....มาฆะตถาคตตรัสให้..........โอวาท
ปาฏิโมกข์พึงฉลาด................เร่งรู้
นำปฏิบัติมิหย่อนขาด.............ละเลิก
สันติสงบได้แด่ผู้...................มั่นแท้เพียรเสมอ
....เธอพึงสามหลักค้ำ............มั่นประจำ
อีกสี่หมายหมุดนำ.................ตระหนักแจ้ง
วิธีหกให้กระทำ.....................แบบอย่าง
วจนะไป่ปล่อยแล้ง................"ตื่นรู้"กระจ่างไสว
....๑ ไป่เปิดโอกาสให้............บาปใด
ปวงบาปหนักเบาไว................หลีกเว้น
๒ กายจิตพิสิฐพิสุทธิ์ใส..........ปฏิบัติ
๓ กุศลกิจมิเฉื่อยเร้น..............รับใช้ช่วยเหลือ
โอวาทปาติโมกข์มักถูกกล่าวถึงในแง่หลักธรรม 3 อย่างเดียวว่าเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา
อย่างไรก็ตามพระพุทธพจน์ 3 คาถากึ่ง อาจสรุปใจความได้เป็นสามส่วน
คือ หลักการ 3 อุดมการณ์ 4 และวิธีการ 6
จากวิกิพีเดีย
ขออนุญาตชี้แจงครับ
มีผู้ติงคำ "มาฆะบูชา" ว่า
เขียน "มาฆบูชา"
ต้องขอขอบคุณ ณ ที่นี้
แต่ตั้งใจเขียน "มาฆะบูชา" ครับ
ด้วยต้องการ ไม่ให้เป็น คำสมาส
ประสงค์จะหมายถึง
ครั้นถึง มาฆฤกษ์ (ดวงจันทร์เดินมาถึงดาวฤกษ์ชื่อ มฆะ)
จึงตระหนักถึง ธรรม (โอวาทปาติโมกข์)
ที่พระพุทธองค์ตรัสสอน
อันพึงสมควร "ปฏิบัติบูชา"
คำสมาส การแปลต้องแปลจากหลังมาหน้า (คำตั้งอยู่หลังคำขยายอยู่หน้า) เช่น ราชการ การเป็นคำตั้ง ราชขยายการ =งานของพระเจ้าแผ่นดิน อุบัติเหตุ เหตุเป็นคำตั้ง อุบัติขยายเหตุ=เหตุการณ์ที่กิดโดยไม่คาดคิด แต่ก็มีคำสมาสบางคำที่แปลจากหลังไปหน้า และหน้าไปหลังได้ถ้ามีความหมายเหมือนกัน ก็ถือเป็นคำสมาส เช่น บุตร+ธิดา=บุตรธิดา ไม่ว่าจะแปลจากหลังไปหน้าหรือหน้าไปหลัง ก็แปลว่า ลูก เหมือนกัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ขอบคุณบันทึกดีๆ ครับ