เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา เพื่อนชวนไปกฐินที่วัดป่านาคำน้อยในวันอาทิตย์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๗ พร้อมบอกว่า "เราจะใส่ผ้าถุง"
ออกเดินทางจากขอนแก่นตอน ตี ๔ ถึงวัดพอดีพระท่านกำลังจะฉันท์ นำอาหารไปถวาย แล้วออกมารอด้านนอกศาลา มีน้ำดื่มและซาลาเปาแจกด้วย ดีจัง คนแจกท่าทางใจดีกันทุกคน ชอบจัง
หลังจากนั้น ชาวบ้านบอกให้นั่งรอเพื่อชาวบ้านจะนำอาหารมาแจก จึงไปนั่งปักหลักหลังแม่ชี ที่นั่งอยู่ส่วนด้านท้ายของศาลา ได้ยินเสียงจากไมค์บอกให้นั่งล้อมวงกัน จะได้พบผู้ที่มีบุญร่วมกัน จึงเมื่อนั่งลงแล้ว ไม่มีผู้มานั่งด้วย เลยก็กวักมือเรียกผู้ที่นั่งจดๆ จ้องๆ อยู่ด้านข้างให้มานั่งด้วย ได้ถาดอาหาร จานและช้อน เมื่อนั่งล้อมวง ได้คุยกับผู้มาร่วมวง ซึ่งต่อมาได้ทราบว่าเป็นคุณครู และผู้อำนวยการโรงเรียน ใกล้ๆแถวนั้น ท่านเล่าให้ฟังถึงเพื่อนบ้านที่ยากจนแถวบ้านท่าน ไม่มีข้าวจะกิน ต้องอาศัยข้าววัด แถมบางวัน ได้ข้าวมาปั้นเดียว ด้วยความเป็นแม่ ก็ต้องมอบข้าวไปเลี้ยงลูก ตัวเองยอมอดข้าว จนร่างกายผ่ายผอม
และเมื่อคุยไปๆ ได้ทราบว่า บรรดาคุณครูเป็นหนี้ เป็นสินกันเยอะ เช่นบางท่านมีหนี้สินเป็นจำนวนสูงถึง ๕ ล้าน เพราะแหล่งเงินกู้มีกลยุทธต่างๆและอนุมัติเงินกู้ให้คุณครูเป็นยอดเงินที่สูงมาก
ยอดเงินบริจาคได้ยินว่าจะนำไปสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงตา มหาบัว ได้เงินบริจาค ๖ ล้านกว่าแล้ว แต่ยังมีการต่อยอด คงจะได้ถึง ๗ ล้าน
ก่อนเดินทางกลับท่านเจ้าอาวาส หลวงพ่ออินทร์ถวาย แจกกระเป๋าผ้าพร้อมแผ่นซีดีคำบรรยายของหลวงตามหาบัวและคำบรรยายของท่านเอง
วันสองวันนี้ จึงลองเอามาเปิดฟัง ส่วนมากท่านเล่านิทานปรำปราให้ฟัง ตัวอย่างที่ท่านเทศน์บางตอนค่ะ ท่านเทศน์ไว้เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๔ ค่ะ
สาธุๆๆ
ได้เห็นต้นไม้ร่มรื่น
ครูเป้นหนี้เพราะไม่รู้จักพอครบ
แต่สงสารชาวบ้านทีไม่มีอะไรกินครับ
พอจะช่วยอะไรได้บ้างไหมครับ
ขอบคุณเรื่องราวดีดี นี้ค่ะ ... เห็นด้วยกับ น้องดร. ขจิต ค่ะ
ขอขอบคุณค่ะ อาจารย์ขจิต ณ ขณะนี้ ยังไม่ทราบจะช่วยอย่างไรค่ะ การจะทำอะไรก็ต้องค่อยๆคิดค่ะ
ต้นไม้สูงใหญ่ งาม ร่มรื่นมาก .. น่าคิดนะคะว่าจะช่วยเขาอย่างไร จึงจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน
หากใครสนใจจะติดต่อทางวัดสามารถเข้าดูเฟสบุ๊คได้ที่ https://www.facebook.com/Watpanakhamnoi/?fref=ts นะคะ