ด็อกเตอร์ การ์เด้น ตอน ปักตะไคร้ไล่ จ๊าดง่าว!


ปักตะไคร้ ไล่จ๊าดง่าว!!!

ฉันยังคงควานหาจิกซอว์ชิ้นสำคัญชิ้นต่อไป เพื่อสืบให้รู้ถึงสายพันธุ์ไผ่ในสวนทั้ง 5 ก่อ แต่กลับต้องมาแบกรับเรื่อง ตะไคร้อีกหนึ่งร้อยกิโล

ถึงคราที่ต้องหาบ้านเอื้ออาทรให้ตะไคร้ได้พักพิงกันซะที

ความตั้งใจแรกคือ อยากนำตะไคร้ทั้งหมดไปปลูกในป่าต้นน้ำ บนพื้นที่ป่าเอราวัณ เพื่อให้เสือ กวาง ช้างได้มีไว้กินในยามเจ็บป่วย แต่พี่ชายของฉันทักท้วงว่า " เสือนะเว๊ย ไม่ใช่หมา มันจะได้กินใบตะไคร้ " เราเลยจำใจจำต้องพาตะไคร้ขึ้นไปเที่ยวจังหวัดลำพูนด้วยกัน

พอล้อรถจอดสนิท สองพระ-นางคู่ขวัญได้เดินออกมายืนต้อนรับการเดินทางกลับบ้านของลูกๆ อยู่ตรงหัวบันได พ่อกับแม่ทำหน้าแปลกใจเมื่อเห็นตะไคร้อยู่เต็มหลังกระบะรถ

แล้วคำตอบแบบไหนล่ะ ? ที่จะรอดพ้นจากการถูกแม่ด่าเรื่องตะไคร้ของคนขี้เกรงใจ

" เอาตะไคร้มาทำอะไรเยอะแยะมากมายขนาดนี้ " แม่ส่งสารแสดงความสงสัย เพราะในสวนของเราปลูกตะไคร้ไว้หลายกอ

" อ๋อ....พระครูปลัด เฟอร์กี้ ท่านให้ช่วยเอาตะไคร้ปลุกเสกมาขยายพันธุ์น่ะแม่ พอมันโตได้ที่แล้ว ค่อยตัดไปถวายคืนท่าน ท่านจะเอาไปบดทำพระผง รุ่นพิเศษ ช่วยขจัดเภทภัยที่โอล แทรฟฟอร์ด ช่วงนี้ลูกศิษย์ลูกหาของท่านมีเคราะห์กันทุกกุฏิ พระศุกร์เข้าพระเสาร์วืด ปลูกแล้วได้บุญนะแม่ "

แม่ไม่ชอบดูกีฬา ไม่เคยสนใจข่าวกีฬา ส่วนพ่อเป็นแฟนพันธุ์แท้เวทีลุมพินี กับ ราชดำเนิน

แต่พอขึ้นต้นว่าด้วยเรื่องพระเรื่องวัดเรื่องทำบุญแล้วล่ะก็ แม่จะไม่ด่าในทันที พลางคิดในใจว่า พระครูปลัด เฟอร์กี้ คงจะเป็นพระฝรั่งผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สายวัดป่านานาชาติ แล้วตะไคร้ปลุกเสกทั้งหลายทั้งปวงนี้ ได้เดินทางมาจากวัดไทยในต่างแดน ที่ชื่อว่า วัดเก่า แทรฟฟอร์ด มังคลาราม

พ่อกับแม่รีบเดินลงมาเกาะท้าย กระบะรถอย่างสนอก สนใจ เตรียมตัวสัมผัสพลังงานที่ซ่อนเร้นในตะไคร้หน้าตาแปลกๆที่แตกต่างจากตะไคร้ในสวนของเรา

ฉันรีบแปลงร่างเป็น พริตตี้ต้นตะไคร้ เตรียมพรีเซนต์ คุณสมบัติผลผลิตทางการเกษตรตัวใหม่ ให้ลูกค้าตะลึงงัน

