ครูตกประเมินให้ออก


เพลียกะแนวคิดพวกนี้ มันสะท้อนให้เห็นว่าเค้าไม่ไว้ใจครู ทุกหน่วยงานมันก็มีคนดีไม่ดีปะปนกันไป มันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วธรรมดา ทุกวันนี้เคยถามครูไหม ว่าครูต้องการการสนับสนุนอย่างไร ในการพัฒนาเด็ก มีแต่คิดๆๆ ให้ครูทำๆๆ พอเด็กแย่ แล้วก็มาโทษครูอย่างนั้นอย่างนี้ จะมาประเมินครูอีก ก็โอเคเข้าใจว่ามันมีครูบางส่วนแย่ แต่ตอนคุณคัดเลือกครู คุณใช้เกณฑ์ว่าใครสอบผ่านได้คะแนนอันดับต้นๆ คนนั้นก็ได้บรรจุ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเค้าจะเป็นครูที่ดีได้ มันก็ต้องมีคนฉลาด แต่ไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูปะปนมาบ้าง ก็คุณใช้วิธีการคัดแบบนั้นเองอะ ก็ควรจะยอมรับดิว่ามันมีไม่ดีบ้าง แต่จะหาวิธีการคัดคนมาเป็นครูที่มีคุณภาพเป็นครูที่ดีได้อย่างไร ก็ต้องค่อยๆคิดกันไป ซึ่งคงต้องดูไปถึงมหาลัยที่สร้างคนที่จะมาเป็นครู คนที่จะมาเป็นผอ มหาลัยต่างๆเห็นความสำคัญของการขัดเกลาจิตใจนิสิตหรือไม่ ให้น้ำหนักวิชาที่สร้างจิตสำนึกที่ดีมีแค่ไหนในหลักสูตร การสร้างครูใหม่ๆที่ให้ผลในระยะยาวก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า การพัฒนาครูในปัจจุบัน ในการประเมินครูมันก็ช่วยกระตุ้นครูที่มีวิทยฐานะสูงๆให้เค้าทำงานมากขึ้นก็จริงอยู่ ก็ต้องดูด้วยนะว่า งาน ที่ว่านี้ ผลมันไปเกิดที่เด็กไหม ก็ต้องดูที่รูปแบบการประเมินครูว่าออกมายังงัย ซึ่งมันก็เหมือนจะช่วยแก้ไขอีกจุดหนึ่ง แต่เรามองว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก อีกอย่างใครเขาจะยอมให้ระบบการประเมินมาบีบจนออกจากราชการโดยเฉพาะคศ.สูงๆเงินเดือนเยอะๆ วิธีการเอาตัวรอดมีมากมาย ข้อเสียดูจะมีมากกว่า ยังงัยซะการประเมินก็หนีไม่พ้นเอกสาร ถ้าไม่ดูเอกสารคุณจะประเมินจากอะไร แม้แต่ผอ โรงเรียนอยู่กับครูทุกวัน บางทียังมองไม่ออกเลยว่าใครทำงานเพื่อเด็กจริงๆ ครูทุกคนก็ต้องเตรียมเอกสารอยู่ดี แล้วเวลาที่จะให้กับเด็กก็ต้องน้อยลงไปอีกอนาคตคงแย่กว่าเดิม ครูดีๆเขาจะเบือเอานะสิ จริงๆน่าจะโฟกัสครูที่เขาอยากทำงานบ้าง เห็นนโยบายทีไรประมาณเน้นแต่จุดที่เป็นปัญหา คนที่ไม่อยากทำงานก็ปล่อยไปเถอะไล่บี้ไปเเล้วมีอะไรดีขึ้น หันมาสนใจครูที่เขาอยากทำงานบ้างดีกว่าไหม ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุน ดูเเล ช่วยเหลือ พัฒนาครู ตามความต้องการของครู เน้นครูเป็นศูนย์กลางบ้าง ไว้ใจครูบ้าง ช่วยครูหน่อย ทุกฝ่ายต้องเห็นความสำคัญและร่วมมือกันทั้งหมด เพราะการสร้างคนให้เก่งและดีไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ดูกันตั้งแต่อยู่ในท้อง คลอด อนุบาล ประชากรเด็กส่วนใหญ่ปัจจุบันนี้เกิดมาจากครอบครัวที่มีคุณภาพแค่ไหน โตขึ้นมาจากสภาพแวดล้อมแบบไหน สื่อทางอินเตอร์เน็ต รายการ ละคร ทีวี โฆษณา เหล่านี้ล้วนมีผลต่อการหล่อหลอม ลักษณะของเด็กๆทั้งสิ้น แล้วจะให้ครูทำหน้าที่มาแก้ไขให้มันถูกต้องดีงามอยู่ฝ่ายเดียว ทำไม่ได้แน่นอน มันไม่ใช่สิ่งที่ครูจะสามารถควบคุมได้ นี่ไม่ใช่ข้ออ้าง แต่เป็นการยอมรับตัวเองว่าครูไม่ใช่ผู้วิเศษ ยอมรับว่ายังไม่ใช่ครูที่เก่ง ไม่ใช่ครูที่ดี ครูเองก็ถูกหล่อหลอมบิดเบือนมาเช่นกัน ครูยังต้องมีการเรียนรู้และค่อยๆพัฒนาตัวเองไป ท่ามกลางระบบการทำงานที่ก็ไม่ได้เอื้อสักเท่าไหร่ ย้อนกลับไปดูระบบการบริหารขึ้นไปหน่อยไหม หากจะแก้ไขก็ทำตลอดแนวตั้งแต่ใหญ่ไปเล็กเลยสิ อย่าโฟกัสที่จุดๆเดียว มัวแต่ตั้งสมมุติฐานว่าเป็นเพราะครู ทดลองวิธีโน่นนั่นนี่กับครู มาตั้งกี่ปีแล้ว มันดีขึ้นไหม ในเมื่อมันไม่ดีขึ้น แถมยังแย่ลง ทำไมลองเปลี่ยนสมมติฐานดูบ้าง ศึกษาดูหลายๆตัวแปรก็ไม่น่าเสียหาย นักคิดฉลาดๆตั้งเยอะ ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของเด็กมีมากมาย อยากเห็นนโยบายการพัฒนาการศึกษาหลากหลายรอบด้านกว่านี้หน่อย ครูก็คน ครูขอบ่น ครูเริ่มรู้สึกว่านโยบายทำร้ายครูกับเด็ก เกินไปแล้ว > <"""

คำสำคัญ (Tags): #การศึกษา
หมายเลขบันทึก: 580498เขียนเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2014 23:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2014 23:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

How are you?

I see that you are drawn out of your peaceful retiremeent back into the education 'rut' again. ;-)

This is just another show from the struggle for life at the top. They themselves have failed time and again to 'pass the test' and are now looking for 'someone to blame'. See this 'same' thing again here:

ตั้งเป้าร่างปฏิรูปศึกษาเสร็จ3ด. "ณรงค์"เผยต้องเห็นกรอบใหญ่หลังจากนั้นใส่รายละเอียดเข้าไป http://www.thaipost.net/news/141114/98967 Friday, 14 November, 2014

Topdown thinking without considering details, monitors and reviews, measurement and assessment, ... We all know the 'devil is in the detail' and the 'last mile problem' (when we arrive and find no place to park).

This is why our politicians fail to see 'people' (as they are -- down the bottom of the power pyramid) and cannot serve people from the ground up. It is time (even I must come out) to ask for change from the 'ground up' and the top must be held accountable too.


มาเชียร์คุณครู

บางทีการประเมินไม่สามารถใช้มาตราฐานการประเมินได้ทั่วประเทศในกรณีที่ขาดครูในท้องที่ไกลๆ

ขอให้มีความสุขกับการทำงานครับ

นานแล้ว ... ที่ไม่เห็นบันทึกยาว ๆ แบบนี้ ;)...

ทำดีต่อไปนะครับ ;)...

ขอบคุณกำลังใจค่จากท่าน อ.ขจิต อ.วัส ท่่าน Sr เห็นด้วยกับท่าน Sr เป็นอย่างยิ่งค่ะ

"ระบบข้าราชการ"..ควรยกเลิก..ได้นานแล้ว....อิอิ..เพราะทำก็ชามไม่ทำก็ชาม...ที่ทำๆก็ได้แต่สร้างกฏระเบียบ..ที่ทำเป็นเพียงนามธรรม..สำหรับกลั่นแกล้งหาผลประโยชน์..กัน..(โดนมาแล้ว.).มาให้กำลังใจคนทำงาน..ครู..เจ้าค่ะ...

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท