ครูสาวโรงเรียนประชาบาลโรงเรียนบ้านหนองซ้ำซาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เล่าเรื่องพฤติกรรมของเสมียนหนุ่มวัย ๒๐ ที่เดินทางไปทำงานอำเภอบ้านบึงซึ่งห่่างจากตัวเมืองชลบุรี ถึง ๑๔ กิโล การเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอสมัยก่อน ยังไม่มีรถเมล์ จึงต้องอาศัยรถสองแถวตัวถังไม้ มีหลังคาสำหรับวางหาบข้าวของแม่ค้าที่ใสกระจาด ตระกร้า นำผลมูกลูกไม้ จากตลาดชลบุรีไปขาย ยังตลาดบ้านบึง
ครูสาวซึ่งบรรจุเข้าทำงานเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ แล้วถูกเลือกให้มาช่วยราชการบนอำเภอในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ช่วยเพื่อนครู ของคุรุสภาเมื่อปี ๒๕๐๐ ก็ต้องเดินทางโดยอาศัยรถสองแถวไม้นี้เช่นกัน เล่าให้ฟังว่า พฤติกรรมของเสมียนหนุ่มตัวผมสูงคนนี้จะขึ้นรถจากตัวเมืองชลบุรี ใส่ชุดเสมียนข้าราชการแขนยาว พฤติกรรมของเสมียหนุ่มคนนี้จะไม่เคยนั่งถึงแม้ว่าจะขึ้นรถจากต้นทาง แต่จะปีนป่าย ยกของ ยกกระจาด ตระกร้า ชะลอม สิ่งของของแม่ค้าขึ้นหลังคารถสองแถว เอาขึ้นเอาลง ส่งของพูดคุยกับแม่ค้า คอยมีน้ำใจบริการ ช่วยเหลือจนแม่ค้าเข้าใจว่า เสมียนหนุ่มคนนี้คือเด็กรถสองแถว พอลงรถ หลายคนส่งตังค์ให้ แต่เสมียหนุ่มคนนี้ไม่เคยรับ พอถึงที่ว่าการอำเภอบ้านบึงก็ลงรถทีเดียวกัน
เสมียนหนุ่มคนนี้ทำงานขยันขันแข็งเป็นที่รักใคร่ของนายอำเภอ ถูกเรียกใช้งานอยู่ตลอด แม้กระทั่งเวลาไฟไหม้เสมียนหนุ่มคนนี้ก็จะกระโดดขึ้นรถดับเพลิงทำหน้าที่หมุนไซเรน ซึ่งสมัยก่อนต้องใช้มือหมุน รถดับเพลิงก็วิ่งปุเลง ปุเลง บางครั้งเทโค้ง เสมียนหนุ่มคนนี้ก็กระเด็นตกรถลงไปก็มี
ครูสาวเล่าว่าถึงคราเสมียนหนุ่มอายุ ๒๑ ต้องไปเกณฑ์ทหาร นายอำเภอบอกว่าไอ้คนนี้มันทำงานดี ไปกระซิบบอกสัสดีว่าให้ทำยังไงก็ได้ไม่ต้องให้มันไปเป็นทหาร เอามันไว้ใช้งาน สัสดีซึ่งทำงานบนอำเภอก็ใจดีแทงบัญชี้ให้เสมียนหนุ่มว่าเป็นโรคหืด ไม่ต้องไปเป็นทหาร
ด้วยความดีของเสมียนหนุ่ม ประกอบกับลูกตื้อ ก็สามารถเอาชนะใจครูสาวอยู่ครองคู่กันมาจนกำเหนิดเกิดเป็นผมนี่เอง ครูสาวคนนี้ปัจจุบัน อายุครบ ๗๙ปี ย่างเข้า ๘๐ ส่วนเสมียนหนุ่มเติบโตในชีวิตราชการจนได้เป็นสรรพสามิตจังหวัด แต่เสียชีวิตตั้งแต่ปี ๒๕๔๒
เป็นที่มาของอาจารย์นี่เองครับ ;)...
เป็นคุณพ่อของอาจารย์หรือใครครับ
อาจารย์วัสมาทายคนแรกเลย
555
พ่อผมเองครับ
เล่าเรื่องได้น่ารักมากเลยค่ะ อ.หนึ่ง