เสาร์ก่อน ออกตรวจที่ห้องตรวจผิวหนังเช่นทุกสัปดาห์
แปลกตาและแปลกใจ ฉงน เมื่อผมได้เห็นลุงท่านนี้ เดินเข้ามาพร้อมถุงขาวๆ ผูกถุงเข้ากับกางเกงตรงเอว บริเวณหูกางเกงที่เป็นแถบผ้าที่ใช้ร้อยเข็มขัด เลยขออนุญาตลุงเพื่อถ่ายรูปและขออนุญาตนำมาแลกเปลี่ยน เผยแพร่
สอบถามคุณลุง ได้ความว่า แขวนถุงเอาไว้กับกางเกงเพื่อกันลืม เพราะเคยมีครั้งหนึ่งที่ลุงได้ลืมถุงยาทั้งถุงเอาไว้ที่โรงพยาบาล ตอนนั้นวางไว้ที่เก้าอี้รับยา ตอนนั้นมีถุงสัมภาระหลายถุง เพิ่งมาทราบอีตอนถึงบ้านแล้ว
เบื้องหลังที่สำคัญเรื่องหนึ่งก็คือ มีมิจฉาชีพในขบวนการฉกยาในสถานบริการสุขภาพ คือฉกยาไปแบบแนบเนียน ส่วนใหญ่พวกนี้จะรู้ว่ายาตัวไหนราคาสูง เพราะเมื่อนำยาที่ฉกไปได้ไปขาย ก็จะทราบราคายา
แต่ยังโชคดีที่ยังไม่มีการทำร้ายกันเพื่อยาเหล่านี้
คนกลุ่มนี้ จะหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงอายุ ดูไม่คล่องตัว วิธีการก็เพียงหยิบขณะเผลอ ยิ่งเป้าหมายมีถุงให้ดูแลมาก โอกาสฉกสำเร็จมีสูงมาก
ผลกระทบเกิดขึ้นกับระบบสุขภาพโดยตรงเพราะยาที่หายไปบางถุงมีมูลค่าหลายหมื่นบาท เปรียบได้กับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนหลายเครื่องเลยนะครับ ผลกระทบต่อผู้ป่วยโดยตรงที่จำเป็นต้องรับยาก็จะขาดยาเพราะกว่าจะรู้ บางคนกลับไปบ้านแล้ว ยิ่งเป็นผู้ที่มาจากต่างจังหวัดโอกาสเดินทางมาโรงพยาบาล ไม่ง่ายเลยนะครับ แล้วผู้ป่วยและญาติต้องเสียเวลาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ซึ่งมักจะอยู่ไกลจากสถานพยาบาล เพื่อจะนำหลักฐานการแจ้งความมารับยาใหม่ ถ้าเป็นผู้ที่มีสิทธิเบิกจ่ายได้ ผลกระทบต่อเจ้าตัวไม่มากเท่าไหร่ แต่จะกระทบกับระบบโดยรวมเพราะระบบต้องจ่ายยาให้ใหม่ ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ถ้าผู้ป่วยที่ไม่มีสิทธิใดๆ ก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง และต้องชำระเงินใหม่อีกรอบ
ตอนนี้ในโรงพยาบาลบางแห่งเริ่มมองเห็นปัญหานี้ ได้กำหนดให้ รปภ.ของโรงพยาบาลสอดส่องดูแล บริเวณโถงคอยรับยา บางโรงพยาบาลอย่างเช่นที่ โรงพยาบาลศิริราช เริ่มให้บริการส่งยาบางรายการ ไปให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์ ทำให้ลดปัญหานี้ไปได้บ้าง ส่วนผู้ป่วยจะใช้วิธีผูกถุงยากับหูกางเกงก็ได้นะครับ
พวกมิจฉาชีพมักมีวิธีการหลอกล่อ หลอกลวงต่างๆนาๆ ที่ทำกันบ่อยก็คือ ทำทีมาช่วยบริการไปรับยาให้ พอได้เงินจากผู้ป่วยก็จะหายตัวไปพร้อมกับเงิน ตอนนี้วิธีนี้เป็นไปได้ยากแล้วเพราะผู้ป่วยไม่ต้องถือใบสั่งยาไปยื่นโดยตรง จะมีระบบส่งใบสั่งยาไปให้ห้องยาโดยตรง
จากถุงห้อยที่หูกางเกงคุณลุง ป้องกันขบวนการฉกยาได้นะครับ
อ่ะ มีฉกยาด้วยเหรอค่ะ ร้ายมากๆ สงสารผู้ป่วยค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์จันที่มาให้ความเห็นครับ ... มูลค่ายารักษาเบาหวานและความดัน ถุงละหมื่นบาทขึ้นไปนะครับ
ต้องเตือนพ่อกับแม่แล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ
ชอบใจที่พก
คน สว จะได้ไม่ลืม
แต่ฉกยานี่น่ากลัวนะครับ
สงสารคนป่วย
ชอบใจ CQI ของคุณลุงผู้ป่วยนะคะ แต่คงนำมาประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยรพ.พระศรีมหาโพธิ์ไม่สำเร็จ จนกว่าจะเอาโลโก้และชื่อ รพ.ออกก่อน ฮา..
ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ถึงกลุ่มนิยม 'ฉกยา' ว่า 'พุ่มดอกเข็ม' บริเวณป้ายรถเมล์หน้า รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี มียาที่ผู้ป่วยแอบทิ้งไว้ก่อนกลับบ้านจำนวนมาก อยากได้ยาใหม่แกะกล่องหรือยาเก่า (สำหรับพวกอนุรักษ์) เชิญมาเลือกเก็บได้ตามอัธยาศัย สะดวก ง่าย เลือกได้ด้วยค่ะ
คิดว่าที่รพ.ม.อ.น่าจะยังไม่เคยมีเหตุการณ์ฉกถุงยาเลยนะคะ หวังว่าจะไม่ระบาดมาถึง เรื่องแบบนี้การให้ไอเดียโจรก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งด้วยนะคะ เราเองยังนึกไม่ถึงเลย หวังว่าโจรภาคใต้จะยังไม่มีความคิดนี้กันนะคะ
ขอบพระคุณ ดารนี ชัยอิทธิพร และ โอ๋-อโณ ที่แลกเปลี่ยนครับ ... ช่วงเศรษฐกิจประมาณนี้ การฉกยาเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งของผู้ที่อยากได้เงินง่ายๆ แต่เสี่ยงครับ