" พ่อลองดมตะไคร้ดูซิจ๊ะ!! มันจะมีกลิ่นหอมๆ แบบตะไคร้จางๆ อโรม่าเบาๆ ชวนผ่อนคลายเวลาสูดดม ไม่เหมือนตะไคร้โบร่ำโบราณ หรือตะไคร้แกงแบบในสวนทั่วไป อันนั้นกลิ่นจัดจ้าน ใช้ทำต้มยำ และ ทำเครื่องพริกแกงเท่านั้น

แต่ตะไคร้ตัวนี้ ทำได้มากกว่า ถ้ากินสดๆจะอร่อยมาก ยำตะไคร้นั้นไซร้แสนอร่อย...เป็นที่สุด ไม่เผ็ดชา ฝังค้างที่โคนลิ้น

ตัดมาแค่เพียง 1 ลำ ยำได้ 1 จานขนาดพออิ่ม เพราะลำต้นของมันอวบใหญ่กว่าตะไคร้ทั่วไป

แม่เห็นใบของตะไคร้นี้มั๊ยจ๊ะ!! ใบของมัน ใหญ่ กว้าง ยาว และนี่แหละ...เค้าเอาไปหันซอยทำชาตะไคร้ สรรพคุณในการรักษาโรคและบรรเทาอาการเจ็บป่วย....มีเพียบ!!"

ยังไม่ทันจะโฆษณาจบ คุณลูกค้าทั้งสองเริ่มลองแตะตะไคร้ หยิบไปกัดกิน แทะและดอม ดม

" เออออออออออ !!!!!! จริงด้วยนะพ่อนะ เป็นอย่างที่ลูกมันว่าจริงๆ ต้นใหญ่กว่าตะไคร้บ้านเราอีกแน่ะ ฝรั่งเค้าคงกินตะไคร้แบบนี้กัน ตะไคร้ของไทยมันกลิ่นแรง เผ็ดเกินไป ฝรั่งเค้าคงไม่ชอบ พ่อดมดูซิ กลิ่นผู้ดี๊...ผู้ดี จัง " แม่เริ่มเห็นดีเห็นงาม

" ใช่แล้วจ๊ะแม่จ๋า.....เพราะมันคือ ตะไคร้พันธุ์ขาวหยวก หรือ ตะไคร้พันธุ์เกษตร ที่เขาปลูกส่งนอกกันไงล่ะจ๊ะ "

ฉันนำเสนอตะไคร้อยู่ไม่ถึง 5 นาที แม่อนุญาตให้ปลูกตะไคร้ได้ แต่ปัญหาใหญ่กลับมาอยู่ที่พ่อแทน

" ไม่เอา...ไม่เอา...อย่าเอาของพระ ของสงฆ์เข้ามาในบ้านอย่างเด็ดขาด เดี๋ยวจะไม่เจริญ ทำมาหากินไม่ขึ้น เอาไปปลูกที่วัดนู่น ของวัดมันต้องอยู่ที่วัด "

งานเข้าเลยทีนี้ เวรกรรมตามซัดยังกะ หอกโมกขศักดิ์ติด GPRS มันบอกพิกัดได้แม่นยำเหลือเกิน เพิ่งมุสาพ่อแม่ไปหยกๆ เรื่อง พระครูปลัด เฟอร์กี้ เจ้าอาวาสวัดเก่า แทรฟฟอร์ด มังคลาราม คราวนี้ ของขลังย้อนกลับเข้าตัวทันที !

" เอ๊ะ !! คุณนี่ก็!!!!...อย่าขัดฉันซิ....ฉันบอกว่า ปลูกได้ มันก็ปลูกได้ซิ ปลูกแล้วจะเป็นสิริมงคลกับบ้านกับสวนซะอีก ไอ้นุ้ย....แกผาติกรรมมาหรือยัง ถวายท่านพระครูไปเท่าไหร่ ? " ศึกแดงเดือดกำลังจะปะทะกันท้ายรถกระบะนี่ล่ะวะ ระหว่างพ่อ กับ แม่

