สังขาร (ขันธ์ ๕) / ความคิดปรุงแต่ง




บนเส้นทางธรรม

เราจะเห็น คำว่า "สังขาร" อยู่ในหลาย ๆ ธรรม

จากประสบการณ์ของผม

ในช่วงแรกของการเรียนรู้ธรรมนั้น

ด้วยความไม่รู้ จึงทำให้ไม่เข้าใจ คำว่า "สังขาร"

ไม่เข้าใจคำว่า "ความคิดปรุงแต่ง" อยู่เป็นนาน


โดยก่อนเริ่มเดินบนเส้นทางธรรมนั้น ผมเข้าใจเพียงว่า สังขาร คือ ร่างกาย

พอเริ่มปฏิบัติธรรม จึงเข้าใจเพิ่มเติมว่า มีทั้งกายสังขาร วจีสังขาร และจิตสังขาร

เวลาต่อมา เมื่อฝึกตนมากขึ้นเรื่อย ๆ เราจะเริ่ม "วางกาย" ได้

(สังเกตุจากการไม่หงุดหงิดไปกับการง่วง หรือ ปวดขาเวลานั่งฟังธรรม เป็นต้น)


เมื่อพอจะวางกายได้บ้างแล้ว จึงจะก้าวสู่การเพียร "วางใจ" หนอ

ณ ตอนนั้น เราจะเริ่มให้ความสนใจกับ "กายสังขาร" น้อยลง

และจะเพียรฝึกตน ให้ความสนใจหลักมุ่งมาที่ "สังขาร" ที่เป็นนามธรรม

หรือ "ความคิดปรุงแต่ง" นั่นเอง


ยอมรับตามตรงว่า ผมรู้จัก "ความคิดปรุงแต่ง" ในทางธรรมนั้นผ่านพระสูตร

แต่ก็ใช้เวลาอยู่หลายปีในการทำความเข้าใจ "สังขาร" ที่หมายถึงความคิดปรุงแต่งนี้


ยกตัวอย่างเทศนาคำสอนของท่านหลวงปู่ดูลย์ อตุโล

ที่ท่าานเมตตาสอนไว้ประมาณว่า


"ผู้คิดไม่รู้ ผู้รู้ไม่คิด

ไม่คิดไม่รู้ ไม่รู้ต้องคิด"


แรก ๆ ผมก็แย้งว่า ในชีวิตจริงของมนุษย์นั้น ต้องใช้ความคิดในการทำงานไม่ใช่หรือ

การฝึก "ไม่คิด" นั้น จะเป็น "ผู้รู้" ได้อย่างไร หนอ


คำตอบสำหรับข้อสงสัยข้างต้นนั้น

จากประสบการณ์ผมพบว่า เราไม่สามารถหาคำตอบได้ด้วยการคิดด้วยเหตุและผล

แต่เราจะได้คำตอบจากการปฏิบัติ หนอ


อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ คำสอนในขันธะวิมุตติ ของพระอาจารย์มั่น

ที่กล่าวว่า


มีไม่มี

ไม่มีมี



ท่านหมายถึงว่า สิ่งที่ "มี"

หรือเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในชีวิตของเราทุกเมื่อเชื่อวันนั้น

ในทางปรมัตถ์แล้ว เป็นธรรมดา ธรรมชาติ ที่ "ไม่มี" ..


ผมขอใช้มิติของเวลามาช่วยอธิบาย ดังนี้ หนอ

- สงครามกรุงศรีอยุธยาในอดีต เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่ในปัจจุบันนี้มีผลต่อความคิดเราน้อยมาก

- สงครามเหลือง-แดง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่อีกพันปีข้างหน้า

- สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับนโปเลียน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่ในปัจจุบันแทบจะ ..


จากตัวอย่างข้างต้น เป็นอรรถาธิบายประกอบคำว่า มี แต่ ไม่มี



ส่วนคำว่า ไม่มี (จึง) มี

นั่นหมายถึงว่า ตราบใดที่เรายังมีความคิด ทั้งที่เป็นอกุศล หรือ กุศล ก็ตาม

ความคิดเหล่านั้น จะปกปิด ความรู้ในระดับที่ลึกเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง

นั่นหมายถึงว่า


ถ้า ไม่มี (ความคิดปรุงแต่ง) แล้วจึงจะ "มี" ความรู้ในระดับที่ลึกกว่า หนอ


แต่ความยากประการสำคัญที่สุด คือ

มีไม่มี

ไม่มีมี

นี้

เป็นเหมือนความพยายามอธิบาย สีขาว ให้คนที่ตาบอดมาตั้งแต่กำเนิดฟัง

เป็นสิ่งที่เห็นได้ยากมาก ๆ ต้องปฏิบัติเอง รู้เอง เห็นเอง หนอ




















จน ณ วันนี้

หมายเลขบันทึก: 583979เขียนเมื่อ 14 มกราคม 2015 23:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มกราคม 2015 09:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

-สวัสดีครับ

-มีไม่มี....ไม่มีมี...

-ขอบคุณครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท