<ว่ากันเรื่องปรัชญาการศึกษา>
บางทีการที่เราศึกษาปรัชญาทางตะวันตกมาก ๆ ก็ทำให้เราหลงลืมไปว่า ไทยเราเองก็มีปรัชญาของการจัดการศึกษาเหมือนกัน
และนักปรัชญาคนสำคัญ ก็คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ผมเคยอ่านงานเขียนเรื่อง "รอยพระยุคลบาท" ของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ เล่าไว้อย่างน่าสนใจว่า
ในเขตชนบทที่ห่างไกลหลายพื้นที่ ที่ในหลวงพระราชทานแนวพระราชดำริไว้ ชุมชนหลายแห่ง ก็กราบบังคมทูลขอพระเมตตาในหลายเรื่อง
โดยเฉพาะวัด
วัดในหลายชุมชน ขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ให้ทรงบูรณะบ้าง ขอพระราชทานอุโบสถใหม่ ศาลาใหม่บ้าง แล้วแต่ว่าอยากจะให้มีอะไรใหม่
ปรากฏว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้พระราชทานให้
มีพระราชดำริว่า จะให้สร้างวัดอลังการ โบสถ์ใหญ่ ศาลางาม ในขณะที่ชุมชนชาวบ้านรอบวัด ยังขาดแคลนและยากจนได้อย่างไร
แต่ถ้าเราพัฒนาชุมชนไปด้วย วัดก็จะได้รับผล เพราะชาวบ้านมีกำลังเพียงพอที่จะดูแล
ทุกอย่างต้องไปพร้อมกัน เพราะฉะนั้น จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์และวัสดุก่อสร้างสำหรับซ่อมแซมศาสนวัตถุเท่าที่จำเป็น
ทุกวันนี้ ผมมาย้อนดูเป้าหมายในการสร้างเด็ก พัฒนาเยาวชน เราสร้างเด็กที่เป็นนักวิชาการจำนวนมาก ที่ "โดดเด่น" แต่หลายคน กลับไม่รู้จักพื้นฐานของสังคม ชุมชน ที่ตนเองอยู่
ไม่รู้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังยากจน ขาดแคลน ไม่มีกิน ไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ
ปรัชญาจากในหลวง ที่ทรงมองทุกอย่างโดยภาพรวม ไม่เน้นการพัฒนาเฉพาะจุด ทำให้เราทราบว่า ทุกอย่างต้องพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน จึงจะส่งเสริมกันและกันได้
นี่เป็นปรัชญาที่ได้พระราชทานไว้ ซึ่งผู้ที่สนใจแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต น่าจะนำไปแลกเปลี่ยนกับผู้อื่่นครับ
ทรงพระเจริญ
________________________________________________________
ไม่มีความเห็น