พูดเรื่องการศึกษา..ก่อนราตรีสวัสดิ์


เธอรู้ไหม...อาจารย์ที่สอนเธอมา เวลาออกข้อสอบบรรจุครู ก็ออกเสียยากเลย...เขาไม่รู้เลยหรือ..ว่าที่จริงเธอก็ยังไม่รู้อะไรมามากพอ นอกจากจะต้องไขว่คว้าหางาน และทำงานอย่างทุ่มเท และเรียนรู้ต่อไปไม่มีวันจบสิ้น...บางเรื่อง อาจต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็กด้วยซ้ำ...

เวลาพูดก็ต้องคำนึงถึงปิยวาจาด้วยนะ เตือนตัวเองว่าอย่าใช้อารมณ์ อย่าใส่ความรู้สึก การศึกษาต้องพูดเรื่องจริง ที่เห็นและเป็นอยู่เชิงประจักษ์ อย่างตรงไปตรงมา ยิ่งคนพูดไม่มีอำนาจวาสนา ก็ได้แค่พูด เพียงได้ระบาย แลกเปลี่ยนกันก่อนไปพักผ่อนหย่อนใจตามอัธยาศัย

อยากพูด...เพราะได้ทำงานหนักมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพื่ออะไร ก็ไม่รู้ รู้อย่างเดียวคือ ทำอย่างไรก็ได้ที่ทำให้เด็กอ่านออกเขียนได้ เป็นไปได้ จะทำให้ถึงอ่านคล่องเขียนคล่องด้วยซ้ำ แล้วเป็นไง....

ภาพรวมของการศึกษา..ก็ไม่เห็นจะดีขึ้น ประเมินก็ต่ำ สอบก็ตก ครูมากมายก็เรียกร้องแต่เงินเดือนและทุ่มเทกับวิทยฐานะ ผู้บริหาร..ก็ลัลล้าแต่อำนาจ ลงมือปฏิบัติก็โบกมือบ๊ายบาย

อ่านบันทึกของท่านอาจารย์WAS...ที่อ้างอิง บทความ ดร.สมพงษ์....เป็นเมื่อก่อนผมคงน้ำตาร่วง เดี๋ยวนี้เฉยๆนะ แต่ไม่ถึงกับชินชา ดร.ท่านนี้ ผมฟังและอ่านหนังสือของท่านมาตั้งแต่ผมเป็นหนุ่มจนแก่ สื่อมวลชนก็ชอบสัมภาษณ์ท่านผู้นี้เสียจริง ทำอย่างกับเมืองไทย รู้เรื่องการศึกษาอยู่คนเดียว

ศรัทธาในความรู้ความคิดของท่าน แต่แปลกใจลูกศิษย์ของท่านไปเป็นใหญ่เป็นโต ไปเป็นนักการศึกษา เป็นผู้บริหารในกรม ในกระทรวงฯ ทำไมไม่นำความคิดของท่านไปประยุกต์ใช้บ้าง ใช้ในการบริหารจัดการศึกษาสิ ครูสอนแล้วทำไมไม่นำไปใช้เพื่อชาติ มันน่าแปลกนะ ยิ่งในราชภัฎ ยิ่งต้องนำไปปรับหลักสูตรด้วยซ้ำ กลับไม่รู้สึกและเกาไม่ถูกที่คัน

ไม่ต้องอะไรมาก..ขนาดหลักสูตร ๕ ปี จบมาเขตพื้นที่ก็ยังต้องมาจัดอบรมหลักสูตรโน่นนี่นัน ถามว่าทำไมไม่เรียนมาให้เบ็ดเสร็จล่ะ เอ้อ หรือว่าไม่มีเวลา มัวแต่เล่นการเมืองกันอยู่ จึงอยากบอกว่าการศึกษาอย่าให้โรงเรียนเป็นแต่จำเลย จริงๆมันทั้งระบบนั่นแหละ.....