พ่อสอนพวกเราเสมอ เวลาไปวัดแล้ว อย่านำของวัดกลับมากินที่บ้าน ถึงแม้ว่าพระสงฆ์ท่านจะอนุญาตก็ตาม หากเราจำเป็นต้องนำของสิ่งนั้นกลับมาที่บ้าน เราต้องทำการ " ผาติกรรม " และเอาเงินไปทำบุญให้เป็นกิจจะลักษณะ

อย่าเอาของวัดมาฟรีๆ เพราะตายไปแล้วจะตกนรก และถ้ายังไม่ตายก็จะไม่มีความสุขความเจริญ เพราะเหมือนการขโมยของวัดของพระมากิน มาใช้

ฉันเสียเงินไปตั้ง 3,000 บาทที่สวนไผ่ตงลืมแล้ง นี่ยังไม่รวมค่าน้ำมันวิ่งรถไป-กลับ รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆเกือบสร้างห้องน้ำถวายวัดได้ 1 ห้อง

" ถ้าผาติกรรมแล้ว ก็เอาไปปลูกขยายพันธุ์ให้ท่านพระครูได้ ของแค่นี้ทำไมจะช่วยพระช่วยเจ้าไม่ได้ มันเป็นกุศลอันมหาศาล พระสงฆ์ท่านมีความจำเป็น ถึงมาออกปากกับญาติโยม คุณนี่มันมีอคติกับพระสงฆ์ไม่เลิกไม่รา ท่านไม่ได้บอกบุญให้ลูกเราปลูกฝิ่นหรือต้นกัญชาซะเมื่อไหร่ล่ะ "

.....ดูปากแม่อีกครั้งนะคะ....ปลูกตะไคร้ของท่านพระครู เฟอร์กี้ ได้ !!

บ้านหลังนี้...เมียกูใหญ่ นั่นคือคติประจำใจของพ่อเวลาที่แม่ตวาดกลับ ในที่สุด สวนของเราก็ได้ต้นตะไคร้พันธุ์ขาวหยวก รสชาติผู้ดี เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่แห่งบ้านสวัสดิ์มนตรี

แต่การปลูกตะไคร้ครั้งประวัติศาสตร์นี้ กลับหฤโหดมากกว่าที่เกษตรกรผู้ปลูกตะไคร้ใดๆในโลก....เขาทำกัน

เพราะก่อนหน้านี้ ประมาณ 3 ปีที่แล้วแม่ได้จ้างรถแม็คโคร มาขุดหลุมขนาดใหญ่ และเอาดินที่ได้จากการขุดขึ้นมากองในพื้นที่ที่เคยทำนาข้าวทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 400 กว่ากอง

และที่จดจำได้อย่างแม่นยำ ฉันเคยทะเลาะกับแม่เพราะเงินจำนวน 60,000 บาท ที่แม่นำไปจ่ายค่าขุด " บ่อไร้น้ำ "

เพราะแม่ต้องการแค่เนื้อดินขึ้นมาปลูกลำไยเท่านั้น ไม่ได้ต้องการน้ำจากบ่อ มันทำให้เราเสียทั้งพื้นที่นา เสียทั้งพื้นดินที่ต้องกลายเป็นหลุมกว้างขนาดใหญ่ซึ่งใช้การอะไรไม่ได้อีกเลย ไม่มีน้ำในบ่อให้เราได้สูบขึ้นมาใช้งานเกษตร

แต่แม่ชี้แจงเหตุผลของแม่ว่า มันประหยัดเงินได้มากกว่าไปสั่งซื้อดินมาถมที่

และบ้านหลังนี้...เมียพ่อกูใหญ่ มันคือคติประจำใจที่ลูกๆทุกคนพึงสังวรณ์

" แกจะปลูกตะไคร้ท่านพระครูก็ได้นะ ฉันอนุญาต !! เพราะตะไคร้มันช่วยปรับสภาพดิน ปลูกแล้วดินมันจะดี...แต่แกต้องปลูกบนโคกนะ ปลูกแค่ข้างๆขอบๆโคกเท่านั้น เพราะตรงกลางโคก ฉันจะเอาลำไยมาลง "

แม่ทำลายผืนนาเพื่อเตรียมโคกดินไว้สำหรับปลูกลำไยเพิ่มอีก 400 กว่าต้น มากว่า 3 ปี

พอถามแม่ว่า " เมื่อไหร่จะปลูกลำไยซักทีล่ะแม่ ? "

