เที่ยวกระบี่...Trip นี้ So Wonderful!!!

บันทึกนี้ ขอมอบเป็น "ส.ค.ส.ปี ๒๕๕๗ : ปีมะเมีย ปีม้าคึกคัก" แด่ "กัลยาณมิตร GotoKnow" ทุกท่าน นะคะ

(ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ ที่นำมาจากการสืบค้นทาง Internet ด้วยนะคะ)

ก่อนที่จะมอบอาหารตาอาหารใจให้กับ "กัลยาณมิตร GotoKnow" ด้วยกิจกรรม "การท่องเที่ยวผ่าน Blog" ขอมอบอาหารสมองด้วยการ Update ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวของไทยในปี 2556 และการคาดการณ์ในปี 2557 ดังนี้ ...ในวันที่ 20 ธันวาคม นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวตลอดปี 2556 สรุปได้ว่า ในระยะ 11 เดือนแรกของปี 2556 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งปีจะอยู่ที่กว่า 26 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.16 ล้านล้านบาท แม้ประเทศไทยจะประสบกับปัญหามากมาย ท้ังภัยธรรมชาติ การชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาล และผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนปี 2557 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวรวมกว่า 29 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 สร้างรายได้กว่า 1.35 ล้านล้านบาท (http://news.voicetv.co.th/business/91696.html)

ในปี 2556 ลูกชายของไอดินฯ (นายปราปต์ แพงศรี : ลูกตั้ม) พาแม่ “เที่ยวทั่วไทย” 3 Trips ลูกสาวของไอดินฯ (นางสาวปราณสลิล แพงศรี : ลูกเอ๋) บอกว่า “ตั้มนี่ดีนะแม่ เค้าบอกว่า แม่เกษียณแล้วกลัวจะเหงาเลยพาแม่เที่ยวบ่อยหน่อย” (ไอดินฯ เกษียณฯ 30 กันยายน 2555)

Trip แรก วันที่ 1-3 พฤษภาคม เป็นการพาแม่เที่ยวในเดือนเกิดขอลูกตั้มเอง โดยพาไปเที่ยวที่ "เกาะกูด จ.ตราด" ซึ่งเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกของไทย (ช่วงวันเกิดของเขาในปี 2554 ลูกตั้มก็พาแม่และพี่เอ๋ไปเที่ยวที่ "เกาะช้าง" ในจังหวัดเดียวกันนี้ เกาะช้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากเกาะภูเก็ต ) "เกาะกูด" เป็นเกาะสุดท้ายปลายทะเลตะวันออกติดชายแดนทางทะเลของกัมพูชา ได้รับสมญานามว่า “อันดามันแห่งทะเลตะวันออก” Trip ที่สอง วันที่ 20-22 สิงหาคม" เป็นการพาแม่เที่ยวในเดือนที่มีวันแม่ โดยพาไปเที่ยวที่ "เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี" ซึ่งเป็นจังหวัดในภาคใต้ของไทย เกาะสมุยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๓ ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ตและเกาะช้าง เป็นเกาะที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของทะเลอ่าวไทยตอนใต้ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนปีละหลายล้านคน

และ Trip ที่สาม วันที่ 17-19 ธันวาคม 2556 ลูกพาเที่ยว "จังหวัดกระบี่" ซึ่งเป็นจังหวัดใน "ภาคใต้" ในช่วงวันเกิดของแม่ ปกติแล้วไอดินฯ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันเกิดของตนเอง มากไปกว่าการรับรู้ว่าอายุได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปี Trip นี้ก็เหมือนกับทุก Trip ที่ผ่านมา คือลูกตั้มจะอำนวยความสะดวกให้แม่โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน “อุบลฯ-ดอนเมือง” และ “ดอนเมือง-อุบลฯ” แบบออนไลน์ไว้ให้ล่วงหน้า ไอดินฯ เพียงแค่ใช้บัตรประจำตัวประชาชนไปเช็คอินเท่านั้นเอง