มีเอกประถมศึกษาอยู่ดีๆก็เลิกซะ ทั้งที่เขตพื้นที่ ก็พื้นที่ประถม. หลักสูตรก็การศึกษาขั้นพื้นฐานแกนกลาง ๒๕๕๑ ก็มี ป.๑ - ป.๖  แล้วไง โรงเรียนที่ขาดแคลน ก็เลือกครูไม่ได้ ที่ได้ก็ไม่พอ เอกอะไรก็ไม่รู้ จบคณิตหรือวิทย์แต่ต้องสอน ๘ สาระ...แล้วเด็กประเทศไหนล่ะ จะอ่านออก ถ้าจบเอกประถมศึกษา เรียน ๕ ปี เรียนแต่หลักสูตรและการสอนทุกสาระ...ไม่เก่ง หรือทำให้เด็กอ่านไม่ออกก็ให้มันรู้ไป

ครูชอบโทษว่าเป็นที่เด็ก ที่โรงเรียนผมนี่แหละ ก่อนปิดเทอมผมว่าให้ซะ คุณไม่เคยโทษตัวเองเลย มาก็ไม่ตรงเวลา เวลาสอนก็ไม่มีสื่อ ไม่ขยับเขยื่อนเคลื่อนที่ จบปลักแต่หน้าคอมฯ ว่างไม่ได้ ว่างเป็นเล่นเฟส ว่างเป็นโทรศัพท์นานๆ ไม่เคยเตรียมการสอนมาจากบ้าน มาแก้ปัญหาเวลาจะสอน เวรแท้ๆ การศึกษาไทย..จะแก้ได้ ก็ตรงที่จิตสำนึกของครูนี่แหละ.....

ถ้าจะพูด ที่เกี่ยวข้องกับครู ต้องสาวลึกไปถึงอีกหลายเรื่อง ที่มีส่วนบั่นทอนการบริหารจัดการ ที่ทำให้ครูสอนน้อยลง อยู่ในห้องเรียนน้อยลง  ต้องไปยุ่งกับเรื่องเงินๆทองๆ ไม่ว่าจะเป็น สหกรณ์ สกสค.และคุรุสภา

รวมไปถึง การเรียน ป.โท แบบจบง่ายๆ ซึ่งมีอยู่มากมายก่ายกอง ปฏิเสธไม่ได้ต้องใช้ชีวิตบางส่วนจากการสอน เพื่อเรียนป.โท แล้วผลการศึกษาเป็นไง  ป.โทมากขึ้น ผกผันกับผลสัมฤทธิ์เด็กโดยสิ้นเชิง (หรือไม่)

สพฐ.นี่ล่ะ..คือหัวใจหลักของกระบวนการบริหารทั้งมวล กรมใหญ่ งานเยอะ คนเยอะและงบก็เยอะ คิดโครงการเก่งเหลือเกิน..เห็นเจ้าหน้าที่และศึกษานิเทศก์บนเขตฯ ถ่ายรูปในห้องประชุมโรงแรมบ้าง ในรีสอร์ทบ้าง นำมาลงในเฟส เดือนละหลายครั้ง กลับมาทำงานที่เขต ยังไม่ทันลงมือทำอะไร ไปอบรมสัมมนาอีกแล้ว อเน็จอนาถชาติไทย ลัลล้าล้างผลาญงบประมาณกันมากว่าทศวรรษแล้ว... ยังไม่สำนึก....

ว่าแล้ว...ก็เลยสัมภาษณ์ว่าที่ครูผู้ช่วย วิชาเอกภาษาอังกฤษ ทำแฟ้มและเอกสารมาซะสวยหรู อนาคตพวกเธออาจจะได้อยู่โรงเรียนเล็กๆที่ห่างไกล ไปสอนหลายสาระ พวกเธอบอก...หนูไปได้หมด ลำบากก็อยู่ได้ค่ะ ไหนลองร้องเพลงภาษาอังกฤษซิ..บางคนอึกอัก หนักไปกว่านั้น เธอลองท่องสูตรคูณซิ...แม่เจ้า..บางคนท่องไม่ได้ อยากหัวเราะให้ดังๆ อยากบอกพวกเธอ(แต่ไม่ได้บอก)

เธอรู้ไหม...อาจารย์ที่สอนเธอมา เวลาออกข้อสอบบรรจุครู ก็ออกเสียยากเลย...เขาไม่รู้เลยหรือ..ว่าที่จริงเธอก็ยังไม่รู้อะไรมามากพอ นอกจากจะต้องไขว่คว้าหางาน และทำงานอย่างทุ่มเท และเรียนรู้ต่อไปไม่มีวันจบสิ้น...บางเรื่อง อาจต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็กด้วยซ้ำ...


  ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

   ๒๘ เมษายน ๒๕๕๗


<p></p><p></p><p></p><p></p><p></p><p></p><p></p><p></p>

หมายเลขบันทึก: 566942เขียนเมื่อ 28 เมษายน 2014 20:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน 2014 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนที่ตายคือคนที่พุดความจริง

ขอเป็นกำลังใจให้ท่าน ได้ฝ่าฟันปัญหาน้อยใหย่ ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดสำหรับวันนี้ ชั่วโมงนี้ นาทีนี้ และวินาทีนี้ คิดดีๆ คิดนาน และมั่นศึกษาพระธรรมคำสอนเพื่อให้กำลังใจตนเอง และครอบครัว

เร็ว ๆ นี้ เด็กประภมคงมีหนังสือภาษาไทย  " เล่มใหม่ " เรียนกันแล้ว  มีชื่อว่า ... แบบเรียนเร็วใหม่.... (ก็ใหม่อ่ะนะ)  อิ อิ

คุณครูรุ่นใหม่ ๆๆๆ   อาจจะไม่เคยเห็นนะ  แต่ครูรุ่นคุณมะเดื่อ รุ่น ผอ.คนเก่ง  คงพอรู้จัก....เห็นว่า ... กำลังเร่งพิมพ์

อยู่....คราวนี้แหละเด็กไทยคงได้เรียน...ภาษาไทย....จริง ๆ ซะที.....คราวนี้ถ้ายังอ่านไม่ออกอีก คงต้องใช้แบบ

เรียน..จินดามณี....กันเป็นแน่แท้.....แต่ที่แน่ ๆๆๆๆๆๆ   ควรจัดอบรมครูให้รู้จักสอนโดยใช้แบบเรียนเร็วใหม่ กันเสียก่อนนะ

มิฉะนั้น  ไม่ว่าจะแบบเรียนสวรรค์วิมานชั้นไหน....แม่พิมพ์ของชาติ  ผู้ชาญฉลาดก็สอนไปตามมีตามเกิด  ตามยถากรรม

อยู่ดี.....นี่แหละที่เศร้าหนักละ   เศร้ายังกว่าเด็กอ่าน  -  เขียนไม่ได้ซะอีกนะ

 มีรูปมาฝาก..เธอๆคือ..แม่ไก้ ไก่ ไฝ่รู้..อยู่..เมืองนอก..พยายามเติมเต็ม..การสอนภาษาไทย..กันและกัน.."หัวข้อเรื่องสัมมนา..ชื่อ.ยากหรือง่าย"...เมื่อวันสุดสัปดาห์ที่แล้ว..เธอคือ..กลุ่มสตรี..ในยุโรป..

ชอบใจความคิด

ระบบมหาวิทยาลัย ตายไปนานแล้วครับ

...สื่อมวลชนก็ชอบสัมภาษณ์ท่านผู้นี้เสียจริง ทำอย่างกับเมืองไทย รู้เรื่องการศึกษาอยู่คนเดียว.....เหอ ๆๆ

   ชอบนะที่ ผอ.ตระหนักในปัญหา และพูดออกมา...ปัญหาการศึกษามันมีมากมาย หยิบเรื่องอะไรมาก็สามารถชี้ปัญหาได้ทั้งนั้น การแก้ปัญหาก็เห็นทำกัน...ดูจากการใช้งบประมาณในการจัดทำโครงการล้วนแล้วแต่เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาทั้งนั้น ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง.....มันอาจจะเป็นปัญหาเรื่องการประเมินด้วยละ

   

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท