จดหมายข่าวดังกล่าว ไม่ได้ผลิตสื่อสารในมิติหนังสือเท่านั้น เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน และสืบค้นในวาระต่างๆ และนั่นยังรวมถึงการประหยัดต้นทุนการผลิตไปในตัว จึงทำเป็น E-book เสร็จสรรพ จดหมายข่าว มมส งานวิชาการรับใช้สังคม 2.
จดหมายข่าว “มมส งานวิชาการรับใช้สังคม” ฉบับที่ ๒ ยังคงใช้รูปแบบการนำเสนอตามครรลองเล่มแรก นั่นก็คือการนำเสนอแบบ “เล่าเรื่อง” (เรื่องเล่า) ทว่าฉบับนี้ให้น้ำหนักไปในด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม หรือการบริการวิชาการบนฐานศิลปวัฒนธรรมค่อนข้างมากเป็นพิเศษ เพราะที่คือทุนทางสังคมที่ดูจะเด่นชัดในเชิงอัตลักษณ์ของท้องถิ่น-ชุมชน
นอกจากนี้ยังเปิดเวทีให้อาจารย์และบุคลากรท่านอื่นๆ มีส่วนกับการเขียนเรื่องส่งเข้ามาสื่อสาร-แลกเปลี่ยน อาทิกลุ่มภารกิจทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม (หนึ่งคณะหนึ่งศิลปวัฒนธรรม) ได้รับเกียรติจากสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสานได้ส่งเรื่อง (เล่าเรื่อง) ให้เราได้เห็นภาพรวมการขับเคลื่อนเรื่องแหล่งเรียนรู้ฯ บนฐานของการเรียนรู้คู่บริการ รวมถึงข้อเขียนเล็กๆ จาก อาจารย์สุวิช ถิระโคตร และทีมงานจากคณะวิทยาการสารสนเทศ ที่นำผลการเรียนรู้ในมิติเรื่องเล่า (แบบดิจิทัล) พื้นบ้านชุมชนโพนงามจากเวทีประชุมวิชาการนานาชาติ ณ ประเทศญี่ปุ่น มาร่วมสื่อสาร ซึ่งเป็นต้นแบบที่ดีของการบูรณาการงานดังกล่าวไปสู่การวิจัยได้อย่างน่าสนใจ
เช่นเดียวกับเรื่องเล่าของอาจารย์อรทัย สุทธิจักษ์ ก็เป็นอีกเรื่องที่ให้เกียรติเขียนมาบอกเล่าและเป็นส่วนหนึ่งกับจดหมายข่าวเล่มนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นการบูรณาการเรียนการสอนสู่การบริการวิชาการแบบมีส่วนร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชนเพื่อสร้างสื่อการสอนที่สอดรับกับยุคสมัยและผู้เรียน โดยยึดโยงกับวัตถุดิบ หรือองค์ความรู้ในท้องถิ่น
รวมถึงข้อเขียนสังเคราะห์จากอาจารย์กิตติ์ธนัตถ์ ญาณพิสิษฐ์ (ม.ราชภัฏกาฬสินธุ์) ที่ช่วยวิพากษ์หนังสืออ่านเล่นเรียนนอกฤดู ภาคพิเศษเล่ม ๒ อันเป็นหนังสือรวมเรื่องเล่าเร้าพลังของนิสิตที่เขียน ขึ้นในห้วงปี ๒๕๕๖
ในทำนองเดียวกันนี้ ยังได้นำเสนอบทสัมภาษณ์ ดร.สุมลวรรณ ชุ่มเชื้อมาให้ “อ่านเล่น” พอสังเขป ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารโครงการ ๑ หลักสูตร ๑ ชุมชน เคยเป็นนักวิจัยเพื่อท้องถิ่น และเป็นหนึ่งในนักวิชาการสายวิทยาศาสตร์แต่กลับทุ่มเทการทำงานร่วมกับภาคีอันเป็นหน่วยงานภายนอกเพื่อการรับใช้สังคมมาอย่างเงียบๆ (ปิดทองหลังพระ) แต่ก็ก่อเกิดเป็นมรรคผลที่เป็นรูปธรรม ในวันนี้
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องเล่า (เล่าเรื่อง) จากหลายๆ เรื่องในแบบ “บันเทิง-เริงปัญญา” ที่ปรากฏอยู่ ในจดหมายข่าวฉบับนี้ เราเองก็ทำไปเรียนรู้ไป –เพราะศรัทธาต่อกระบวนการเรียนรู้ของงานวิชาการรับใช้สังคมว่าเป็นสิ่งดีงาม ต่อเมื่อสิ่งดีงามกำเนิดขึ้น การเผยแพร่สิ่งดีงามผ่านจดหมายข่าว จึงกลายเป็นภารกิจที่ผมและทีมงานไม่อาจละข้าม ดูดายได้ ส่วนจะดีงาม เข้มข้น มีคุณค่าชวนอ่านชวนติดตามหรือไม่ ผมและทีมงาน หรือกระทั่งผู้อ่านก็คงยังต้องทำไปเรียนรู้ไป –ร่วมด้วยช่วยกัน ต่อไป และต่อไป
http://www.sa.msu.ac.th/onecommunitymsuE-books/NEW...
ขอแสดงความยินดีด้วย
ออกมาเล่มสองแล้ว
ดีใจมากที่เป็น e book ด้วย ข้อมูลพัฒนาได้ดีมาก
ขอบคุณมากๆครับ
การรับใช้สังคม เป็นสิ่งดีงามจริงๆ
ยินดีด้วยนะครับ
อัตลักษณ์
คำนี้ มีความหมายถึงก้นบึ้งหัวใจ
ขอบคุณค่ะ
ด้วยความชื่นชม และยินดีค่ะ
ขอแสดงความยินดีครับผม พี่แผ่นดิน...เพราะหลักสูตรนี้คือรากเหง้าของชาวอีสาน....ส่วนใหญ่เด็กๆรุ่นใหม่มักจะไม่เห็นความสำคัญกับสิ่งที่มีและเป็นอยู่.เว้นแต่เด็กๆที่อยู่ในพื้นที่เท่านั้น
วันนี้ผมมีโอกาสได้มาประชุมกับคณะกรรมการบริหารงานบริการวิชาการของมหาวิทยาลัย … เกิดคำถามมากมาย หนึ่งในนั้นคือ ทำไมฐานข้อมูลที่อาจารย์ทำไว้เป็นอย่างดีที่นี่ http://www.sa.msu.ac.th/onecommunity/article.php ทำไมไม่ได้รับมอบหมายให้ลุยต่อ …