Tripนี้ ไอดินฯ ได้บินจากท่าอากาศยานนานาชาติอุบลฯ ด้วยเที่ยวบิน 09.20 น. (Depart) ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 10.25 น. (Arrive) แล้วนั่งแท็กซี่ไปพักกับลูกเอ๋ ที่คอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 50 แล้วตีสี่ของวันที่ 17 ธันวาคม ไอดินฯ กับลูกเอ๋ได้นั่งแท็กซี่ไปยังคอนโดฯ ที่พักของลูกตั้ม แล้วลูกตั้มก็ขับรถพาทุกคนไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง Flight 06.40 น. เพื่อเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติกระบี่ โดยจอรถไว้ที่สนามบิน Trip นี้ตอนแรกไอดินฯ บอกลูกตั้มว่า ยังไม่รับปากว่าจะไปด้วยเพราะรู้สึกว่าจะเที่ยวบ่อยไป แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไปเพราะต้องการอยู่ใกล้ชิดลูกเป็นหลัก แต่เมื่อได้เที่ยวแล้วก็บอกได้คำ (วลี) เดียวว่า "เที่ยวกระบี่...Trip นี้ So Wonderful!!!" ทั้งสนุก ตื่นเต้น และหวาดเสียว...จะอย่างไร โปรดติดตามต่อไป นะคะ

"ภาคใต้" เป็นภูมิภาคหนึ่งของประเทศ ไทย ตั้งอยู่บนคาบสมุทรมลายูทางใต้ของประเทศ ขนาบด้วย "อ่าวไทยทางฝั่งตะวันออก" และ "ทะเลอันดามันทางฝั่งตะวันตก" ประกอบด้วย 14 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ระนอง สตูล สงขลา สุราษฏร์ธานี และ ยะลา

"จังหวัดกระบี่" ตั้งอยู่ด้านฝั่งทะเลตะวันตกติดกับ "ทะเลอันดามัน" ห่างจากกรุงเทพมหานคร 820 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 4,727.5 ตารางกิโลเมตร แบ่งเขตการปกครองเป็น 8 อำเภอ (อุบลฯ แม้จะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไปเป็นจังหวัดยโสธร และจังหวัดอำนาจเจริญแล้วก็ยังมีถึง 25 อำภอ) ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน ทำประมงทะเล และทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน มีที่ราบแคบๆ ตามเชิงเขาและบริเวณชายฝั่งทะเล มีหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ ส่วนใหญ่เป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัย จะมีก็เพียงแค่ 13 เกาะที่มีการไปสร้างบ้านเรือนและตั้งถิ่นฐานอยู่ เช่น เกาะพีพี เกาะลันตา เกาะปอดะ เกาะไม้ไผ่ และเกาะห้อง เป็นต้น ด้วยความงดงามของท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงความสะดวกสบายของสถานที่เที่ยว ที่กิน และที่พัก ที่มีอยู่อย่างมากมายหลากหลายแห่ง จึงเป็นเรื่องไม่แปลกที่ "จังหวัดกระบี่" จะเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้แวะเวียนมาเยือนกันอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปี

เมื่อเครื่องไปถึงสนามบินกระบี่ พนักงานบนเครื่องประกาศว่า ยังไม่สามารถนำเครื่องลงจอด (Landing) ได้ เพราะมีหมอกปกคลุมหนามากจนมองไม่เห็นรันเวย์ ต้องบินวนรอให้หมอกจางลงจนเห็นรันเวย์จึงจะนำเครื่องลงจอดได้ ไอดินฯ ดูเวลาขณะนั้น 07.40 น. (บินมาแล้ว 1 ชม.พอดี) เมื่อมองจากหน้าต่างไปยังเบื้องล่าง ก็เห็นปุยขาวๆ คล้ายเมฆคลุมพื้นที่เต็มไปหมด (คล้ายๆ ในภาพบนซึ่งเป็นภาพจาก Internet) ถามลูกสาวซึ่งไม่ค่อยได้เดินทางโดยเครื่องบินว่ากลัวไหม ลูกตอบว่าไม่กลัว...ค่อยยังชั่วหน่อย ...ไอดินฯ นั่งเครื่องมาก็บ่อยทั้งระหว่างประเทศและภายในประเทศ นี่เป็นครั้งแรกที่มีปัญหาการบิน เมื่อเครื่องบินวนไปมานานมากและมองลงไปเบื้องล่างทีไรก็ยังไม่เห็นพื้นดิน ก็เริ่มกังวลว่าน้ำมันสำรองจะพอไหมนะ...และแล้วหลังจากบินวนประมาณ 40 นาที (เวลา 08.20 น.) เครื่องก็สามารถลงจอดได้ ท่ามกลางความโล่งอกของไอดินฯ และคงจะของใครอีกหลายคน

เมื่อออกจากสนามบิน รถตู้ของรีสอร์ทที่จะเข้าพักได้รับพวกเราไปยังท่าเรือห่างออกไปประมาณ 18 กม. ลูกตั้มบอกว่าที่พักอยู่ที่ "อ่าว (หาด) ไร่เลย์" ซึ่งไอดินฯ ไม่เคยได้ยินชื่อ เมื่อสืบค้นทาง Internet ได้ข้อมูลว่า "ไร่ย์เลย์" ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทย แต่เป็นที่รู้จักดี (Well-known) ในหมู่ชาวตะวันตก เป็นอ่าว (หาด) ในตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ไปถึงได้โดยทางเรือเท่านั้นเพราะมีภูเขาขวางกั้น และนักอนุรักษ์นิยมไม่ยอมให้มีการตัดถนนผ่านไปถึง ด้วยต้องการให้คงความเป็นธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด ไร่เลย์แบ่งเป็น "ไร่เลย์ตะวันออก" และ "ไร่เลย์ตะวันตก" ซึ่งอย่างหลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากกว่า เพราะน้ำทะเลใส หาดทรายสวย และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ส่วนไร่เลย์ตะวันออกมีข้อดีคือที่พัก/ร้านอาหารราคาถูกกว่า และมีหน้าผาแถวหาด/ถ้ำพระนางที่นักท่องเที่ยวนิยมปีนผา ที่พักของพวกเราคือ "ไร่เลย์ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา" ตั้งอยู่ที่อ่าวไร่เลย์ตะวันตก (ดังภาพบน) ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวชี้ว่า เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ใน Location ที่ดีที่สุด (คงด้วยเหตุนี้ จึงมีอัตราค่าที่พักแพงที่สุดในไร่เลย์)

นางวิยะดา ศรีรางกูล ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2556 ว่า จากการโหวตของนักท่องเที่ยว เว็บไซต์ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว และจากนิตยสารต่างๆ ทั่วโลก เพื่อมอบรางวัล "Travellers' Choice Beaches Awards 2013" ที่จัดขึ้นโดย "Trip Advisor" เว็บไซต์ท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของโลก ผลปรากฏว่า 3 ชายหาดในกระบี่ ติด 3 ใน 25 อันดับชายหาดที่สวยที่สุดของเอเชีย คือ หาดไร่เลย์ ได้อันดับ 3, หาดอ่าวนางอันดับ 5 และชายหาดเกาะลันตา อันดับ 15...เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานิตยสาร "Lonely Planet Traveller ฉบับภาษาไทย" ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Lonely Planet Traveller Magazine ฉบับภาษาอังกฤษจาก BBC ประเทศอังกฤษ ก็ได้จัดให้ผู้อ่านนิตยสารดังกล่าวโหวตลงคะแนน สถานที่ท่องเที่ยวและบริการที่ยอดนิยมและดีที่สุดประจำปี 2556 เพื่อเข้ารับรางวัล "Lonely Planet Traveller Destination Award 2013" ใน 5 สาขา ซึ่ง จ.กระบี่ ได้รับผลโหวตมากที่สุดในสาขา "Best Destination for Beach Holiday (เป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนชายหาดในวันหยุด-ไอดินฯ)" ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมา จ.กระบี่มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 48,000 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ถึง 18% เนื่องจาก จ.กระบี่ มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก

ในวันที่ 23 ธันวาคม นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ในจังหวัดกระบี่ ที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง เนื่องจากหลายประเทศมีการเตือนนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทย แต่พบว่า ยังมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อน เพื่อรอเฉลิมฉลองเทศกาลกันเป็นจำนวนมาก มียอดการจองห้องพักเฉลี่ย 95-100 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนห้องพักประมาณ 18,000 ห้อง ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ คาดว่าในแต่ละวันจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท และคาดว่าตลอดทั้งเทศกาลคือตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.56-10 ม.ค.57 จะมีเงินสะพัดกว่า 2,400 ล้านบาท โดยโรงแรมที่พักตามแหล่งท่องเที่ยวใกล้ชายทะเล เช่น อ่าวนาง อ่าวไร่เลย์ หาดคลองม่วง และเกาะพีพี ยังคงได้รับความนิยม มียอดการจองห้องพักเต็ม (http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000157228)

ในช่วงที่ไอดินฯ และลูกๆ พักอยู่ที่ไร่เลย์เบย์รีสอร์ทฯ ได้เห็นนักท่องเที่ยวผิวขาวเต็มไปหมด ทั้งที่นอนอาบแดดที่หาดหน้ารีสอร์ท และที่ลาก/ยกกระเป๋าเข้าออกตลอดเวลา ครอบครัวที่มีลูกน่ารักเป็นชาวฝรั่งเศส ไอดินฯ ได้ทำความรู้จักและและช่วยดูแลเด็กๆ ในช่วงที่ใช้บริการ Speed Boat Trip ด้วยกัน และยังได้ถ่ายภาพครอบครัวดังกล่าวในอิริยาบทต่างๆ และนำไปแต่งภาพ "Merry Christmas" saved in ใน Sim Card กล้องให้ด้วย จากการที่มีลูกค้าชาวผิวขาวเป็นหลัก ทางรีสอร์ทได้ขึ้นป้ายจัดงาน "Christmas Party" ในวันที่ 24 ธันวาคม โดยคิดผู้ไปร่วมงานผู้ใหญ่หัวละ 2,000 บาท เด็กหัวละ 1,000 บาท และลดราคาค็อกเทลครึ่งราคาปกติ

"หมู่เกาะห้อง" ตั้งอยู่ในเขต “อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี” ซึ่งมีพื้นที่ 65,000 ไร่ บางส่วนของอุทยานเป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามัน รวมทั้งหมู่เกาะห้อง ซึ่งมีเกาะเล็กๆ มากมาย นี่เป็นครั้งแรกที่ไอดินฯ ได้นั่ง Speed Boat ท่องทะเลอันดามัน ทำให้รู้สึกสนุกตื่นเต้นลืมวัยไปเลย จึงเลือกนั่งท้ายเรือเพื่อถ่ายภาพต่างๆ ตอนแรกหวั่นใจว่าอาจจะมีอาการวิงเวียน เพราะก่อนเดินทางได้ตื่นตีสามครึ่งถึงตีสี่ติดต่อกันสามคืนที่อุบลฯ ตามด้วยคืนก่อนเดินทางไปกระบี่ก็ได้นอนกันไม่ถึงสามชั่วโมง เป็นอันว่าหายห่วงเพราะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ที่ๆ พวกเราได้แวะชมในหมู่เกาะห้อง ได้แก่ Hong's Lagoon (ไม่ได้ขึ้นจากเรือ) เกาะผักเบี้ย เกาะลาดิงหรือเกาะสวรรค์ และเกาะห้องซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด หมู่เกาะห้องมีทัศนียภาพสวยงามมาก มีอ่าวที่มีหาดทรายโค้งเป็นรูปนกบิน (ดังภาพบน-กลาง) ทรายละเอียดขาวสะอาด น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต มีฝูงปลาเล็กๆ แหวกว่ายให้เห็นอยู่ทั่วไป ห่างจากชายหาดลงไปในทะเล มีกัลปังหาและปะการังหลากชนิด ชายทะเลเหมาะแก่การเล่นน้ำ ถือว่า เป็นแหล่งพายเรือคายัคและแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่สวยงาม จนได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 เกาะที่มีหาดน่าเที่ยวและสะอาดที่สุดในโลก ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของ เกาะห้อง คือ “Hong’s Lagoon (ทะเลสาบบนเกาะหรือทะเลใน)" ซึ่งเปรียบเสมือนสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีผนังเป็นหน้าผาชันโดยรอบลักษณะคล้ายห้อง มีประตูทางเข้าเพียงทางเดียว กว้างประมาณ 10 เมตร สามารถนำเรือเข้าไปได้ พื้นเป็นทรายขาวสะอาดราบเรียบเสมอกัน น้ำตื้นและใสมากเหมาะแก่การเล่นน้ำ และยังเป็นที่หลบคลื่นลมของชาวประมงเมื่อมีพายุพัดผ่าน (ดังภาพล่างขวา)

ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของไทย ไอดินฯ มักจะพบป้ายที่ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารแบบไม่ถูกต้อง บางแห่งใช้ภาษาอังกฤษแบบแปลจากภาษาไทยตามตัวอักษรคำต่อคำ ทำให้ได้ภาษาที่ไม่ตรงกับสำนวนที่เจ้าของภาษาใช้กัน อย่างเช่น คำว่า "เมาไม่ขับ" ก็พบป้ายภาษาอังกฤษที่แปลตรงตามตัวอักษรว่า "Drink don't drive" ซึ่ง Andrew Biggs (ชาวออสซี่ที่เข้ามาอยู่ในประทศไทยตั้งแต่ปี 2532 และได้สอนภาษาอังกฤษให้กับคนไทยผ่านสื่อต่างๆ เช่น การจัดรายการ "Talk of the Town" ในอดีตทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3) ได้ชี้แจงในรายการทีวีที่ไอดินฯ จำไม่ได้ แต่จำคำแนะนำได้ว่า ที่ถูกต้องจะต้องใช้สำนวนว่า "Don't drink and drive." สำนวนที่พบในภาพขวาบน เป็นการแปลไทยเป็นอังกฤษแบบคำต่อคำ กระนั้นก็ยังแปลแบบไม่ถูกต้อง เพราะแปลวลี "ภาชนะที่ทำด้วยโฟม" เป็น "be made with a foam contain" ซึ่งไม่สื่อความ น่าจะใช้ภาษาอังกฤษว่า "a container made from foam" อะไรทำนองนี้...ไอดินฯ ก็ไม่แน่ใจนะคะว่าตนเองใช้ได้ถูกต้อง เวลาใช้จริงจะปรึกษาผู้รู้ก่อน จึงค่อนข้างแปลกใจว่า ผู้เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษน่าจะมีอยู่ในแทบทุกจังหวัดของไทย ทั้งที่เป็นคนไทยและเป็นเจ้าของภาษา ทำไมเวลาหน่วยงานจะเขียนข้อความภาษาอังกฤษในป้ายต่างๆ จึงไม่ปรึกษากับผู้รู้ก่อน จะได้สื่อสารด้วยภาษาสากลได้ถูกต้องและเป็นที่เข้าใจของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งป้ายในแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับโลกและเป็นที่นิยมของชาวตะวันตกเช่นนี้

