672. เรียนรู้ศาสตร์ OD ผ่าน "สามก๊ก" (ตอน 2)


Gender Intelligence

ผมดูสามก๊ก ทั้งอ่านทั้งดู Series ผมเองไม่ใช่ผู้รู้ที่แตกฉานในเรื่องสามก๊ก ชนิดแฟนพันธ์ุแท้ หากแต่เมื่ออายุมากขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น หลังกลับไปดูอีกครั้ง แถมตอนนี้เอามาสอนในชั้นเรียนมาเป็นปีที่สาม ก็เริ่มเห็นคุณค่าวรรณกรรมฉบับนี้มากขึ้น อย่างเมื่อวานก่อน ผมดูตอนที่ซุนเซ๊ก ผู้ก่อตั้งง่อก๊ก หนึ่งในสามก๊กสำคัญ ตอนนี้เป็นตอนที่น่าสนใจ คือเป็นตอนที่ซุนเซ็ก แตกหักกับผู้นำคืออ้วนสุดผู้เป็นนาย ซุนเซ็กเป็นขุนพลที่เก่งมาก รบชนะแต่เมื่อกลับมากลับไม่ได้รับเกียรติจากอ้วนสุด ซึ่งจริงๆ สมัยก่อนที่ซุนเกี๋ยนบิดาไปรบ จะชนะอยู่แล้ว แต่ด้วยความอิจฉา อ้วนสุดทรยศไม่ส่งเสบียง จนต้องแพ้ในที่สุด

ผมเห็นในหนังเลย ที่ซุนเซ็กเดินเข้าไปในที่ชุมนุมที่ปรึกษาฝ่ายบุ๋น ฝ่ายบู๊หลังรบชนะอย่างงดงาม โดยกำลังจะเดินไปนั่งไกล้กับอ้วนสุด แต่อ้วนสุดกลับปัดมือให้ไปนั่งไกลๆ ในตำแหน่งที่ดูด้อยความสำคัญ ว่ากันว่าตำแหน่งที่นั่งสำคัญมากๆ ซุนเซ็กเกิดความรู้สึกว่าถูกหมิ่น จึงออกจากที่ประชุมแล้วกลับบ้าน ไปนั่งคิดคำนึงถึงความด้อยวาสนา พ่อก็ตายแล้ว ยังหาเกียรติภูมิในชีวิตไม่ได้

ระหว่างที่ร้องให้คร่ำครวญ ก็มีกุนซือของพ่อสองคนมาหา และขอให้ซุนเซ็กเรียกใช้ ขอคำปรึกษา ที่สุดก็เกิดแนวคิดที่จะแยกตัวออกมา และด้วยกลอุบายคิดกากันมาเป็นอย่างดี ที่สุดซุนเซ็กนอกจากจะออกมาจากอ้วนสุดได้ แล้วยังได้กองกำลังของซุนเซ็กมาเป็นของแถม ระหว่างทางยังมาเจอจิวยี่เพื่อนเก่า ที่ก็ตัดสินใจติดตามซุนเซ็กมาสร้างอาณาจักรใหม่ แถมยังเจอไทสูกู้ แม่ทัพฝ่ายศัตรูที่ก็ยอมแปรพักต์ เนื่องจากค้นพบนายที่มีอุดมการณ์ชัดเจน และมีผีมือน่าฝากชีวิตไว้ด้วย และนี่คือจุดเริ่มต้นสำคัญของง่อก๊ก มหาอาณาจักรหนึ่งในสามของสามก๊ก

แล้วอะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หลายท่านอาจฟังการวิเคราะห์ในแนวอื่นมากก่อน วันนี้อยากให้มาฟังอีกแนวครับ ในเชิงเรื่องของการพัฒนาองค์กร (Organisation Development) ซึ่งเราดึงเอาความรู้ด้านพฤติกรรมศาสตร์ มาประยุกต์ใช้ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ได้ผลครับ

จะเห็นว่าประเด็นของซุนเซ็ก ความใจร้อนระดับนี้ เนื่องจากอายุน้อยมากๆ ... สมัยนี้เราเรียกซุนเซ็ก ว่าพนักงานกลุ่ม Gen Y ดูแล้วเหมือนมาก เพราะไม่ทนกับอะไรที่ไม่เข้าท่าอีกต่อไป จะเห็นว่าจริงๆ แล้ว Gen Y ยุคสามก๊กท่านนี้ ท่านไม่ได้มีความผูกพันธ์กับอ้วนสุดครับ ...ปัญหาสมัยใหม่เราเรียกว่า Employee Engagement ครับ คือคนจะผูกพันธ์ต้องทำอยู่สามข้อคือ Say พูดว่ารักที่นี่ Stay อยู่นาน Strive พยายามทำงานตัวเองให้ดีที่สุด และปรับปรุงอย่างไม่หยุดยั้ง ...

จะว่าไป Gen Y ท่านนี้ ตอนแรกดูเหมือนทำทั้ง 3 S ดูกำลังไปได้ดี แต่ที่สุด ไม่ Stay ครับ ไม่อยู่ต่อไป เพราะวันนั้นเอง วันที่อ้วนสุดไม่ให้เกียรติ ทุกอย่างจบครับ และอ้วนสุดก็จบลงด้วยในอีกไม่นาน หายนะมาเยือน ...

