Day 9 Pareto Mission : การสื่อสารนั้นสำคัญไฉน

พุธ ... วันที่เก้าของปฏิบัติการปาเรโต้ ทำสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ให้คุ้นเคย

เมื่อวาน อังคาร ออกตรวจตอนเช้า

คุณป้าอุบล (นามสมมติ) มาพบเช่นเคย เศรษฐีนีชาวสุราษฎร์เจ้าของที่ดินสวนปาล์มนับร้อยไร่ มาอยู่กรุงเทพแบบกึ่งถาวรโดยเฉพาะการมาใช้บริการที่โรงพยาบาล ทั้งกายภาพบำบัด มาตรวจผิวหนัง ด้วยอายุอานามที่มาก หลังป้าเริ่มค่อมเล็กน้อย คราวนี้มาตรวจผิวหนังด้วยอาการคันจากผิวแห้งและอักเสบเช่นเคย ... ช่วงหลังอาบน้ำอุ่นบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้ห้าม เพราะอาบแล้วสบายตัว ไม่หนาวสั่น และทาโลชั่นหลังจากอาบน้ำ รวมทั้งทายาที่ให้สม่ำเสมอ

คุณลุงถาวร (นามสมมติ) มาตามนัดทุกสามเดือน ทำงานอยู่ไฟฟ้า เป็นวิศวกร เมื่อก่อนโดนแดดเยอะ ชอบใส่เสื้อแขนสั้น ทำให้เริ่มมีปัญหาผิวหนังที่ผิดปกติ บางจุดเริ่มส่อแสดงอาการของเนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย ช่วงหลังคุณลุงก็ทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด คือไม่โดนแดด เลิกเล่นกอล์ฟไปอย่างชิ้นเชิง เลิกไปสัมมนาเพราะมักไปโดนแดดเป็นระยะเวลานานๆ ช่วงหลังอาการดีขึ้น

พี่สมศรี (นามสมมติ) เป็นโรคเอสแอลอี เคยมีอาการมากจนหน้าแดงแสบและไหม้และมีแผลในปาก แนะนำให้หลีกเลี่ยงแสงแดด ช่วงหลังดีขึ้น เพราะไปไหนๆ จะสวมหมวกปีกกว้าง ทากันแดดและกางร่ม รวมทั้งการมาตามที่ได้นัดหมายเอาไว้ตลอด

ประเด็นสำคัญที่จะทำให้ผู้เป็นโรคผิวหนังและโรคอื่นๆ มีอาการดีขึ้นก็คือ การปฏิบัติตัวตามที่แพทย์ได้ให้คำแนะนำ แต่บางครั้งการสื่อสารระหว่างผู้ให้คำแนะนำและผู้รับคำแนะนำทำได้ไม่สำเร็จตามที่คาดหวัง บางครั้งศัพท์ที่ผู้ให้คำแนะนำพยายามถ่ายทอด ยากเกินที่จะเข้าใจ รวมทั้งท่าทีหรืออารมณ์ความรู้สึกระหว่างทั้งสองฝ่าย ไม่พร้อมที่จะทำให้การสื่อสารสำเร็จลงได้

...

หมอสุข

[สุรางค์]

คนไข้บางคนก็ไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หรือบางคำแนะนำก็ดูว่าจะปฏิบัติได้ยากเกินกว่าที่คนไข้จะใช้ในชีวิตประจำวันแบบเคยๆ ได้ เคยได้รับคำแนะนำเป็นเอกสารเรื่องให้งดอาหาร (เพราะไขมันสูง) อ่านแล้วยังอี้งๆ ว่าแล้วจะทานอะไรกันหล่ะทีนี้ ...... แต่ก็ขอชื่นชมที่คนไข้ของอาจารย์สามารถทำตามคำแนะนำได้อย่างดีเยี่ยม แต่ก็น่าคิดว่าอะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้คนไข้เลือกจะทำหรือไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล

[ขจิต ฝอยทอง]

คุณหมอมีคนไข้หลายอาชีพมา

แต่ละคนมีปัยหาต่างกันเลยนะครับ

อาชีพมีผลต่อการเป็นโรคผิวหนังนะเนี่ย

ขอบคุณมากๆครับ