ความเงียบนี่ดีจริงๆ นี่ผมไม่ได้ยินเสียงนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ
ปีพ.ศ.๒๕๓๔ ผมเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ ๒ ชีวิตช่วงนั้นเป็นเด็กหอนอกอยู่พักหนึ่ง ผมพักที่หอพักของลุงหว่าง กำนันคนสุดท้ายของตำบลคอหงส์ อยู่ได้ราวเทอมหนึ่งก็มีสิทธิ์ย้ายตัวเองเข้ามาพักหอใน จำไม่ได้แล้ว ว่าทำไมจึงได้สิทธิ์นั้น ผมอยู่หอชาย ๑ โดยมีรูมเมทคือเหน่ง และกุ้งแวว เพื่อนคณะเดียวกัน และแซม เพื่อนคณะเภสัชฯ ที่บังเอิญเป็นเพื่อนของเมียผมในอนาคต และแซมเองก็รหัสนักศึกษาลงท้ายด้วย ๐๒๑ เช่นเดียวกับผม และแซมมีน้องรหัสเป็นน้องสาวนอกไส้ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เล็กๆ
ห้องของผมอยู่ชั้นล่างสุด เป็นห้องที่ ๓ นับมาจาก center (เขาเรียกอย่างนั้น) ผมและแซมได้นอนเตียงเดี่ยว ส่วนกุ้งและเหน่งนอนเตียงสองชั้น
เมื่อเข้ามาอยู่ช่วงเทอม ๒ นั่นหมายความว่าผมคือสมาชิกใหม่ เลยยังไม่รู้จักใครมากนัก นอกจากรูมเมท ประกอบกับการเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ๒ ซึ่งเป็นปีที่เรียนหนักและยุ่งที่สุด (เทียบกันเฉพาะชั้นพรีคลินิกนะครับ ซึ่งความหนักจะเทียบชั้นคลินิกไม่ได้เลย) ผมยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าชีวิตรอบตัวในหอพักมีอะไรบ้าง
ในช่วงเวลาเช้ามืดของวันหนึ่ง คาดว่าราวๆตี ๕ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงไม่คุ้นหูบางอย่าง มันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ได้ยินไม่ชัด เสียงเหมือนคนครวญคราง สูงๆต่ำๆประหนึ่งร้องเพลง มันก็คงไม่ใช่เพลงที่ผมเคยฟังมาก่อนในชีวิตนี้ ไฟในห้องนอนติดอยู่ดวงหนึ่ง คาดว่าเมื่อคืนแซมคงนอนดึก รายนี้เขาอ่านหนังสือดึกทุกคืนอยู่แล้ว และบางทีดวงไฟหัวเตียงของเขาก็สว่างยันเช้า "เพื่อนทั้งสามคนยังหลับอยู่" ผมสรุปได้อย่างรวดเร็ว ท่วงทำนองที่แสนจะวังเวงเช่นนี้มันทำให้ผมขนลุกซู่ไปทั้งร่างกาย หัวใจผมสั่นระรัวประหนึ่งลั่นกลองรบ (มาคิดอีกที หากจะลั่นกลองรบก็ไม่น่าจะกลัวจนตัวสั่นขนาดนี้) "ผมถูกผีหลอกเข้าแล้ว" ผมคิดในใจ นี่สินะที่เขาเรียกว่าผีหลอก เรื่องผีๆในหอนี่เป็นเรื่องลึกลับเสมอ ผมเจอเข้าแล้ว
เริ่มต้นสวดมนต์ทันที ไม่ว่าจะท่องนะโม ๓ จบ เสียงก็ยังอยู่ มาเริ่มอรหัง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็ยังได้ยินเสียงอยู่ เลยท่องบทสุดท้ายที่ยายเคยสอนไว้ เป็นบทสวดของหลวงปู่ทวด แม่เจ้า! ท่านศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะเพียงเริ่มต้นสวด เสียงที่ว่านั้นก็หยุดหายไปทันที (ขณะที่พิมพ์อยู่นี้ ผมยังขนลุกเลย เอาเข้าสิ)
จวบจนรุ่งสางวันนั้นผมก็ข่มตาไม่ลงอีกเลย นอนขดบนเตียง จะพลิกไปพลิกมาก็กลัวเจอท่านมานั่งมองอยู่ นอนรอจนเริ่มมีเสียงเพื่อนๆด้านนอกเดินเข้าห้องน้ำ และเริ่มมีแสงจากดวงอาทิตย์ออกมาบ้าง ผมจึงลุกจากเตียงออกไปจัดการกิจตามปกติ
วันนั้นทั้งวันผมแทบไม่เป็นอันเรียนหนังสือ งงเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น เทอมก่อนหน้านี้เรียน gross ก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ผมนั่งเรียนอยู่กับอาจารย์ใหญ่จนตี ๒ ก็ไม่เคยเจอผี คืนนี้ผมคงไม่กล้านอนแน่หากไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเสียงโหยหวนเมื่อเช้านี้
กว่าจะได้กลับหอก็ปาเข้าไปเกือบ ๖ โมงเย็น
ปกติผมจะเข้าห้องจากด้านหลังห้องทีเดียว เพราะเราอยู่ชั้น ๑ จอดรถหลังห้องก็ได้ กระโดดตุ๊บก็ถึงห้องแล้ว แต่เย็นวันนี้มีอะไรไม่รู้มาดลใจให้ผมเดินเข้าห้องโดยการเดินผ่าน center และเข้าทางประตูหน้า ผมเดินผ่านห้อง ๑๐๑ ซึ่งปกติก็เดินผ่านออกจะบ่อย และมาวันนี้จู่ๆขนผมก็ลุกซู่ขึ้นมาอีกหน เมื่อเสียงที่ได้ยินเมื่อเช้านี้มันมาอีกแล้ว คราวนี้มันใกล้ตัวผมอย่างแรง มันอยู่ตรงนี้ ห้องนี้แหละ
"ห้องละหมาด" คือป้ายหน้าห้องที่ผมไม่เคยสังเกต เสียงนี้มาจากห้องละหมาด ผมวิ่งไปทางหลังห้องทันที มองผ่านหน้าต่างกระจกก็พบว่าเพื่อนๆมุสลิมเขากำลังละหมาดกันอยู่ แม่เจ้า นี่เป็นเสียงเขาเรียกรวมกันละหมาด
แล้วคืนนั้นผมก็หลับสนิท ไม่เคยได้ยินเสียงที่ว่านั้นอีกเลย
เช้ามืดวันนี้ ผมยังอยู่เวรต่อเนื่องจากเมื่อวาน ถูกหมอเวรลูกศิษย์เรียกให้ไปช่วยดูคนไข้ตกลือดหลังคลอด เมื่อเสร็จกิจก็ขับรถกลับบ้าน เปิดกระจกรับลมเย็นราว ๒๖ องศา ฟังเพลงลูกทุ่ง ผ่านหลังวัด (ผมแอบปิดกระจกกลับทุกครั้งที่ผ่านหลังวัด เพราะกลัวผี) และเข้าบ้าน อากาศยามเช้านี่ดีจริงๆ
พี่แป้งยังคงหลับสนิท ผมถือโอกาสไม่นอนแล้ว เพราะคงจะแฮ้งเป็นแน่แท้หากต้องตื่นอีกครั้งช่วง ๖ โมงเช้า ตัดสินใจมานั่งขี้ เปิดหนังสืออ่าน สดับรับฟังเสียงเงียบรอบตัว
พลัน เสียงหนึ่งก็แว่วเข้าหู มันเป็นเสียงที่ไม่คุ้นเคย มันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ได้ยินไม่ชัด เสียงเหมือนคนครวญคราง สูงๆต่ำๆประหนึ่งร้องเพลง ขนผมลุกซู่ขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมรู้สึกตื้นตันใจ เสียงนี้มันพาผมย้อนกลับไปในอดีต เมื่อ ๒๒ ปีที่แล้ว ผมได้ยินเสียงแบบนี้ในเวลานี้ มันไม่ใช่ Deja vu แต่มันเป็นเรื่องจริง
ขี้เสร็จก็อาบน้ำ รีบบันทึกเรื่องนี้เอาไว้อ่านตอนแก่
ธนพันธ์ ๑๔ เมย ๕๗
555 เสียงละหมาด
ตอนอยู่ที่ มศว สงขลา
ผมได้ยินเสียงครั้งแรก เป็นเสียงอาซาน ปลุกมาละหมาดก็ตกใจเหมือนกันครับ
555
ทีแรกตั้งใจจะขอคาถาศักดิ์สิทธิของหลวงปู่ทวด แต่คงไม่เอาแล้วค้าบบบบ 555555
อาจารย์หักมุม พี่รออ่านเรื่องที่อาจารย์บอกว่าจะสอนลูกสาว มาหักมุมเล่าเรื่องผี ๆ ก่อน ฮ่า ๆ