ครูเก่า ครูแก่ กำลังย้อนอดีต ตามประสา สว. ที่ยังไม่โดนถอดถอนง่ายๆ ยังพอมีเรี่ยวแรงสู้รบปรบมือกับความไม่รู้ของเด็กและความหลากหลายของครูอยู่เสมอ
วันนี้ ไปโรงเรียนตามปกติ สะสางงานเอกสารไปตามเรื่อง เบื่อๆก็ออกมาเก็บกวาด ดูแลอาคารสถานที่ เป็นการเปลี่ยนอิริยาบถ แต่แล้วใจหนึ่งก็คิดถึงวันที่ ทำไมรวดเร็วจัง ๒๙ เมษายน แล้วหรือนี่ เฮ้อ อ้าว ถ้า ๒๙ เมษา ก็เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชีวิตล่ะสิ วันที่เข้ารับราชการครูในตำแหน่ง อาจารย์ ๑ ระดับ ๓ ในท้องถิ่นกันดารห่างไกลอำเภอ จังหวัด และญาติพี่น้องที่กรุงเทพ
คิดถึงวันนั้น ปีนั้น พลันก็นึกถึงการสอนในห้องเรียน ชั้น ป.๕ - ๖ จบใหม่ๆ เขาให้สอนเด็กโต ชั้นสูงสุดของโรงเรียน ด้วยหลักสูตร ประถมฯ พ.ศ.๒๕๒๑ ซึ่งผมบรรจุปี ๒๕๒๙ สมัยที่มี ๔ กลุ่มประสบการณ์ คือ ทักษะ สปช สลน และ กพอ. พิเศษ คือ อังกฤษ
จำได้ว่า เด็กอ่านคล่องเขียนคล่อง(อยู่แล้ว) เราเพียงไปช่วยเสริม และทำให้สอนง่ายมากๆ ตำรา เอกสาร สื่อสอน ไม่เยอะเหมือนสมัยนี้ คอมพิวเตอร์ไม่มี แต่ครูสอนกันอย่างมีความสุข ครบทุกรส ทั้งกีฬา วิชาการ เรื่องสัมพันธ์ชุมชนไม่ต้องห่วง เป็นไปโดยอัตโนมัติ บ ว ร กันอย่างใกล้ชิดทีเดียว
สมัยนั้น จะเน้นการอ่าน เป็นหลัก สะกดตัวผสมคำ ครูบางคน สอนอะไรไม่ถนัด เอาหนังสือภาษาไทย มากางสอนอ่านกันอย่างตะเบ็งเซ็งแซ่ สมัยนี้ล่ะ ไม่อ่านไม่ว่า เด็กและครูต่างก้มหน้าแข่งขันกัน ไม่รู้ก้มหาอะไร
เมื่อก่อนไม่มีหรอกนะ สมศ สทศ เอ็๋นที โอเน็ต อเน็จอนาถ ยูเน็ต แต่ไอไม่เน็ตด้วย ไม่วุ่นวายเหมือนยุคนี้ ซึ่ง ในทศวรรษนี้ เป็นการศึกษาแบบหมาหางด้วน เป็นการศึกษา แบบวางยา ใช้โรงเรียน ครู และนักเรียนเป็นหนูทดลอง ทดสอบ วิจัย และทำโครงการ เพื่อให้องค์กรและสถาบันการศึกษาของชาติใช้(ผลาญ)งบประมาณ ทำแล้วไม่สำเร็จ ทำแล้วไม่ดีขึ้น ก็ยังหน้าด้านทำเหมือนเดิม
คือ นักการเมืองน้ำเน่า ออกกฎระเบียบ ประจวบเหมาะกับนักการศึกษาไปจบมาจากเมืองนอก ไปลอกตำราฝรั่ง จำขี้ปากฝรั่งมาทำบ้าง อย่างสวยหรู แล้วเป็นไง ..ผล คือ ประจานตัวเองทั้งตาปี เป็นเช่นนี้มาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว มิใช่หรือ???????
ผมยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ เลย..สมศ. ประเมินทุก ๕ ปี ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของ รอบ ๓ แสดงว่าประเมินกันมาแล้วก็ ๑๕ ปีเต็ม และโรงเรียนส่วนใหญ่ก็ผ่านประเมิน ได้รับการรับรองว่า ผ่าน ดี และดีมาก ถึงขนาดนี้แล้ว ทำไม..การศึกษาจึงเป็นเช่นนี้..เมื่อดูผลประเมินจาก สทศ (คะแนนสอบจากโรงเรียนที่ได้รับรองว่ามาตรฐาน)
สทศ. เป็นองค์กรที่เกิดทีหลัง ราว ๕ ปี ไม่รู้คิดกันได้อย่างไร..ในเมื่อกระจายอำนาจทางการศึกษาแล้ว และหรือเป็นเขตพื้นที่แล้ว..แต่ช่างเถอะ เป็นกฏหมายก็ว่ากันไป ใช้ข้อทดสอบชุดเดียวกัน ที่ตัวเองคิดว่ามาตรฐานลับสุดยอด ใช้เหมือนกันหมดทั้งประเทศ...แม่เจ้า ดร.ทางการศึกษาเขาคิดกัน โรงเรียนจะมีครู ๒ คน หรือ ๑๐๐ คน จะอยู่อมก๋อย หรือปัตตานี พื้นที่ชายขอบ ฉันจะวัดเองด้วยข้อสอบของฉันเอง ใครจะว่าอะไรฉัน .......
ทั้งสององค์กรที่กล่าวมา..เมื่อนับย้อนไปใช้งบประมาณหมดไปแล้ว มากกว่าแสนล้าน น่าวิจัยจัง ว่าคุ้มกับการลงทุนไหม..โดยตั้งสมมุติฐานว่า...สมศ และ สทศ นี่แหละ เป็นตัวบั่นทอนการศึกษาไทย ให้ก้าวไปอย่างลำบากยากยิ่ง
ส่วนผม..ลำบากจนชินแล้ว..ในวันคล้ายวันเกิดในชีวิตราชการ ขอพูดถึงความในใจ ที่ไม่น่าจะไกลความจริง เพียงแต่หลายคนก็คิดตรงกัน แต่ยังไม่มีใครออกมาพูดดังๆ หรือประทัวงกันอย่างจริงจัง จึงเจอแต่ปัญหาซ้ำซาก ที่สุดแล้วใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไป เหมือนตัวใครตัวมัน ช่างมันฉันไม่แคร์
๒๘ ปี ผ่านไป อีก ๘ ปี เกษียณ ..ทนอยู่ หรือ อยู่ทน ดีนะ ...โกทูโนว์ เพื่อนยาก
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๙ เมษายน ๒๕๕๗
<p></p><p></p><p></p><p></p><p></p><p>
</p>
เป็นกำลังใจค่ะ
ประทับใจกับการแสดงความคิดเห็นกับระบบการศึกษาไทย ที่สูญเปล่าไปมากกับการเปลี่ยนแปลงระบบบ่อยๆ เดี่ยวนี้เด็กอ่านได้ไม่คล่องเท่า ๒๑ (หลักสูตรง่ายต่อการสอน)
เห็นด้วยค่ะ เปลืองงบประมาณ
ผอ ทำงานตลอดเลยนะครับ
เปิดเทอมเมื่อไรครับ
ฝากเยี่ยมโรงเรียนด้วยนะคะ
"ข้าราชการครู คือ ผู้สร้างโลก ผ่านการสร้างศิษย์ (ด้วยเมตตา และเสียสละ)"
เป็นกำลังใจให้เสมอครับคุณครู ^_^