การส่งนักศึกษาครูออก
"ศึกษาสังเกต" โรงเรียนนั้น
เป็นการให้ประสบการณ์ตรงกับพวกเขา
เมื่อกลับมาการสอบประมวลความรู้จึงต้องมีสอบถาม
ในสิ่งที่เขาได้พบเห็นและคิดคำนึงถึงเรื่องราวต่าง ๆ
ข้อสอบเก่า ๆ ที่เพิ่งไปได้สัก ๑ ปีถูกนำมาปัดฝุ่น
เลือกสรรและคัดกรอง
นักศึกษาได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับ "นักเรียน" บ้าง
"... นักเรียน มีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน บางห้องก็อาจจะมีเด็กพิเศษ และชอบนั่งใต้โต๊ะ ไม่ชอบเรียนหนังสือ บางห้องเด็กก็ดูซึมเศร้า ไม่พูดกับใคร เป็นตัวของตัวเองสูง เราต้องรู้จักการปรับตัว การวางตัว และการเข้าไปคลุกคลีกับเด็ก แต่เด็กบางคนก็น่ารัก ร่าเริง แจ่มใส เราต้องรู้ว่า เด็กแต่ละคน เราต้องทำอย่างไร และควรพูดจาอย่างไร เพื่อที่ไม่ให้เขากลัวเรา นักเรียนโรงเรียนนี้น่ารัก มีมารยาทที่ดี และคอยช่วยเราทำอะไรตลอด ที่จะทักเราบ่อย ๆ หรือกล้าคุยก็จะเป็นนักเรียนประถมต้น นักเรียนประถมปลายจะไม่ค่อยมาคุย และไม่ทักทายเลย บางครั้งอาจจะวิ่งชนเราด้วยซ้ำไป แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นเด็ก เราก็ต้องคอยสอน คอยบอกกล่าวเขาเอง สักวันเขาก็จะต้องรู้ว่าควรทำอย่างไร และควรจะปฏิบัติตนต่อผู้ใหญ่อย่างไร นักเรียนเขาจะมาคุยกับเรา เรียกเราว่า คุณครู เขาเห็นว่า เราเป็นครูของเขา จากนั้นเราก็ต้องทำตัวดี ๆ เพื่อที่จะให้เขาเห็นว่า เราเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาได้ ..."
(ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน ... เป็นสิ่งที่เด็กคนนี้ได้รับด้วยตัวเอง
ต่อให้ฟังครูพูดสักแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ จนกว่าเขาได้สัมผัสเรื่องนี้เอง)
ผมถามถึง "ความประทับใจ" ที่มีการไปศึกษาสังเกตที่โรงเรียนจริง
"... การที่ได้ไปสังเกตการสอนที่โรงเรียนแห่งนี้มีความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งคณะครูอาจารย์ ผู้บริหาร และนักเรียนมองแต่สิ่งดี ๆ ให้ ทั้งความอบอุ่น ความเป็นห่วงเป็นใย การดูแลทุกอย่าง และยังเป็นห่วงความปลอดภัยของเราด้วย มีความรักความเมตตา และเป็นกันเอง บอกได้เลยว่า ประทับใจที่สุดในโรงเรียนนี้ ไปแล้วทำให้อยากไปอีก มาครั้งแรกก็ประทับใจ ครั้งต่อ ๆ ไปก็อยากจะไปเยี่ยมเยียน คณะครูก็คอยช่วยเราตลอดทั้งการหาข้อมูลและกิจกรรมต่าง ๆ ก็ช่วยเรา ให้คำปรึกษาเรา ดูแลทั้งอาหารการกิน ทำให้เราไม่เกร็ง