แม่กลับตอบว่า " ปลูกอะไรมันก็ต้องดูฤกษ์ดูยาม ปลูกบ้านยังมีฤกษ์ยกเสาเอก-เสาโท ปลูกต้นไม้ก็เหมือนกัน เราต้องดูด้วยว่า ปลูกข้างขึ้น หรือ ข้างแรม แล้วปลูกวันไหนมันถึงหนุนเจ้าของที่ "

.......สัปดาห์หนึ่ง มี 7 วัน.......ข้างขึ้น-ข้างแรม มีทุกเดือน.....แม่เตรียมดินรอปลูกลำไยมา 3 ปี สงสัยว่า แม่คงจะได้ฤกษ์ปลูกต้นลำไยในปี อธิกสุรทิน มั้ง???!!!!! 4 ปี มี 1 ครั้ง

ก่อนการลงมือปลูกตะไคร้บนท้องทุ่งนาที่รกร้าง อ้างวางต้นข้าวมา 3 ปี ฉันปรึกษาแม่ถึงเรื่องน้ำที่จะใช้รดตะไคร้ เพราะแม่เอาดินมาถมทับทางน้ำหมดแล้ว

แม่ตอบแบบมั่นใจว่า " ฉันเดินระบบน้ำ สปริงเกอร์ไปจนถึงโคกสุดท้ายแล้ว แกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจ้างเค้ามาฝังท่อน้ำ คราวนี้เปิดรดน้ำต้นไม้ได้อย่างสบาย ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย ยกสวิทขึ้นปั๊ป น้ำก็กระจายเต็มสวน มีน้ำไปถึงขอบบ่อเลยด้วยซ้ำ เค้าคิดไม่แพงด้วยนะ "

ฉันลองนั่งคำนวณคร่าวๆจากการไล่บี้ บดขยี้ถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากแม่เลี้ยงลำไย ทั้งค่าจ้าง ค่าเจาะน้ำผิวดิน ค่าเครื่องสูบน้ำ รวมค่าของและอุปกรณ์ต่างๆ ประมาณแสนกว่าๆเท่านั้น

หมดไปอีกแสนกว่า !!!!!!!!!!!! คุณพระที่แอนด์ฟิลช่วย...

ช่างมาช่วยให้พุทธบริษัทผี ปวดหัวใจเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เสียค่าขุดบ่อไร้น้ำไป 6 หมื่น....รวมค่าทำระบบน้ำสปริงเกอร์ รวมๆกันประมาณ 2 แสน ตอนนั้นอยากจะยัดหลอดยาดมเข้าจมูกสัก 10 หลอด

ฉันเก็บอารมณ์ สะกดความรู้สึกทั้งหมดที่มี มาระบายเป็น 6 สเต็ป

จ้วง – ปัก –ฉึก กระแทกตะไคร้ลงไปบนโคกอีรวย และ จ้วง- ปัก – จี๊ด กระแทกหัวใจให้เจ็บจี๊ดด้วยแรงคิดถึง จำนวนเงินที่ครอบครัวต้องสูญเสียกันอีกแล้ว

สารรูปของเกษตรกรผู้ปลูกตะไคร้มือใหม่นั้น เหมือนการเดินทำเกษตร บนสนามแข่งรถมอเตอร์ครอส

ฉันเดิน ขึ้นๆลงๆ บนโคก ไม่มีทางเรียบ เดินปลูกตะไคร้จนตะคริวขึ้นขาทั้งสองข้าง พอปลูกครบ 400 กว่าโคก โคกละ 4 ทิศ ทิศละ 1 ก่อ ก่อละ 4 ต้น ก็ได้เวลาเปิดน้ำสปริงเกอร์ที่แม่เลี้ยงลำไยภูมิใจนำเสนอนักหนา

ฉันนั่งรอน้ำอยู่บนโคกสุดท้ายปลายนา ประมาณเกือบ 1ชั่วโมง น้ำยังเดินทางมาไม่ถึง ด้วยความสงสัยว่าทำไมน้ำเดินทางมาช้า จึงเริ่มไล่ดูหัวสปริงเกอร์ที่ฝังอยู่บนโคก

