แตงกวาเป็นต้นไม้เถาเลื้อย มีมือเกาะ ปลูกให้เลื้อยบนพื้นดินหรือทำเป็นร้านไม้เป็นแนวให้สูงจากพื้นดิน ลูกก็จะห้อยไม่ถูกดินก็ได้ เราใช้เป็นอาหารได้แบบสดๆจากต้นและทำให้สุกด้วยความร้อนได้หลายเมนูที่อร่อย และเป็นพืชผักที่เราปลูกได้เองโดยซื้อเพียงเมล็ดพันธุ์มาเพาะปลูกให้ขึ้นต้น ซึ่งมีพันธุ์ลูกเล็กสั้นและลูกใหญ่ยาวให้เลือกปลูก เช่นเดียวกับที่เราปลูกพืชผักสวนครัวอื่นๆ นำสรรพคุณของแตงกวามาฝากพร้อมข้อควรระวัง มาฝากค่ะ
แตงกวา
ชื่ออื่นๆ กวาเลาะ ,แตงขี้ไก้, แตงขี้ควาย ,แตงเห็น,
แตงอ้น ,แตงปี, แตงยาง ,แตงร้าน ,แตงช้าง
สารสำคัญที่พบ
Alanine, campesterol , cucumber blue basic protein , kaemferal,
sitosterol, quercetin, stellasterol,stigmasterol gluoside, viexin
ผลแตงกวา เมื่อนำมาวิเคราะห์ มีส่วนประกอบดังนี้ ความชื้น 96.4 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน 0.4 เปอร์เซ็นต์ ไขมัน 0.1 เปอร์เซ็นต์ คาร์โบไฮเดรต 2.8 เปอร์เซ็นต์ แร่ธาตุ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และ เหล็ก วิตามินบี และวิตามินซี
ผลแตงกวา มีเอนไซม์อยู่หลายชนิดคือ เอนไซม์ ที่ย่อยโปรตีน ascorbic acid oxidase และ succinic และ malie dehydrogenases สารมีกลิ่นที่ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ ซึ่งได้นำมาใช้ผสมในน้ำหอมและแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง เถ้า( ash) จากเมล็ดมีปริมาณของฟอสฟอรัสสูง
สรรพคุณ
ราก แก้ท้องเสีย แก้บิดแก้บวม อักเสบ
ใบ ขับปัสสาวะ แก้หนองใน ลดความดันโลหิต
ผล แก้ขัดเบา ขับปัสสาวะ ลดเบาหวาน
น้ำจากผล ทำให้ผิวชุ่มชื้น
เมล็ด ขับปัสสาวะ
ส่วนที่ใช้ ผล
วิธีใช้ นำมารับประทานเป็นอาหาร
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ยับยั้งการบวมน้ำต้านการก่อมะเร็ง
กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด รักษาโรคลักปิดลักเปิด
(ขอบคุณแตงกวาลดไขมันฯ จากหนังสมุนไพรลดไขมันในเลือดโดย ภกญ.จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก )
สรรพคุณตามตำราแพทย์แผนไทย
ใบ รสเฝื่อน ทำให้อาเจียน แก้ท้องเสีย
ลูก รสเย็น ระบาย บำรุงธาตุ ขับปัสสาวะ
ตำพอก แก้อักเสบ ทำให้ผิวนุ่ม
น้ำคั้นจากผล ใช้ลอกฝ้า แก้นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
ผลแก่ คว้านเอาเมล็ดออก ใส่สารส้มแทน ย่างไฟให้สุก คั้นเอาน้ำขับนิ่ว แก้ขัดเบา
เมล็ด รสมันเย็น ขับปัสสาวะ บำรุงร่างกาย แต่แสลงกับโรคข้อ
ราก รสเย็น ขับปัสสาวะ ป้องกันการขาดวิตามมินบี ๑
( ขอบคุณสรรพคุณแตงกวาจากหนังสือสารนุกรมสมุนไพร ฯโดย วุฒิ วุฒิธรรมเวช )
ผู้ที่เป็นโรคข้อหรือโรคเก๊าต์ ปวดอักเสบข้อ ฯ
ไม่ควรกินเมล็ด/ไส้แตงกวานะคะ มีกรดยูริคที่แสลงกับโรคข้อ
….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/479600
แตงกวาเป็นพืชผักที่ปลูกได้เอง ผลของแตงกวาดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง และผู้ที่มีความดันโลหิตสูง แต่ผู้ที่ป่วยโรคใดโรคหนึ่ง หรือทั้ง 3 โรคที่กล่าว หากเป็นโรคข้อหรือโรคเกาต์ ก็ไม่ควรนำมาเป็นอาหารนะคะ ส่วนใหญ่แล้วเราไม่ค่อยทราบว่าในลูกแตงกวามีกรดยูริคที่แสลงกับโรคข้อ ที่เราทราบกันดีของต้องห้ามของผู้ป่วยโรคเก๊าต์ หรือรูมาตอยด์ คือ กรดยูริคที่มีอยู่่ในยอดผักต่างๆ
ผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะไม่ปกติแต่ไม่เป็นโรคปวดข้อ ก็นำมาเป็นอาหารบ่อยๆได้นะคะ แตงกวาทั้งลูก ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงธาตู บำรุงร่างกาย ส่วนคนปกติก็นำมาทำอาหารได้ทั้งดิบสดๆ เช่น จิ้มน้ำพริกต่างๆ ใส่ในสลัด ใส่ในยำ เป็นผักเคียงแต่งจานอาหาร ฯ และทำให้สุกด้วยความร้อนได้อร่อย เช่น ต้มจืด ผัดเปรี้ยวหวาน ผัดไข่ ฯ ตามชอบได้บ่อยๆตามต้องการนะคะ และผู้ที่ชอบใช้สมุนไพรทำให้ผิวสวย แก้ฝ้า แตงกวาสดเป็นอีก 1 สมุนไพรที่ดีต่อผิวค่ะ และ ผลแก่ คว้านเอาเมล็ดออก ใส่สารส้มแทน ย่างไฟให้สุก คั้นเอาน้ำช่วยขับนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ด้วยนะคะ ทำอย่างไรจะนำฝากในบันทึกต่อไปค่ะ
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
วันอังคารที่ ๖ มกราคม พ.ศ ๒๕๕๘
เขียนได้สาระดีน่าสนใจมากๆนะคะ
เป็นผักที่ชอบกินมาก
เด็ดมาจากต้นใหม่ๆหวานมากๆครับ
ขอบคุณพี่มากๆครับ