ทำไมครับ แล้วต้องทำอย่างไร ...อ้วนสุดไม่ความรู้เรื่องความฉลาดเชิงเพศภาวะ (Gender Intelligence) ครับ ...ถ้าคุณดูให้ดี ไม่ว่าจะสำนักใคร ล้วนแล้วแต่มีผู้ชายไปกลไกหลัก เล่าปี่ ซุนเซ็ก และโจโฉ ดูเหมือนเข้าใจคน คือเข้าใจ “ผู้ชาย” อย่างลึกซึ้ง มาดูทฤษฎีสมัยใหม่ ครับ John Gray บอกว่าผู้ชายมีความสุข ความฉลาดมากที่สุด คือขึ้นถึงขีดสุด คือมีฮอล์โมนเทสโทสโรน ตัวนี้เป็นสารเคมีในร่างกายที่ทำให้มนุษย์เก่งครับ เงื่อนไขที่ทำให้ฮอล์โมนความเก่งผู้ชาย ออกมามากๆ ประกอบด้วยเงื่อนไขสามข้อคือ ได้เผชิญวิกฤต ได้แก้ปัญหา ได้เป็นฮีโร่ ส่วนผู้หญิงจะเก่งสุด ดีสุดด้วยฮอล์โมนอ๊อกซี่โตซิน โดยมีพฤติกรรมสามข้อคือดูแล เอาใจใส่ ค่อยเป็นค่อยไป ต่างมากๆครับ


จริงๆ คุณจะเห็นว่าผู้ชายในสามก๊ก รบกันอย่างเป็นเอาตาย ทุ่มเท ทั้งชีวิต เพราะอะไรครับ หากมองตามฮอล์โมน คือใันได้เงื่อนไขทั้งหมด ก็กที่อยู่รอดจนเหลือสามก๊ก และยันกันมานานเพราะดูเหมือนเข้าใจเรื่องนี้ ดูเหมือนเล่าปี่ โจโฉ ซุนเซ็ก จะเข้าใจ คุณจะเห็นว่าผู้นำสามคนนี้หาวิกฤติ และปัญหามาให้ผู้ชายในก๊ก แก้กันตลอด นี่เข้าทางเลย แต่ที่ต่างจากก๊กที่ล้มเหลวคือการให้เกียรติยกความเป็นฮีโร่ให้ลูกน้องของตนเองทั้งต่อหน้าและลับหลัง จะดึงคนจากอีกก๊กมาก็จากการให้เกียรติ ให้การยกย่องเชิดชูความสามารถกันนั่นเอง ..ผู้ชายทุกคนต้องการเป็นฮีโร่ครับ

เล่าปี่ ซุนเซ็ก โจโฉ ช่วงตั้งอาณาจักร และรักษาอาณาจักรมาอย่างยาวนานนั้น ล้วนแล้วแต่มุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้ชายเก่งๆ Say Stay Strive ทั้งสิ้น คือจะปรึกษาหารือ สร้างวิกฤติให้ ที่สำคัญยกย่องให้เกียรติ เรียกว่า บริหารฮอล์โมนกันสุดชีวิต

หลายองค์กรตอนนี้เล่าให้ผมฟังเรื่องปัญหา Engagement ให้ผมฟัง ผมก็จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังครับ ถ้ามีผู้ชาย ถึงแม้จะสอนเขา ก็ระวัง เพราะผู้ชายต้องการเผชิญวิกกฤติ ได้แก้ปัญหา ไม่มีคำว่า “ถูกสอน” “ขอคำแนะนำ” ... ผู้ชายจะสอนเขาก็อาจขอคำปรึกษา ขอให้ช่วย ความเก่งของเขาจะมาเอง ส่วนผู้หญิงการให้คำแนะนำอย่างไกล้ชิด ค่อยๆดูและ เอาใจใส่รับฟัง ถามทุกข์สุขสำคัญมากๆ ครับ การให้เกียรติยกย่องเรื่องความสามารถสำคัญมากๆ องค์กรที่นายพยายามจะเก่งเหนือทุกคนอย่างอ้วนสุดหรืออ้วนเสี้ยว นี่เหนื่อยครับ คนไม่ Say Stay Strive แน่นอน ..ลองค่อยๆ คิดดูนะครับ สงสัย inbox มาถามได้ ติดต่อผมได้ที่ www.aithailand.org หรือ email [email protected] ครับ

OD เป็นเรื่องของความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ เข้าใจธรรมชาติของมุษย์ก็จะควบคุม ส่งเสริม ดูแล ให้ทั้งเราและคนในองค์กรเติบโตไปอย่างสร้างสรรค์ งานได้ผล คนเป็นสุขอย่างแท้จริงครับ

วันนี้พอเท่านี้ เพียงเล่าให้ฟัง ลองเอาไปพิจารณาดูนะครับ

บทความโดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์

Note: วันนี้ที่ 27 มิย. นี้ ทาง MBA KKU วิทยาเขตจัดสัมมนาเรื่อง AI ฟรีครับ เราเน้นเรื่อง Engagement มาได้นะครับ


หมายเลขบันทึก: 591180เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2015 10:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2015 07:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท