สนใจในสิ่งใด ย่อมเข้าใจในสิ่งนั้น
...จากลูกเล็กๆที่ออกมาผ่านไปไม่กี่วันเติบใหญ่กลายเป็นเมล็ดพันธุ์ให้สืบสานตำนานไพร...
2557..ปีแรกกับการทดลองพ่นฮอร์โมนหวาน(ใจ)กับ ผักหวานป่าเพื่อทดสอบการออกดอกติดลูกในต้นตัวเมียและต้นดอกผด(ตัวผู้) ในต้นดอกผดแยกโซนพ่นและไม่พ่น..สำหรับผลการทดลองในเบื้องต้นของปีนี้
...ต้น ดอกผดที่ไม่ได้พ่นฮอร์โมนมีการออกดอกดกตามปกติและดอกบานเป็นผงละอองสี เหลืองๆกลางดอกแล้วไม่นานก็เหี่ยวและร่วง สรุปคือ ไม่ติดซักต้นเช่นเคยตั้งแต่ออกดอกมา
...ส่วน ต้นดอกผดที่ทำการพ่นฮอร์โมน7ใน10%กับต้นที่พ่นดอกเฉาและร่วงไม่ติดลูก แต่ใน7%ที่ร่วงไปนั้นก็มีสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นในแนวทางที่ทำอยู่ไม่น้อยนั่นคือ เมื่อดอกผดเริ่มบานตรงเกษรกลางดอกไม่เป็นผงสีเหลืองๆเหมือนกับต้นที่ไม่ได้ พ่น..แต่กลับเป็นตุ่มเขียวเล็กๆตรงกลางดอกซึ่งตุ่มเช่นนี้คือผลของผักหวาน ป่า
...สำหรับ3%ของดอกผดที่ไม่ร่วงหลังจากการพ่นฮอร์โมนฯผลที่ได้คือ มีการติดลูกจากต้นที่ไม่เคยติดลูกเลยก็ติดลูก จากต้นที่เคยติดลูกก็ยังติด(ไม่เปลี่ยนแปลง)และจากต้นที่ติดลูกไม่ถึง10ลูก ก็ติดนับ100ลูก..แม้จะเพียงน้อยนิดไม่กี่ต้นในดอกผดที่ติดลูกแต่ก็เป็นกำลัง ใจอย่างมากในการค้นคว้าทดลองในแต่ละปี..อีก3-5ปีข้างหน้าอาจมีผลิตภัณฑ์ทำ ให้ดอกผดจากตัวผู้กลายเป็นตัวเมียก็ได้นะคะ
***ต้นดอกผดที่ไม่เคยติดลูกเลยซักปีนับตั้งแต่ออกดอกในภาพคือผลที่ได้หลังการพ่นฮอร์โมนหวาน(ใจ) ***
........................................................................................................................................................................
***ต้นผักหวานดอกผดที่ติดลูกไม่ถึง10ลูกในภาพคือผลหลังจากพ่นฮอร์โมนฯ(ดูแบบเผินๆ100ลูกน่าจะถึงแต่ยังหามุมภาพได้ไม่ค่อยชัด)
...ดอกผดกับลักษณะการติดผลเล็กๆกลางดอกหลังจากพ่นฮอร์โมนฯ...
........................................................................................................................................................................
***ต้นผักหวานดอกผดกับต้นที่ไม่เคยติดลูกๆปีแรก(2556)จำไม่ได้ว่าพ่นอะไรให้ ;Dปีนี้2557เริ่มใหม่กับฮอร์โมนหวาน(ใจ)ผลที่ได้คือติดลูกเหมือนเดิมแต่ปีนี้ออกดอกเพีง4ช่อเนื่องจากปี2556แล้งมากทำให้ต้นโทรมเกือบตาย
...รูปภาพของผักหวานดอกผดต้นเดียวกัน(เปรียบเทียบ)พ.ศ.2555-2557...
ภาพเมื่อปี2555
ภาพเมื่อ2556
ภาพเมื่อ2557หลังพ่นฮอร์โมนฯ
...หลังพ่นฮอร์โมนมีหลายต้นออกยอดออกมาแทนตรง จุดตาดอกตรงติดกับลำต้น นับเป็นเรื่องที่ดีเช่นกันแม้ไม่ออกดอกแต่ก็จะได้กิ่งลำเพิ่มขึ้นสำหรับการ ออกดอกที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
......................................................................................................................................................................
ในเบื้องต้นกับผลการทดลองแบบบ้านๆที่ผักหวาน3ต้นติดลูกให้เห็นนับเป็นแรงใจในการแบกถังพ่นมากมายทีเดียวค่ะ ตอนนี้ยังเหลือต้นให้ลุ้นอีก3ต้นที่ดอกยังไม่ร่วง..สุดท้ายแล้วจะออกหัวหรือ ออกก้อย(สำหรับสายพันธุ์โคก..ส่วนพันธุ์ใบแหลมกำลังทยอยออกดอก) ดอกรุ่นแรกส่วนมากเหี่ยวยุบไปแล้วแต่ก็มีบางต้นที่ออกดอกในรุ่นที่สอง..ก็ เลยตัดสินใจในการทดลองพ่นฮอร์โมนต่อไปเรื่อยๆทั้ง3ฤดู(หนาว ร้อน ฝน)เผื่อผักหวานจะตั้งท้องออกลูกให้ปลูกในรอบ6เดือนไม่ต้องรอเป็นปี
การ ทดลองพ่นฮอร์โมนในปีแรกนี้ผลที่ได้เป็นเพียงคำตอบที่สร้างความหวังและกำลัง แรงใจให้ชีวิตค่ะยังบอกไม่ได้เต็มปากเต็มหัวใจว่าสำเร็จ...แต่อย่างน้อยในปี นี้การเปลี่ยนแปลงของช่อดอกผดที่แสดงให้เห็นก็เป็นสิ่งยืนยันกับสิ่งที่เห็น และค้านในใจตลอดเวลากับดอกผดที่หลายๆคนบอกว่ามันคือดอกตัวผู้..ค้านอยู่ในใจ อยู่ตลอดว่าไม่ใช่ตัวผู้แต่เพราะอะไร?ทำไมถึงไม่ยอมติดลูก(ต้องมีอะไรซัก อย่างที่ค้างคา )
มี บางคนพูดว่าต้องมีแมลงช่วยผสมเกษรหรือารผสมเกษรของต้นตัวผู้กับตัวเมีย..หาก เป็นต้นไม้ทั่วๆไปในใจอาจจะไม่คัดค้านแต่สำหรับผักหวานป่าต้นที่เป็นตัวเมีย เค้าออกดอกมาแล้วเป็นผลไม่ใช่เป็นดอกบานแล้วค่อยติดลูก ส่วนดอกผดผักหวานที่คนส่วนมากบอกว่าเป็นตัวผู้นั้นก็ออกดอกมาเป็นลักษณะไข่ กลมๆและไข่นั้นก็พัฒนาเติบโตเรื่อยๆจนสุด(แก่)แล้วไข่นั้นก็บานออกซึ่งในต้น ที่ติดลูก(ผล)ตรงกลางดอกจะเป็นจุดกลมๆเล็กๆโตขึ้นๆเป็นผลเล็กๆของผัก หวาน(บางต้นเปิดไข่ออกมาจะเป็นผลเล็กออกมาด้วย..แล้วมันไปผสมพันธุ์กันตอน ไหน"งง" ดอกผักหวานก็ไม่เห็นมีแมลงมาตอม)
ดับ ข้อสงสัยในใจไปแล้วหลายข้อแต่ก็มีอีกหลายหัวข้อในใจที่ปีหน้าต้องหาคำตอบ(ให้ได้)
...หากพ่นฮอร์โมนแล้วทำให้ผักหวานป่าดอกผดติดลูกได้ต่อไปคงไม่ต้องง้อผักหวานตัวเมียให้มากเพราะหล่อนเล่นตัวเหลือเกิน รอเป็นปีๆออกดอกมานับช่อได้หรือไม่ยอมออกเลยน้อยมากในต้นที่ออกดกทุกปี ต่างกับดอกผดที่ส่วนมากออกดกทุกปีแต่ละต้นนับร้อยนับพันช่อ...