ดึง-หลุด.....ดึง-ขาด.....ดึง-ขึ้น.....ดึงง่ายๆ.....ดึงมันจนหมดทั้ง 400 กว่าอัน แล้วก็อุทานว่า " สันขวานเอ๊ย!! บ้านพ่อมึงเค้าสอนให้มึงเดินสปริงเกอร์กันแบบนี้เหรอ....ไอ้จ๊าดง่าว!!!! " ฉันตะโกนดังลั่น เพียงแต่เก็บเสียงนั้นไว้ให้ตัวเองฟังคนเดียว

คำว่า จ๊าดง่าว เป็นคำวิเศษณ์ ช่วยขยาย verb ท้องถิ่น ให้สะเทือนเลื่อนลั่นในอารมณ์

กว่าจะรู้ว่า จ๊าดง่าว แปลว่าอะไร เราก็ทำอะไร ง่าวๆ ไปเยอะแยะ โดยเฉพาะทำตามคำแนะนำของน้องชายที่มันหลอกว่า ถ้าใครมาพูดคำคำนี้ต่อหน้าพี่สาวของมันว่า " จ๊าดง่าว " มันแนะนำให้ฉันจงภูมิใจและตอบกลับไปแบบคนกรุงเทพฯว่า " ขอบคุณมากค่ะ ดิฉันก็คิดว่ามันเป็นเช่นนั้น "

ซากฟอสซิลที่เราขุดค้นพบ จากการทำระบบน้ำสปริงเกอร์ของช่างผู้ชำนาญการ ประกอบด้วย

1. ยางในของรถมอเตอร์ไซด์ ใช้มัดหัวสปริงเกอร์เอาไว้กับท่อ

2. เศษไม้อันเล็กๆ มีไว้เพื่ออุดท่อ ป้องกันการรั่วซึมและไหลผ่านของน้ำ

3. เศษผ้าเช็ดเท้าหลากหลายเฉดสีที่ใช้มัดและพันรอบท่อยางที่แตก

4. ท่อยางสีดำที่ถูกหัน สับ ซอย ตามความพอใจของช่างผู้ชำนาญการ

....ฝีมือของเขาเข้าขั้นระดับเทพสั่งทำท่อจริงๆ ถ้าองค์ไม่ลงมาประทับ คงไม่กล้าใช้เท้าทำ พอองค์ลงมาสถิตปั๊ป ก็เอาเท้าทำงานกันทันที.....ฝีเท้าศิษย์ท่านเทพสปริงเกอร์นี่มันเกินคำว่า " จ๊าดง่าว " ไปหลายช่วงตัว

ฉันหอบหัวสปริงเกอร์พร้อมท่อ ที่เสียบหลอกสายตาเอาไว้ เดินขึ้นจาก โคกอีรวย มาเคลียร์กับแม่

การเสียเงินหลักแสนยังไม่แค้นเท่าเสียเหลี่ยม ถูกแหกตา เหมือนโดนดูถูกว่า " โง่ "

แม่ถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก ฉันเองก็หูอื้อ ไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง

ความโกรธถึงขั้นระงับตนเองไม่อยู่ เลยลงไปลุย รื้อท่อน้ำทุกเส้น ขึ้นมาทั้งหมด แบบไม่แคร์ว่า แม่จะเสียเงินไปเท่าไหร่ แต่ความเจ็บใจที่ฉันมีมันมากมาย ทวีคูณ

ฉันสั่งรถไถมาถล่มกองดินที่เพิ่งปลูกตะไคร้ไปหมาดๆ แบบไม่แคร์ตะคริวที่เพิ่งขึ้นขาตนเองไปแหม็บๆ

แม่ได้แต่มองตาปริบๆ....โคกฝัน วิมานลำไยพังครืนลงมากับตาทันที

เพราะการปลูกตะไคร้พันธุ์ขาวหยวกแท้ๆที่ทำให้ความจริงทุกอย่างปรากฏชัด แม่โดนหลอก! โดยช่างผู้ชำนาญการทางด้านระบบน้ำสวนที่แม่กล่าวชื่นชมความสามารถของเขาไม่ขาดปากทั้งต่อหน้าและลับหลัง

