ออกจากสวนนกชัยนาท พวกเราก็มุ่งตรงสู่ตลาดสามชุก สุพรรณบุรีทันที
ตลาดสามชุก ไปกี่ครั้ง ๆ ก็ยังน่าชมเหมือนเดิม
ลูกชิ้นยักษ์ ลูกใหญ่สุดลูกละ 100 บาท ลูกเดียวกินได้ทั้งครอบครัว
ข้าวหลามกะลา ดูเหมือนจะมีแต่ที่นี่นะ ( เพราะคุณมะเดื่อยังไม่เจอที่อื่น )
ตะเกียงเก่าเล่าเรื่อง ลุงวอซื้อกลับไปบ้านด้วย
วงดนตรีไทย ของหนู ๆ นักเรียน
อากาศร้อนมาก ๆ พวกเราจึงกลับออกมาจากตลาด เพื่อจะเดินทางต่อไป
ระหว่างทาง เจอ..ทอดมันห่อไข่ .... ของแปลกที่ลุงวอต้องซื้อติดมือไปด้วย
จุดหมายปลายทางต่อไป คือ หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย
หรือ....บ้านควายเมืองสุพรรณ ที่ที่น่าสนใจ มีอะไร ๆ
ให้ได้ดูหลายอย่าง
เด็กน้อยลูกชาวนา
ควายเผือก มีอยู่หลายตัว
ควายสวมหมวก ที่ตรงกลางเปิดช่องไว้ให้ผู้ใจบุญหยอดสตางค์บริจาค
ควายพิการ หน้าตาน่าเอ็นดู
ลุงวอขอตั้งชื่อภาพนี้ว่า.....อยู่ระหว่างเขา (ควาย ) ครับผม
อยากถามผู้รู้ว่า....ต้นนี้ใช่...ผักตุ๊ด...หรือไม่จ๊ะ
ลุงวอขอรำลึกถึงอดีต
ของใช้ในอดีต หาดูได้ยากยิ่งแล้ว
บ้านควาย...แต่มีกวางด้วย
บ้านทรงไทย งดงามนัก
ของที่ระลึก ก็มีแต่...ควาย ... ควาย...ควาย...ทั้งนั้น
มื้่อเที่ยง พวกเราออกมากินที่ร้านปลาใหญ่ ที่อยู่ตรงทางเข้าชมบ้านควาย
นั่นเอง เมนูส่วนใหญ่ เป็นปลา รสชาติอร่อยดี
ลุงวอบอกว่า....มาสุพรรณต้องกินปลาม้า...ว่าแล้วก็สั่งต้มยำปลาม้าทันที แซ่บ ๆๆๆ
ตามด้วย...ไข่เจียวเยี่ยวม้าเค็ม ....เมนูนี้พิเศษสุด ๆ ตรงที่ ...
สั่งไข่เจียวมาหนึ่งจาน แล้วก็บรรจงวางทอดมันห่อไข่ ที่ซื้อ
มา ไว้รอบ ๆ จาน ก็เป็นอันเสร็จพิธี..อิ อิ
หลังจากมื้อเที่ยงแล้ว พวกเราก็มุ่งสู่เมืองเพชรบุรี และตั้งใจว่า
จะแวะเยี่ยมอาจารย์เชาว์ พันธุ์น้อย หรือ " บล็อกเกอร์ผอบทอง"
บล็อกเกอร์รุ่นแรก ๆ ของโกทูโนนั่นเอง
อาจารย์เชาว์ กับลุงวอได้พบปะกัน และสนทนากันอย่างถุกคอ
มื้อเย็น อาจารย์เชาว์ขอเป็นเจ้ามือ พาพวกเราไปกินข้าวที่ร้านเปลญวน
ที่ อ.บ้านลาด
ร้านเปลญวนมีบรรยากาศที่แปลกตา เหมือนกับพิพิธภัณฑ์ของโบราณ
เพราะในร้านมีตู้โชว์ของเก่า รวมทั้งภาพเก่า ข้าวของเครื่องใช้เก่า ๆ
ตกแต่งอยู่ทั่วทั้งร้าน
ภาพจากปกนิยสารสมัยคุณมะเดื่อยังไม่เกิด
