ช่วงก่อนเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา..ได้มีโอกาสผ่านเมืองพาน หรือที่ผู้คนในปัจจุบัน รู้จักกันในนาม “ พรานกระต่าย " ๑ ใน ๑๑ อำเภอของจังหวัดกำแพงเพชร แดนดินถิ่นเห็ดโคนรสดี มากมีด้วยหินอ่อนสีชมพูลายสวยสดใส มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยและของโลก
หลายปีผ่านไป ถึงวันนี้ ภู..ลูกเล็กๆ อย่างน้อย ๑ ลูก ได้ถูกขุดงัด ตัดตอน..นำหินอ่อน ไปใช้..จนเหลือเป็นพื้นราบ ไร้ร่องรอยภูผา สง่างาม โดดเด่นเฉกเช่นครั้งเก่าก่อน
..และอีก ๑ ภู.. ก็กำลังถูกเปิดกะโหลก..หากเป็นเช่นนี้สืบไป..เชื่อได้ว่า ..อนาคตภายภาคหน้า..อันไกลโพ้น คงจะไม่มีหินอ่อนที่ดี มีลวดลาย ได้คุณค่าเหลือไว้ให้ลูกหลานเหลนโหลน ได้เห็น ได้รู้จักและภาคภูมิใจ .....
หวลให้คิดถึงเมือง “ เพตรา(Petra) “ ประเทศจอร์แดน แดนดินทะเลทราย ที่มีฝนตกน้อยกว่า 20 มม ต่อปี
คนอาหรับโบร่ำโบราณ ช่วงปี พ.ศ.๒๐๐-๑,๒๐๐ ยังสลักหินผาเป็นวิหาร เป็นที่อยู่อาศัย จนสถานที่แห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี พ.ศ.๒๕๒๘ และได้รับเลือกเป็น ๑ ใน ๗ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เมื่อปี ๒๕๕๐
ส่วนที่ใกล้ๆ บ้านเรา อย่างเช่น หลวงพ่อโตเล่อชาน เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน
จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันลือชื่อ ยังความภาคภูมิใจแก่ผู้คนในประเทศเจ้าของสถานที่....
ครั้น..มาชำเลืองเหลือบแล ถิ่นไทยแท้ เมืองพาน..จะเหลือเพียงตำนาน....หากยังไม่คิดเอาเยี่ยงอย่าง.. โดยพิจารณา...จัดสรร ปันส่วนภู..หินอ่อนซักลูกหนึ่ง สลักเป็นปฎิมากรรมติดภูผา ฯลฯ . เหลือไว้ให้ผู้คนรุ่นหลังได้เห็น ได้รู้จักหินอ่อนลายสวย สีชมพูสดใส .ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว.และหรือเป็นสถานที่สักการะบูชากราบไว้.ถึงคุณความดีงาม ทั้งหลายทั้งปวง ..แลก/แบ่งปันกับการสัมปทาน..ก่อนที่หินอ่อนจะหมดเหี้ยนเตียนโล่ง..กลายเป็นดงกระต่ายไพร .ในอนาคตอันใกล้นี้
สิ่งเหล่านี้ ..แม้จะเป็นความฝันกลางวัน แต่ด้วยเทคโนโลยีและความสามารถของผู้คนในปัจจุบัน .มีความเป็นไปได้สูง.หากมีความตั้งใจที่จะทำเพื่อบ้าน เพื่อเมืองและลูกหลานเหลนโหลนอย่างแท้จริง...
หรือจะปล่อยให้หมดไป พร้อมๆ กับความภาคภูมิใจของคนเมืองพานรุ่นปัจจุบัน ????
สามสัก
๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗
จริงด้วยครับพี่
แต่คงยากบ้านเราทำเป็นธุระกิจนะครับ
ขอบคุณมากๆครับ
...เห็นด้วยกับคุณสามสักเป็นอย่างมาก...ไหนๆก็ได้ประโยชน์ไปจากธรรมชาติ ...ก็ควรทำร่องรอยการทำลายธรรมชาติให้สวยงามและเกิดประโยชน์บ้างนะคะ...ซึ่งที่จริงแล้วธรรมชาติเป็นสมบัติของโลก เป็นสมบัติของมนุษยชาติ แต่กลับมีคนบางคน บางกลุ่ม นำธรรมชาติไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหน้าตาเฉย...
ขอขอบคุณ ดร.ขจิตและอาจารย์ ดร.พจนามากครับ ที่แวะเข้ามาทักทาย
.... สวยงามมากๆ นะคะ .... ทำให้ธรรมชาติ...ให้เกิดคุณค่า นะคะ
เป็นความคิดข้อเสนอ ที่ดีมาก และอยากให้ถึงหูผู้มีอำนาจหน้าที่ ที่จะบันดาลให้เกิดขึ้นได้ จังเลยค่ะ
เป็นบันทึกเชิงอนุรักษ์ที่เยี่ยมมากเลยครับ คุณสามสัก
สุขสันต์วันครอบครัว นะครับ
<ul><li>นี่คือจุดอ่อนของคนไทยที่มีมรดกอันล้ำค่าแต่รักษาไม่อยู่เพราะคนในชาติผลาญชาติเสียเอง
</li><li>ขอบคุณบันทึกดี ๆ ที่เปี่ยมล้นด้วยคุณค่าในเชิงปัญญา</li></ul>