วันวานเข้านั่งฟังการนำเสนอผลงานของแต่ละกลุ่มที่วิทยากรโยนปัญหามาให้ผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาได้ทำกัน ผมสรุปออกมาตาม 5 ทฤษฎีได้ดังนี้
1.ทฤษฎีการสร้างความรู้
ได้แนวคิดว่า การเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นหลักใหญ่ ครูผู้สอนให้น้อย ๆ ผู้เรียนเรียนคิดพูดเขียนแบบเอาจริงเอาจังราวกับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พร้อมกับใช้สิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนลงมือทำตามบทบาทสมมุตินั้น
2. ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล
ได้แนวคิดว่า คนเรามีความจำอยู่ 3 ระยะ คือ ความจำเริ่มต้น ความจำระยะสั้น ความจำระยะยาว ความจำเกิดมาจากการพบเห็นสัมผัสด้วยตนเองและเข้าใจจดใจเฉพาะในสิ่งที่ตนเองเกี่ยวข้องในสามระยะดังกล่าว
3. ทฤษฎีพหุปัญญา
ได้แนวคิดว่า คนเราทุกคนสามารถเรียนรู้ได้มากในที่นี้ขอยกมานำเสนอเพียง 4 คู่ของ I Q และ EQ ดังนี้
ด้าน IQ มี ด้านภาษา จับคู่กับ EQ ด้านการมีปฏิสัมพันธ์กัน
ด้าน IQ มี ด้านตรรกะ จับคู่กับ EQ ด้านมิติสัมพันธ์กัน
ด้าน IQ มี ด้านดนตรี จับคู่กับ EQ ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
ด้าน IQ มี ด้านรู้จักตน จับคู่กับ EQ ด้านการรอบรู้จักธรรมชาติ
4. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบการร่วมมือ
ได้แนวคิดว่า คนเราต้องเรียนรู้จักการทำงานเป็นทีม โดยแบ่งหน้าที่และทุกคนทำตามหน้าที่นั้น ทุกคนต้องมีทักษะความสัมพันธ์กัน และทบทวนประเมินผลแล้ว
5. ทฤษฏีการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
ได้แนวคิดว่า มี 4 ระดับดังนี้
1 . ความรู้เก่ากับความรู้ใหม่ได้ปะทะกัน
2 . ก่อเกิดความความเชื่อมโยงกัน
3 . เกิดเป็นวงจรต่อเนื่องประสานสัมพันธ์กัน
4 . เกิดเป็นแบบแผนตกผลึกความคิดในการลงมือปฏิบัติ
ทั้ง 5 ทฤษฎีดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นของใหม่ในการนำไปประยุกต์ใช้การเรียนการสอนในยุค ศตว. ที่ 21 นี้แล.
ศาลานี้ได้ใจมากเลยค่ะอาจารย์ยูมิ
สวัสดีครับ อ. ดร. จันทวรรณ
เป็นศาลาที่พักกายและใจแบบสบาย ๆ โล่ง ๆ ของคนทุกวัยครับ
มีหลายทฤษฎีมาก
ผมพบศาลาแบบในภาพที่ทุ่งหวัง สงขลาครับ
แต่ที่อื่นๆไม่ค่อยมีแล้วนะครับ
มันเก่าผุพังไปตามกาลแล้วครับ อ. ดร. ขจิต ฝอยทอง
แต่กูยังมีบางที่ให้ชมอยู่นะครับ