25 มีนาคม 2557
***ขอบพระคุณ สวัสดีค่ะ***
ได้เรียนรู้จากวิถีปฏิบัติที่ได้ผลเชิงประจักษ์สู่การพัฒนาอย่างน่าชื่นชมมากค่ะ
เพิ่งเคยเห็นลูกผักหวานป่า เป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชมจ้ะ
ชื่นชมมากนะคะ ช่วงนี้ทำอาหารเมนูผักหวานบ่อย ขอบคุณมากนะคะ
วิจัยการปลูก การดูแล การขยายพันธุ์ แบบบ้านๆ ทำเป็นเรื่องๆ...ทำต่อไปให้เกิดคุณค่า และประโยชน์สูงสุดในระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศนะคะ ...รอติดตาม ชื่นชม และเป็นกำลังใจค่ะ...
*** ขอบพระคุณสำหรับดอกไม้และกำลังใจจากทุกๆท่านค่ะ ***
สวัสดีค่ะคุณใหญ่...ผักหวานป่าเป็นอีกชนิดพืชที่ยิ่งศึกษาเรียนรู้(ปฎิบัติ)ยิ่งตกหลุมรักค่ะเพราะมีคุณประโยชน์ให้ติดตามค้นหามากมายเกี่ยวกับด้านอาหารเป็นยา ผลิตภัณฑ์เกษตรประเภทออร์แกนิกฟู้ดและระบบสังคมพืชของผักหวานป่าที่เกื้อกูลกับสิ่งแวดล้อมค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูมะเดื่อ...ผลของผักหวานป่าที่ยังไม่แก่เป็นสีเขียวแต่เมื่อแก่จัด(สุก)จะเป็นสีเหลืองค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณดา...ช่วงนี้เป็นฤดูการที่ผักหวานป่าออกยอด ออกดอก ติดผล ให้ได้นำมาประกอบอาหารค่ะแถวๆภาคเหนือถิ่นผักหวานคงมียอดให้ทานทุกวันนะคะ
ขอบพระคุณค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์พจนา..."โมเดล" "วิจัย" ประโยคจากท่านนงนาทและท่านดร.พจนา ที่มอบให้ในบันทึกเป็นหัวข้อขึ้นใจที่ในอนาคตคงได้ต่อยอดหลายๆเรื่องเกี่ยวกับผักหวานป่าค่ะ
สำหรับการปลูก การดูแล การขยายพันธุ์ สายพันธุ์ และเรื่องราวเกี่ยวกับดอกของผักหวานป่าอนาคตมีแนวคิดที่จะรวบรวมเป็นรูปเล่ม(กราบขออนุญาตไว้ล่วงหน้านะคะเมื่อถึงวันนั้นคงมีวาสนาได้ขอคำชี้แนะจากท่านทั้งสอง:)))
ส่วนฮอร์โมนหวาน(ใจ)อีก3-5ปีข้างหน้าเมื่อสูตรและการทดลองเห็นผลเด่นชัดด้านประโยชน์คงได้ผลิตภัณฑ์เพื่อผักหวานจากอุฑยานผักหวานป่า'๔๔ ค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
... ผักหวานป่า ... ผักปลอดสาร พิษ.... ขอบคุณค่ะ
สวัสดีปีใหม่ไทย นะครับ คุณน้อยน้ำพอง
มีความสุข ในสิ่งที่คุณทำนะครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอเปิ้ล...ผักหวานป่าเป็นอาหารและยา
ขอบพระคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี...สวัสดีปีใหม่ไทยๆวันสงกรานต์ค่ะ
ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
ได้เรียนรู้เรื่องผักหวานเพิ่มมากเลยครับ
ขอบคุณพี่น้อยมากๆ
ขอให้มีความสุขมากๆครับ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ขจิต...บันทึกเรื่องผักของอาจารย์ทำให้น้อยได้เข้าใจการปลูกผักเพิ่มมากขึ้นเช่นกันค่ะ
ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมชม..ขอให้ท่านอาจารย์มีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