ภาพคุณอภัสรา หงสกุล ในปีที่ได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาลจ้ะ
วิทยุสมัยคุณปู่ยังหนุ่ม คุณย่ายังสาวจ้ะ
คุณแดง กับคุณดำ ทำหน้าที่ยืนต้อนรับแขกจ้ะ
เราสั่งอาหารแค่ 4 อย่าง คือ เมนูเด็ด ยำผักหวานบ้าน แกงส้มรากบัวไข่ปลา
ทอดมันกุ้ง และผัดผักรวมมิตร สังเกตว่า ยิ่งเย็นยิ่งมีคนมากินอาหารมากขึ้น
และยังมีโต๊ะจองไว้ด้วย
ลุงวอ กับอาจารย์เชาว์คุยกันไป กินกันไปตลอดมื้อนี้
สมควรแก่เวลา จึงลาท่านอาจารย์เชาว์เพื่อเดินทางกลับกุยบุรี
พอดีเห็นรถยนต์ที่เจ้าของร้านนำมาดัดแปลงเป็นที่นั่งรับประทาน
อาหาร ลุงวอกับท่านอาจารย์จึงเข้าไปดู และได้ทราบจาก
เจ้าของร้านว่า เป็นรถเก่าที่ซื้อมาจาก วิทยาลัยครูเพชรบุรี
สมัยก่อนนั้น อาจารย์เชาว์จึงนึกได้ว่า น่าจะเป็น " ไอ้โกร่ง "
ที่เคยรับนักศึกษาสมัยนั้น คุณมะเดื่อเองก็พอจะเคยเห็น
หลังจากลาท่านอาจารย์เชาว์แล้ว ก็กลับสู่กุยบุรีทันที โดยที่ลุงวอ
จะไปต่อรถไฟที่ประจวบ ฯ จึงแวะพักเหนื่อยและอาบน้ำที่บ้าน
คุณมะเดื่อก่อน
เป็นอันสิ้นสุดการแอ่วเหนือบนเส้นทางสายมิตรภาพ ในครั้งนี้
สุดยอดการทัวร์มิตรภาพ กับมิตรรักแฟนเพลงของมะเดื่อ
อาจารย์ เชาร์มีเรื่องเล่าในอดีตมากมาย ที่คุยกันแล้วได้ต่อยอดความคิด คนรุ่นเกินกึ่งศตวรรษ
ขอบคุณการทัวร์ในครั้งนี้
ครบถ้วนกระบวนความ ละเอียดลออ เหมือนไปด้วย ขอบคุณค่ะ
ปล. เปรยเรื่องลูกหว้ากับพี่ พี่สาวรั้วติดกันปลูกต้นเล็ก ๆ แล้วค่ะ ขอบคุณคุณมะเดื่อมาก ๆ ค่ะ
สุดยอดเลยครับ อ่านเหมือนได้ไปเที่ยวด้วย ได้เห็นภาพ เห็นเรื่องราว ที่น่าติดตาม....
อยากชิมลูกชิ้นยักษ์ คงอิ่มไปนานเลย 555
ของดีๆน่าดูชมทั้งนั้นจ้ะ
ไปมาหลายที่มากเลยนะครับ
ผมไม่ได้พบอาจารย์เชาว์ นานมากๆ
อาจารย์เคยไปช่วยเป็นวิทยากรอบรมครูด้วยครับ
หวัดดีจ้ะคุณเพชร หมู่บ้านควาย...คุณมะเดื่อก็เพิ่งเคยไปครั้งแรกนี่แหละจ้ะ แต่เคยผ่านไปผ่านมาหลายครังแล้ว ทริปหน้าทัวร์ป่า...จะร่วมขบวนด้วยกันไหมจ๊ะ
หวัดดีน้องอาจารย์ขจิต ตอนนี้คุณมะเดื่อยังพอมีแรงเดินทางไหว ก็อยากจะไปเยืี่ยมเยียนมิตรรักแฟนเพลงเท่าที่จะไปถึงได้ วันข้างหน้าหากแก่ชราไร้เรี่ยวแรง อยากไปเยี่ยมแค่ไหน ก็คงไปไม่ได้นะจ๊ะ....ฝากเมล์ถึงน้องอาจารย์ไว้แล้วนะจ๊ะ