แรงบันดาลใจของ ฟอเฟรม


แรงบันดาลใจ

        ไอน์สไตน์เคยพูดไว้ว่า “ จินตนาการสำคัญยิ่งกว่าความรู้ ” คำพูดนี้มีความนัยเรื่องเสรีภาพครับ เราจะจินตนาการอะไรไม่ได้เลยหากขาดเสรีภาพ จินตนาการไม่ใช่ห้วงคำนึงที่เกิดขึ้นเมื่อเสรีภาพขาดหายไป อย่างเช่นเมื่อเรามีความกลัวอะไรสักอย่างและเรากังวลคิดไปต่าง ๆ นานาว่าสิ่งร้าย ๆ กำลังจะเกิดขึ้น เช่นนี้เป็นภาพหลอนและไม่ใช่จินตนาการ

        คนไทยเราชอบให้กำลังใจกัน เราชอบบอกกันและกันว่า สู้ ๆ นะเพื่อน เราเป็นกำลังใจให้นาย ผมอยากให้กำลังใจนี่สามารถให้กันได้จริงๆ เหมือนการถ่ายเทพลังงานในวิชาฟิสิกส์ให้กันได้ หรือถ่ายทอดลมปราณพลังยุทธ์ดั่งนิยายจีนกำลังภายใน แต่ก็อย่างที่รู้กันครับว่ากำลังใจนั้นเราถ่ายทอดให้กันวิธีนั้นไม่ได้ สำหรับผมแล้วเมื่อมีคนบอกผม (อย่างจริงใจ) ว่า “เราเป็นกำลังใจให้นายนะ” จริงๆแล้วมันน่าจะแปลว่า “สิ่งที่นายทำนะ ดีแล้ว เราเห็นด้วย ชื่นชมกับสิ่งที่นายทำอยู่ และ เฮ้ย เพื่อน นายไม่ได้อยู่คนเดียวนะ เราอยู่ฝ่ายนายเสมอ เราสนับสนุนนาย” ดังนั้นการให้กำลังใจกันจึงเป็น “การชื่นชมยินดีเห็นด้วย” และเป็นการบอกว่าถ้าเราเผชิญปัญหาอะไร ก็มีเขาที่เต็มใจจะช่วยเราคือเป็น “กำลังเสริมสำรอง” และทำให้เรารู้สึกว่า “ไม่โดดเดี่ยว”

          ดังนั้นการให้ “กำลังใจ” ก็คือการให้ “การชื่นชมยินดีเห็นด้วย + กำลังเสริมสำรอง + ความรู้สึกที่ไม่ต้องโดดเดี่ยว” กำลังใจที่ให้กันก็คือการมีส่วนร่วมยินดีและความหวังดีของคนที่ให้ต่อกันและกัน และเมื่อได้รับกำลังใจ ความรู้สึกถูกต้องชอบธรรมในการกระทำสิ่งนั้นมันจะตามมาด้วยพร้อมๆกัน
          แต่มันยังมีอะไรที่มนุษย์เราต้องการมากไปกว่านั้น ตอนนี้หลายๆคน แม้มีกำลังใจที่พ่อ แม่ พี่ น้องและเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจอยู่ก็ยังรู้สึกขาดอะไรอีกสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “แรงบันดาลใจ” ซึ่งมักเริ่มต้นด้วยการจุดชนวนทางความคิดหรือการจุดประกาย“ในตัวเราเอง”
           และแน่นอนครับ แรงบันดาลใจของผมมันมาพร้อม ๆ กับความรัก เพราะมันมีอยู่ทุก ๆ ที่ ถ้าจะรักและมีแรงบันดาลใจกับอะไรสักอย่างละก็ ก็ต้องให้ความเป็นตัวเองกับสิ่งๆนั้นให้มากที่สุด เป็นธรรมดาสามัญมากที่สุดกับสิ่งนั้นและแน่นอนว่าเราต้องมีสติและรู้จักตัวเองให้ดีก่อนจะรักอะไรสักอย่าง เพราะบางอย่างมันไม่ได้วัดกันด้วยการใช้สมองคือเรื่องของเหตุผล คือมันไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรมข้อห้าม แต่ด้วยความเป็นมนุษย์มีหัวใจที่รู้สึกถึง “ความหมาย” เราจะรู้ได้เองว่าอะไรบางอย่างนั้นเราไม่อาจทำได้เพราะมัน “ไม่งาม” นั่นเองครับ

หมายเลขบันทึก: 565030เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2014 16:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน 2014 12:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท