ความรักความคิดถึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต (๒) ตามหาใครสักคน คือความรื่นรมย์ของชีวิต


ผมมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า

เราล้วนเกิดมาเพียงเพื่อค้นหาความรัก
และเกิดมาเพียงเพื่อให้ความรักได้ค้นหา
นั่นจึงเป็นที่มาที่ไปของแก่นคิดหลักในทำนอง
"การตามหาใครสักคนคือความรื่นรมย์ของชีวิต"


การออกเดินทางตามหาใครสักคนในมิติคิดของผม
มีสองกรณีเป็นที่ตั้ง-
นับตั้งแต่อยู่คนเดียวเปลี่ยวเปล่า เหงา-โสด
จึงใช้ชีวิตเพียงเพื่อตามหา- ค้นหาใครสักคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
และอีกกรณีคือ สภาวะของการ
พลัดพราก
พลัดพรากทั้งที่ยังรัก และพลัดพรากแบบเลิกร้าง
(แต่ตัดใจไม่ได้ จึงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ขาดหายคืนกลับมา)


...


ผมเขียนลำนำท่อนนี้ในปีเกือบๆ ปลายปี ๒๕๕๓
เขียนในสภาวะแห่งใจของการตามความฝันที่มันหล่นหายไปจากชีวิต
สารภาพว่าเป็นการตามหาด้วยอารมณ์หม่นมัว เทาๆ ทึบๆ
แต่ก็สุขใจ และมีพลังกับการ "ตามหา" เพียงเพราะรู้สึกว่า
สิ่งที่กำลังตามหานั้น มีตัวตน และยังอาทรต่อเราไม่แพ้กัน

ครับ, มุมคิดเฉกเช่นนี้ ผมถือเป็นพลังบวก
เป็นพลังคิดในมุมบวก
ช่วยให้ชีวิตไม่แห้งแล้งปราศจากความหวัง และสิ้นหวัง

ในทำนองเดียวกันนี้
การตามหาสิ่งที่ว่านั้น
ก็มิได้หยัดยืนว่าต้องตามหาเพื่อให้ได้คืนกลับมาเสียทั้งหมด
หากแต่หมายถึงการตามหาเพื่อให้รู้ข่าวคราว-ความเป็นไป
ให้ได้รับรู้ว่าความฝันที่หล่นร่วงไปนั้น บัดนี้อยู่ที่ใด ในสถานะใด
ยังคงอยู่ หรือแตกดับไปแล้ว....

ชีวิต มันมีหลากมุมเสมอ
ได้ ไม่ได้, พบ ไม่พบ, คืน ไม่คืน ฯลฯ
ผมมองควบคู่ไปพร้อมๆ กันเสมอ
แต่ทั้งปวงคือการต้องลงมือทำ -
ส่วนผลพวงแห่งการลงมือทำจะเป็นใด นั่นเป็นอีกเรื่อง
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงตามหา และตามหา




แน่นอนครับ ผมเองก็เชื่อว่าการรอคอยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
เป็นส่วนหนึ่งของการตามหาความฝัน หรือสิ่งอันเป็นที่รัก

กล่าวคือ-
บางขณะเรารอคอยผ่านการเดินทาง
บางขณะเรารอคอยผ่านการนิ่งเงียบอยู่ ณ มุมใดมุมหนึ่ง
และการรอคอยก็มิได้หมายถึงการรอเพื่อให้ได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอไป
หากแต่เป็นรอเพียงพอรับรู้ความเป็นไป
หรือกระทั่งไม่มีเหตุผลใด
เพราะหลายต่อหลายเรื่องของหัวใจ
ก็ล้วนปราศจากซึ่งเหตุผล




ผมหลงรักการตามหาสิ่งอันเป็นที่รักเสมอ
ตามหาผ่านการเดินทาง ใช้ชีวิต เคลื่อนตัวออกไปจากมุมแห่งการพักพิงในแต่ละวัน
พอๆ กับการตามหาผ่านการรอคอย
ซึ่งมีทั้งที่รอคอยผ่านการเดินทางและนิ่งงันอยู่กับที่

ผมเชื่อว่าหลายชีวิตมีความสุขกับการตามหาใครสักคน
หรือตามหาสิ่งบางสิ่งไม่แพ้ผม
ถึงแม้การตามหาที่ว่านั้นจะถูกฉาบแต่งห่มคลุมไปด้วยกลิ่นอายอันเปลี่ยวเปล่า เหงาหงอยอยู่บ้าง

แต่อารมณ์เช่นนั้น มันกลับทำให้ชีวิตมีพลังที่จะขับเคลื่อนการใช้ชีวิตอย่างเหลือเชื่อ
ตรงกันข้าม หากรื้อถอนมันทิ้ง ไม่ยินดียินร้ายกับการตามหา
นั่นต่างหากคือการประกาศตนในมิติของการยุติการใช้ชีวิต

ครับ, การตามหาใครสักคน คือความเปลี่ยวเหงาอันรื่นรมย์ของชีวิต"
ล้วนเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผม
เกิดขึ้นที่หัวใจแ่ละดำเนินไปที่หัวใจอย่างไม่รู้จบ
ทุกวันนี้ก็เถอะ ผมก็ยังเดินทางตามหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

...

ต้นยางริมท้องถนน..สารภี
ทางคดเคี้ยวบนเขาลำปาง-ลำพูน
ปลายฝนต้นหนาว ๒๕๕๓

หมายเลขบันทึก: 572205เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2014 12:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กรกฎาคม 2014 12:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

รอเพื่อรับรู้....เพียงแค่นั้นก็สุขแล้วนะคะ สำหรับคนใจเย็นอย่างอาจารย์

555 พี่พวกคนใจร้อน รอไม่มาเหรอ ไม่รอเลย ไปละนะ

ตามหาใครสักคนที่ใช่  เป็นสิ่งที่นำมาพาซึ่งความสุข ความหวัง  ให้ต่อสู้ชีวิตต่อไป

ผมตามหาตั้งนาน

ยังไม่เจอเลยครับ

5555

เรื่องซึ้งใจมากเลยนะครับคุณแผ่นดินครับ

งดงาม ค้นหา ไม่สิ้นหวัง ...เพราะความรักซ่อนอยู่ในทุกมุมมองเสมอครับ

..

เป็นกำลังใจให้นะครับ

คนข้างบน

หามาตลอดชีวิต ก็ไม่เจอ 

หากหยุดค้นหา...มันก็อยู่ตรงหน้านั่นเอง

จริงมั้ยครับ

อ่านแล้วได้ค้นพบพลังชีวิตแห่งความหวัง ขอบพระคุณมากครับ

"การตามหาใครสักคนเป็นความรื่นรมณ์ของชีวิต" เป็นประโยคที่ตรงกับใจของใครๆอีกหลายคนนะคะ 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท