาเรื่อยๆ
ถ้าไม่มีความรู้จริงๆ อ่านแล้วเชื่อทุกอย่างก็มีปัญหาหมือนกันนะคะ