ท่านรองฯ ก็ใจดี ให้คำแนะนำแก่เราตลอด ซึ้อขนมเตรียมของให้เราใส่บาตร ไม่มีการขัดแย้งหรือเหตุการณ์เลยร้ายใด ๆ เลย ทำให้เรามีความสุขตั้งแต่วันแรกจนถึงวันศุกร์สุดสัปดาห์ แค่นี้ก็ดีใจมากแล้วในการสังเกตครั้งนี้ ไปไหนครูพี่เลี้ยงก็จะพาเราไปด้วยตลอด เวลาทานอาหารกลางวัน ก็ท่านกับพวกครูพี่เลี้ยงในโรงอาหารครู ครูที่โรงเรียนนี้ใจดี นักเรียนก็น่ารัก พอวันศุกร์ก็รู้ว่า เราจะมาวันสุดท้ายแล้ว พากันมาถามว่า เราจะมาอีกเมื่อไหร่ ความประทับใจที่ไม่มีวันลืม คือ เด็กชายคนหนึ่ง ป.๒/๑ วาดรูปให้ครู แล้วบอกว่า ผมเอาให้ครูครับ แล้วก็วิ่งหนีไป พอเปิดกระดาษมาดูจึงทำให้รู้ว่า นักเรียนก็รักและให้ความสำคัญกับเราไม่น้อยกว่าครูที่สอนพวกเขาเลย คงไม่มีใครคนไหนที่จะได้รับความรู้สึกแบบนี้แล้ว มันเป็นความรู้สึกที่แบบว่าอธิบายมาเป็นคำพูดไม่ถูกจริง ๆ เลย ..."
(ไม่มีอาชีพไหนพิเศษไปกว่าอาชีพครูอีกแล้ว สำหรับความรู้สึกแบบนี้
นักศึกษาครูทุกคนจะได้รับความรู้สึกนี้เมื่อเขาได้ลงโรงเรียนจริง)
ผลสะท้อนเหล่านี้จากการได้สอนวิชานี้มีความสุขใจจริง ๆ
การดึงความรู้สึกของนักศึกษาครูออกมาวางไว้บนข้อสอบ
เป็นเรื่องที่อาศัยเวลาและกระบวนการหล่อหลอมมากมาย
ผมอาจจะเหมาะกับการสอนรายวิชานี้ก็เป็นได้
คิดว่านะครับ ;)...
บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...
...ความงดงาม ตามธรรมชาติของจิตใจ ทั้งครู นักเรียน ที่ได้รับจาก การ "ศึกษาสังเกตุ" ยอดเยี่ยมมากค่ะ การจะซีมซับ รับรู้ ความรู้สึกที่งดงาม จากการกระทำ ต้องใช้การสังเกตุ ด้วยใจจริงๆ.......
ขอบคุณความงดงาม ที่อาจารย์ ถ่ายทอดค่ะ
ขอบคุณเช่นกันครับ อาจารย์ Joy ;)...
ความดีสวยงามเสมอ นะครับ ;)...
นี่แค่ไปศึกษาสังเกตุแป๊ปเดียวก็เกิดศรัทธาในอาชีพครูแล้ว ยกความดีให้อาจารย์มาก ๆที่ก่อนออกไปคงได้โค้ชกันอย่างดีแล้ว เขาคงรอวันที่จะได้ออกไปฝึกสอนจริง 1 เทอม จะได้อะไรกลับมาอีกมากมาย
ขอบคุณมากครับ ท่านอาจารย์ GD ;)...
เห็นด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ ท่าน ผอ.โรงเรียน ;)...
"...ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน..." ใช่จริงๆ
ขอบคุณมากครับ พี่ nui ;)...
ขอบคุณครับ ท่าน pap2498 ;)...
เป็นเรื่องสะท้อนที่งดงามมาก
ผมยังไม่มีโอกาสได้ให้นิสิตทำแบบนี้เลยครับ
วันที่ 13-14 ผมอยู่ที่วิทยาลัยของแม่ฮ่องสอนครับ
อาจารย์มีสอนวันไหนครับ
ผมมีสอนวันพฤหัสบดีที่แม่ฮ่องสอนครับอาจารย์ ;)...