แม่มอบความไว้วางใจให้กับเขา โดยที่แม่ไม่เคยเดินลงมาควบคุมการทำงาน หรือสอดส่ายสายตาหาเรื่องจับผิด ถ้าทั้งหมดที่แม่มอบให้....มันคือ คำว่า การให้เกียรติคนทำงาน แต่เขากลับทำให้แม่ผิดหวัง

เศษซากของความไว้เนื้อเชื่อใจคน ยังคงนอนตายเกลื่อนอยู่กลางสวน ทั้งท่อ PVC ท่อยางสีดำ และ หัวสปริงเกอร์

สิ่งเดียวที่คนเป็นลูกทำได้ดีที่สุดในตอนนี้ คือ เก็บซากทั้งหมดที่ยังพอใช้งานได้มาประติดประต่อและเดินระบบน้ำขึ้นมาใหม่แบบไม่ต้องคิดจ้างใครอีกต่อไป

ถึงแม้เราจะไม่ได้เงินที่เสียไปกลับคืนมา แต่ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงปั๊มสูบน้ำเดินเครื่อง ความเจ็บช้ำได้แปรเปลี่ยนมาเป็นความภาคภูมิใจแทน

เวลาที่สปริงเกอร์ทุกหัวสะบัดส่ายน้ำให้พ่นละอองฝอย เรากลับระลึกนึกถึงพระคุณของแม่ เพราะแม่ของเราได้จ่ายค่าหน่วยกิตในวิชาที่ว่าด้วยความผิดพลาดให้พวกเราลงทะเบียนเรียนรู้

ถึงแม้ว่า มันจะแพงแสนแพงขนาดไหน แต่มันคุ้มค่า ที่หลักสูตรทุกหลักสูตรในที่ดินแปลงนี้ได้สั่งสอนพวกเราให้ขจัดความ " จ๊าดง่าว " ออกจากอัตตาที่ตนต่างมี

ให้เหลือแค่คำว่า ง่าว เพียงอย่างเดียวเพื่อเก็บไว้กระตุกต่อมใฝ่ฉลาด คอยผลักดัน เกษตรกรมือใหม่ ไม่ให้หมดแรงใจในการต่อสู้กับตนเอง


ปลูกตะไคร้ บน โคกอีรวย

การเดิน ระบบน้ำสปริงเกอร์ ขั้นเทพใช้เท้าทำ

ไถกลบ ลบฝีเท้าเทพสปริงเกอร์

เศษซากฟอสซิลที่นอนตายเกลื่อนอยู่กลางสวน

ตะไคร้พันธุ์ขาวหยวก หรือ ตะไคร้เกษตร

ตะไคร้พันธุ์ขาวหยวก บน โคกอีรวยที่รอดชีวิต

เก็บซากทั้งหมดมาประติดประต่อจนเป็นระบบน้ำใหม่

ฝีมือของฉันกับน้องชาย เราทำกันแค่ 2 คนแบบไม่ต้องคิดจ้างใครอีกเลย


หมายเลขบันทึก: 581679เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2014 14:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 ธันวาคม 2014 21:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เล่าได้สนุกมากเลยครับ

ได้เรียนรู้เรื่องการทำท่อน้ำด้วย

5555

สงสารคุณแม่

เอาผักที่ไปปลูกให้นักเรียนมาฝาก

ใช้น้ำหยดและสปิงเกอร์ครับ

https://www.gotoknow.org/posts/564952


ขอบคุณมากค่ะ...มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย

ขอบคุณมากๆค่ะ " ดารนี "

จริงๆแล้วปลูกตะไคร้ไม่ยากหรอกค่ะ แต่เฉพาะสวนของเรานี้ สตอรี่มันเยอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ทั้งขำ ทั้งฮา มานั่งนึกๆทบทวนก่อนจะเขียนกันนี่...เรามันก็โง่กันจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ ไม่มีใครเขาทำอะไรแบบนี้กันแน่ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท