แช่อิ่ม...ลิ้มรส...บะต้อง....สะท้อน....Santol.....

มีเกษตรกรนำ"บะต้อง"หรือ"กระท้อน"มาฝากเมื่ออาทิตย์ก่อน....ผลไม้มีมากต้องนำไป"แปรรูป"เพื่อยืดระยะเวลาและเพิ่มความอร่อย จึงทำการ"แช่อิ่มแบบง่าย ๆ" เมื่อมีโอกาสได้ลงมือทำทั้งที...งานนี้จึงขอเก็บภาพและวิธีการทำมาแบ่งปันและเผยแพร่สักหน่อย...เผื่่อบ้านใครมี"บะต้อง"อยู่ ก็สามารถลองทำตามได้...ขอบอกว่าสูตรนี้...ไม่หวง..คร้าบ!!!!! ปล.ผลไม้แช่อิ่มจะอร่อย.ต้องกินแบบเย็น ๆ นะครับ..อิๆ

-เคยได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับเรื่องผลไม้ไทยเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว โดยคราวนั้นได้พามิตรรัก G2K ทุกท่านไปช่วยกันเก็บผลไม้ชนิดนี้ถึงในสวนกับบันทึกที่นี้ครับ บะต้อง สะท้อน บะตื๋น สะโต สะตือ มีผู้อ่านหลายท่านได้เข้าไปให้กำลังใจและติดตามกันมากมายรวมยอดผู้เข้าไปติดตามเรื่องราว ณ วันนี้ก็ร่วม 1,000 ครั้งแล้วล่ะครับ....ถือว่าเป็นเกียรติและเป็นกำลังใจที่ดีในการที่ได้เก็บเกี่ยวเอาเรื่องราวต่าง ๆที่ได้พบเจอมาบันทึกไว้เพื่อแบ่งปันและเผยแพร่ผ่านพื้นที่ G2K แห่งนี้ครับ....และวันนี้เพื่อเป็นการต่อยอดบันทึกเรื่องดังกล่าว...จึงขอนำเอา"ผลไม้ไทย"นามว่า "บะต้อง สะท้อน บะตื๋น สะโต สะตือ"มาทำการแปรรูปแบบง่าย ๆให้ได้ติดตามชมกันกับบันทึกที่มีชื่อว่า "แช่อิ่ม...ลิ้มรส...บะต้อง...สะท้อน..Santol"คร้าบ!!!!!

1.ได้"บะต้อง"ภาษาพื้นเมือง"เถิน,ลำปาง,เหนือ"มาเมื่ออาทิตย์ก่อน..มีเกษตรกรผู้ปลูกบะต้องในพื้นที่นำมาฝากครับ...หากจะเก็บไว้กินแบบสด ๆ ก็คงจะไม่ไหว..ดังนั้นเพื่อเป็นการยืดอายุและเพิ่มความอร่อย...ผมจึงขอนำเอา"บะต้อง"ไปผ่านกระบวนการ"แช่อิ่ม"ก่อน...ว่าแต่ขั้นตอนและวิธีทำแบบง่าย ๆ จะทำอย่างไรนั้น..ตามผมมาชมกันได้เลยคร้าบ!!!!

2.ขั้นแรกก็ทำการปอกเปลือก"บะต้อง"ก่อนครับ....เมื่อปอกเปลือกเรียบร้อยแล้วทำการ"สับ ๆ เนื้อบะต้อง"ให้เป็นริ้ว ๆ ขั้นตอนนี้ต้องใช้ความระมัดระวังหน่อย หากสับ ๆ เฉาะ ๆ มากไปก็จะทำให้"เนื้อบะต้อง"เละได้ครับ...แต่หากลองทำจริง ๆ ก็ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอนครับ ฮ่า ๆ

3.เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวของ"บะต้อง"เปลี่ยนสี และกำจัดความเปรี้ยวของ"บะต้อง"เราจึงต้องนำไปแช่ในน้ำเกลือครับ..(ขอแนะนำให้ใช้เกลือเม็ดนะครับ)สัดส่วนของเกลือต่อน้ำก็กะเอาตามความเหมาะสมครับ งานนี้ต้องลองชิม"บะต้อง"ดูก่อนว่ามีรสเปรี้ยวขนาดไหน จึงจะกะประมาณเกลือที่ใส่ลงไปได้ครับ...ขอย้ำว่า...ไม่ยาก....อิ ๆ

4.หลังจากนั้นก็นำ"บะต้อง"ดองไว้ในน้ำเกลือประมาณ 2-3 วัน...พอเนื้อของ"บะต้อง"นิ่มและคายความเปรี้ยวแล้ว...ต่อไปก็ทำการ"บีบน้ำออกจากบะต้อง"ครับ.ขั้นตอนนี้ก็เพียงแต่นำเอาบะต้องที่ดองแล้วมาบีบน้ำออกให้หมด เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะครับ...

5.ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการแช่อิ่มครับ...บางสูตรต้องทำ"น้ำเชื่อม"เพื่อใช้สำหรับแช่"บะต้อง"แต่สำหรับสูตรของผมที่กำลังทำอยู่นี้...เป็นสูตรแบบง่าย ๆ ครับ..ไม่ต้องเสียเวลาทำน้ำเชื่อม เพียงแค่นำเอาน้ำตาลทรายมาคลุกกับ"บะต้อง"ให้เข้ากันและเก็บไปแช่ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ก็เป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการ"แช่อิ่ม"แล้วล่ะครับ...แต่ข้อเสียของการแช่อิ่มแบบนี้ก็คือ"จะทำให้เก็บไว้ได้ไม่นาน"แต่ผมว่าไม่ต้องเก็บไว้นานหรอกครับ..เพราะว่า..เดี๋ยวเดียว...ก็หมด...ฮ่า ๆ ๆ

6.ในระหว่างที่เราแช่ไว้ในตู้เย็นเราก็ทำการ"เติมน้ำตาล"เพิ่มลงไปและคลุกเคล้าให้เข้ากันสักหน่อย...แช่ไว้ประมาณ 2 วัน ก็ได้"บะต้องแช่อิ่มเย็น ๆ "มาลิ้มลองความอร่อยแล้วล่ะครับ.....นั่งเขียนบันทึกอยู่"น้ำลายยังแอบสอ"เดี๋ยวเย็นนี้ต้องกลับไป"ลิ้มรสบะต้องแซ่อิ่มในตู้เย็น"สักหน่อย ฮ่า ๆ ๆ

หลังจากไม่ได้นำเอาเรื่องอาหารการกินมาบันทึกเพื่อเรียกน้ำย่อยจากมิตรรัก G2K นานไปหน่อย.....วันนี้ขอนำเอา"บะต้องแช่อิ่มแบบง่าย ๆ "มาฝากให้ได้ติดตามกัน....กับบ่าย ๆ"วันสุข"นี้คร้าบ!!!

สวัสดีครับ

เพชรน้ำหนึ่ง

27/06/2557

เขียนใน GotoKnow
โดย เพชรน้ำหนึ่ง
ใน อนุรักษ์ "ผักพื้นบ้าน"

คำสำคัญ (Tags): #การแช่อิ่ม#บะต้อง#การแปรรูปอาหาร#เจ้าพนักงานเคหกิจเกษตร#กรมส่งเสริมการเกษตร#บุญส่ง จอมดวง#อำเภอพรานกระต่าย#การดองผลไม้#แช่อิ่มแบบง่าย#ปลูกผักกินได้#ความสุข#ผลไม้ไทย#กระท้อน#แช่อิ่มกระท้อน#เคหกิจเกษตร#สะท้อน

หมายเลขบันทึก: 571117เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2014 14:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน 2014 14:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง

จำนวนที่อ่าน

สมาชิกที่ให้กำลังใจ (18)

ความเห็น

Dr. Ple

เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2014 14:26 น. ()

... ขอบคุณค่ะ ... เห็นแล้ว น้ำลาย สอ ...อยากทานมากๆๆค่ะ

บีเวอร์

เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2014 14:46 น. ()

ท่าจะลำขนาดเนอะอ้าย อิอิ

บุษยมาศ

เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2014 14:51 น. ()

น้ำลายไหลแล้วค่ะ น่าทานมาก ๆ :)

tuknarak

เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2014 19:55 น. ()

หมากต้อง ชอบมากค่ะ

คุณมะเดื่อ

เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2014 20:44 น. ()

หวัดดีคุณเพชร มีผัดกะเพราเห็ดเผาะมาฝากคุณเพชรด้วยจ้ะ

เห็ดเผาะจากเมืองตาก แต่ผัดกะเพราที่เมืองกุยจ้ะ

Pojana Yeamnaiyana Ed.D.

เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2014 04:46 น. ()

...น่ากินมากๆค่ะ ...บะต้องแช่อิ่ม

nui

เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2014 08:23 น. ()

ไม่อยากอ่านบลันทึกน้องเพชรเล้ย เพราะทำให้นำ้ยายไหย..อิ..อิ..

ข้อโม้นะ เด็กๆ น่ะพี่ทำกินบ่อย ทำดองเค็มแบบนี้ก่อน ยายพี่เรียกว่าเอาเค็มไปไล่เปรี้ยว แล้วมากวนน้ำตาลปิ๊บใส่น้ำปลาพอเหนียวราด โรยด้วยกุ้งแห้งป่น มะพร้าวขูดคั่วเหลือง ของยายก็หั่นพริกสดใส่ ของหลานก็ไม่ใส่พริก

กินกับข้าวสวย เป็นกับข้าวประสาจนกันสองยายหลานค่ะ