เส้นทางเดินของชีวิต
"ต่างคนต่างความคิดต่างคนต่างความฝัน" ทุกๆคนต่างก็มีความฝันอยู่ที่ว่าเขาจะค้นพบมันหรือยัง บางคนเจอแล้วและก็ยังพยายามทำตามความฝันอยู่ บางคนเจอแล้วแต่กลับต้องพยายามตามความฝันของใครบางคนแทน บางคนยังไม่เจอและก็กำลังตามหาความฝันนั้นอยู่ บางคนยังไม่เจอใช้ชีวิตแบบคนตายโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะอะไรเขาถึงใช้ชีวิตแบบคนตาย มีคนเคยพูดไว้ว่าถ้าไม่มีความฝัน ไม่มีเป้าหมายใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ กิน นอน มีแค่นี้ในชีวิตก็ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้ว
ฉันเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีความฝัน ในตอนเด็กความฝันฉันมักเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ตอนอยู่ชั้นป.5 ฉันอยากเป็นตำรวจ ตอนนั้นพ่อดีใจมากที่รู้ว่าฉันอยากจะเป็นตำรวจพ่อเป็นคนที่ชอบให้ฉันทำอะไรที่บู๊ๆลุยๆ ตอนเด็กพ่ออยากให้ฉัยเรียนต่อยมวยมาก ถ้าพ่อมีลูกชายพ่อคงจะให้ลูกเป็นตำรวจแน่ๆ พอขึ้นมามัธยมศึกษาตอนต้นก็อยากเป็นนักวิจัย ไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไงได้ยินต่อๆกันมาก็อยากจะเป็นไปตามเขา ชีวิตช่างน่าตลกแท้หน๋อ แต่พอเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 "ฉันก็มีความฝันว่าอยากจะเป็นครู" จบม.6 ก็สมัครสอบครู ฉันดันมาสอบติดโครงการผลิตและพัฒนาครูสู่ความเป็นเลิศ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่เข้าพอดี ฉันก็เลยเรียนครูมาจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้ฉันอยู่ปี3แล้ว อีก2ปีก็จะจบ จะก้าวออกจากการเป็นนักศึกษาแล้วไปเป็นครูในอนาคต ฉันคิดว่าฉันเลือกเส้นทางเดินของชีวิตได้ถูกทางแล้ว ฉันจะเป็นครูที่สอนหนังสือให้กับเด็กๆและจะทำให้พวกเขาได้รับความรู้และมีความสุขกับการเรียนมากที่สุด ฉันอยากจะไปเป็นครูบนดอยสอนเด็กที่ยังขาดโอกาส ขาดครูดีๆที่จะขึ้นไปสอน เด็กทุกคนคืออนาคตของชาติในอนาคต ไม่เพียงแต่เด็กในเมืองเท่านั้น เด็กที่อยู่ในถิ่นที่ห่างไกลพวกเขาก็ควรจะได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เท่าเทียมกันด้วย
"ไม่มีคำว่าสายที่จะทำตามความฝัน" แม้คุณจะมีอายุมากแค่ไหนก็ตามแต่ เพราะอายุก็แค่ตัวเลขที่บ่งบอกว่าคุณเกิดมาบนโลกนี้เป็นเวลานานเท่าไหร่แล้ว ไม่ได้หมายความว่าการทำความฝันของคุณจะสำเร็จน้อยลงหากอายุมากขึ้นมันไม่ได้เกี่ยวกันสักเท่าไหร่ ที่สำคัญกว่านั้นคือคุณมีจิตใจที่มุ่งมั่นจะทำตามความฝันนั้นมากน้อยแค่ไหน ฉันขอให้ความฝันของทุกๆคนเป็นจริง อย่าเพิ่งท้อแท้ ถ้าล้มก็แค่ลุกแล้วสู้ต่อไป
ความเห็น (4)
ขอบคุณที่เข้ามาแบ่ปัน ประสบการณ์ที่ดีๆ ให้แก่กันนะคะ
นางสาว อรวรรณ รกไพร ไว้เรามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ดีๆกันอีกน่ะ
กมล เราจะสู้ไปด้วยกันนะคะ