ไม่หวาดไม่หวั่นทะยอยส่งเข้ามา ให้ครูหยินดำเนินการ รายวัน เปิดเรียน 1 สัปดาห์มาแล้ว 3 ฉบับบ
1. วันรักต้นไม้
2.Roadmap การขจัดขยะมูลฝอย และของเสียอันตราย
3.โครงการ "เมืองสะอาด คนในชาติมีสุข"
ดีใจจังที่รัฐเริ่มคิดได้...โจทย์คือทำอย่างไรละจึงประสบความสำเร็จ
เมื่อไหร่ที่กลไกของรัฐหรือผู้บริหารจะบริหารจัดการอย่างเป็นระบบเสีย กิจกรรมนี้
เราคิดมามากกว่า 20 ปี แล้ว และดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องด้วยรอคอยความหวังว่าสักวัน
สถานการณืสิ่งแวดล้อม มิใช่เรื่องฉาบฉวย รณรงค์สักพัก...แล้วห่างหายกันไป
ส่วนคนที่ทำอยู่ดูเหมือนคิดผิดปกติ....เมื่องนโยบายโยนลงมา 555 ..
กลายเป็นหน้าที่ครูหยิยไปโดยปริยาย เพราะทำเรื่องนี้มาโดยตรง เอ..มันกลายเป็นเรื่องส่วนตัวไปอีกแล้ว
จะทำอย่างไรกันดีหนอ ดีใจจังที่รัฐหันมาจริงจังกับ สิ่งแวดล้อม...แต่ต้องมิใช่แบบเพ้อฝัน ไปวัน ๆ นะคะ
เห็นรูป..แล้ว..ปลงอนิจัง(ตามประสา..คนแก่)...น่าจะถามๆกันว่า..ขยะ..นี้มา..จากไหน..(ถามเด็ก..ให้เด็ก..ตอบเอง)..ผู้ใหญ่..ไม่ต้องชี้แนะ...ออกเป็นคำสั่ง..ให้..(...)
.............สวัสดีค่ะ..คุณครูหยิน......เห็นใจคุณครูค่ะ...ไม่มีรูปมาฝาก..นะคะ..มีแต่รักมามอบให้..เจ้าค่ะ...ฝากกอดต้นไม้...doingfix..เจ้าค่ะ...
ขอบคุณค่ะภาพดี ๆ มีคุณค่าอยากให้เด็กได้ดู และเขียนเรียงความหนูรักต้นไม้
คิดถึงค่ะ
.... เป็นปัญหาระดับชาติๆๆๆ และหลายชาตินะคะ ... กว่า....ที่จะจัดการกับเรื่อง "ขยะ" .... รัฐบาลไม่เอาจริงจัง .... อยากเห็นการแก้ปัญหาในระดับชาติจริงๆ ค่ะ .... ตอนนี้ต้องขอบคุณ ...คุณครูหยินและนักเรียน มากๆๆ ที่ปฎิบัติตามนโยบายอย่างจริงจัง เร็วทันใจ นะคะ ...... อยากให้ภาครัฐและภาคท้องถิ่น.... เพราะอยู่ในพื้อนที่ รู้ว่าขยะมาจากไหน ขยะของใคร...ควรจะจัดการแบบไหน อย่างไร...เพื่อคนในชุมชนนั้นแหละ .... ต้องช่วยกันรณรงค์และจริงจังกับเรื่องนี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
นี่แค่ปัญหาระดับท้องถิ่นนะครับ (กรณีครูหยิน)--- เมื่อรัฐเห็นเพียงนโยบาย แล้วสั่งแบบทางการให้ปลายทางทำ แต่รัฐให้งบหรือให้อุปกรณ์ช่วยหรือให้บุคคลากรมาชี้แนะหรือไม่ นายกฯ อบต. ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำ ฯ ควรกระรือรือร้นหรือไม่ ถ้าไม่ถึงสมัยเลือกตั้งคงยากที่จะสนใจ
นั่นคือ การแก้ปัญหาแบบขาดความยั่งยืนและถาวร ผู้นำควรมองปัญหาเล็กๆ ไปสู่ปัญหาใหญ่ มีความรอบคอบ รอบด้าน มีแผนปัจจุบันและอนาคต และติดตามอย่างกัดไม่ปล่อย แต่จะมีผู้นำใด มีหัวใจแบบอุดมคติเช่นว่านี้ ผมเห็นแต่นายทุน ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นนั้นๆ มีบทบาทหน่อย แต่พวกเขาทำเพื่อประโยชน์ตน
ผมเห็นผู้ใหญ่บ้าน (ของผม) สมาชิกอบต.หมู่บ้าน (ชาวบ้านธรรมดา) ทำหน้าที่บริหารหมู่บ้านแบบรอคำสั่งรัฐ ขาดการคิด การสร้างสรรค์เอง-- รอเงินเดือนรัฐ ทำงานไม่เป็น ก็อย่างที่บอกคือ เอาชาวบ้านธรรมดา ที่ขาดวิสัยทัศน์ ขาดการคิดแตกต่าง ขาดการสร้างสรรค์การพัฒนาแบบเชิงรุก ฯ จึงเป็นการบริหารแบบถูกตีหัว (Passive Administration) แล้วค่อยทำงาน มันต่างกับการบริหารแบบรุกคืบ (Active Adm.)
พอชาวบ้านเดือดร้อน ไม่แก้ปัญหากันเอง กลับไปเรียกร้องรัฐให้ช่วย ประท้วงรัฐ ซึ่งกรณีเช่นนี้ เราคนไทยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ซ้ำซากมาหลายทศวรรษแล้ว แต่กลับมองไม่เห็นปัญหา นี่คือ ปัญหาของปัญญาชาวบ้าน แต่ผลกระทบมันครอบคลุมทุกคน แล้วจะมัวให้ครูและเด็กน้อยๆ คอยเขียนป้ายรณรงค์ให้รักษาป่าไม้ เก็บขยะ ป้องกันยุง อย่าสูบบุหรี่ ฯ เราเห็นแล้วตื่นตัวหรือไม่ หรือจะให้ลูกหลานไปสอนถึงบ้านเลย
ขอบคุณครูหยินที่นำเสนอทางร่วมที่สร้างสรรค์ให้สังคมครับ
ชุมชนและคนในชุมชนลงมือก่อนเลยครับ
ไม่ต้องรอรัฐ
รัฐมีขนาดใหญ่อุ้ยอ้ายขยับตัวช้า
มาให้กำลังใจพี่ครุูครับ
เรื่องสิ่งแวดล้อมต้องลงมือทำทุกระดับนะคะ
ทั้งที่ตัวเราเอง ครอบครัว ชุมชน ระดับรัฐ ไม่งั้นไม่บรรลุผล
เรื่องง่ายๆ แค่แยกขยะ ถ้าทุกครัวเรือนร่วมมือ การเก็บขยะก็จะง่าย
เรื่องง่ายๆ ทิ้งขยะบนถนน ขยะไหลลงท่อ ท่อตัน ฝนตก น้ำท่วม...แค่ทุกคนไม่ทิ้งขยะ ลูกโซ่ของปัญหาก็ถูกตัดขาด
สิ่งที่คุณครูเริ่มกับเด็กนั้นมีคุณค่ามาก ให้กำลังใจนะคะ
ขยะ...ถ้าไม่ทิ้งก็ไม่มี....
ขยะ...ทำดีๆก็เป็นเงิน...
ขยะ...สดเป็นปุ๋ยหมัก.....ขยะแห้ง....คัดแยก...เก็บรวมหรือเอาไปขาย..