ช่วงเย็นของวันที่ 18 ธันวาคม ลูกตั้มออกไปถ่ายภาพที่ชายหาดเช่นเคย (ภาพซ้าย) และมื้อเย็นพวกเราได้เปลี่ยนจากการทานอาหารที่ร้านของรีสอร์ที่พัก เป็นทานที่ร้านถัดไปซึ่งห่างกันเพียงแค่ช่องทางเดินระหว่างโต๊ะ โดยเลือกโต๊ะกลางแจ้งใต้แสงจันทร์ ลูกตั้มเลือกเมนู 1-2 (ดูจะชอบปลาหมึกเป็นพิเศษ) ลูกเอ๋เลือกเมนู 3 ปลากะพงนึ่งมะนาว แม่เลือกเมนู 4 น้ำพริกกุ้งสดผักรวม (สั่งแกงส้มปลากระบอกอีกอย่าง แต่พนักงานรับ order บอกภายหลังว่า ไม่มี นุกนิกขอนอนพักเลยไม่ได้เลือก แต่ได้ตามให้ไปทานด้วยในภายหลัง ราคาอาหารรวมข้าวเปล่า 4 จานและน้ำดื่ม 1,200 บาทเศษ ถูกว่าราคาอาหารของรีสอร์ทที่พัก) สังเกตว่า พนักงานทุกคนสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ซักถามจากหัวหน้าพนักงาน ได้ข้อมูลว่า หลายคนเป็นศูนย์มาก่อนแต่ได้รับการอบรมจากฝ่ายบริหาร แล้วหาความชำนาญจากประสบการณ์ตรง ...ระหว่างทางกลับที่พัก ไอดินฯ ได้ถ่ายภาพการตกแต่งสถานของรีสอร์ทด้วยไฟสีต่างๆ และภาพพระจันทร์

วันที่ 19 ธันวาคม พวกเราเช็คเอ๊าท์เวลา 11.30 น. ตามเงื่อนไขของรีสอร์ท แล้วฝากสัมภาระไว้ก่อน ขากลับก็เหมือนขามา คือ ลูกตั้มได้จ่ายค่าที่พักรวมค่าบริการรับส่งจากสนามบินถึงที่พัก และจากที่พักถึงสนามบินไว้แล้ว แต่คิวที่เรือจะนำส่งคือเวลา 17.00 น. จึงยังมีเวลาอยู่ที่ไร่เลย์อีกประมาณ 5 ชั่วโมง ไอดินฯ เลือกกิจกรรมที่เหมาะกับเวลาที่มี มากที่สุด คือ การเดินจากอ่าวไร่เลย์ตะวันตกทลุอ่าวไร่เลย์ตะวันออก แล้วเดินลัดเลาะชมหินงอกหินย้อย ไปยังหาด/ถ้ำพระนาง ซึ่งห่างจากที่พักประมาณ 700 เมตร ระหว่างทางมีเหตุการณ์น่าหวาดเสียวคือ ลูกลิงที่เกาะอยู่ตามรั้วไม้ไผ่ข้างทางได้กระโดดเกาะไหล่ลูกเอ๋ถึงสองครั้งสองคราเพื่อจะแย่งขนมในถุง ดีหน่อยที่ไม่ทำร้ายเธอ ไอดินฯ ที่เดินระวังหลังตะโกนไล่เขาก็ไป (ลูกตั้มกับนุกนิกเดินล่วงหน้าไปนานแล้ว) ที่อ่าวพระนางพบชาวตะวันตกปีนผากันอย่างต่อเนื่อง จากการสืบค้น ได้ข้อมูลว่า การปีนผามีวิวัฒนาการมาจากการปีนเขาซึ่งมีประวัติยาวนานนับพันปี การปีนเขาของคนในยุคก่อนเป็นการปีนเพื่อความอยู่รอดตามธรรมชาติ เพื่อการหลบภัย หรือปีนเพื่อทำพิธีกรรมตามความเชื่อ แต่การปีนเขาในยุคต่อมาส่วนใหญ่มีเหตุผลเพื่อการค้นคว้าสำรวจ และเพื่อการพิชิตความสูง และการสร้างสถิติ (http://wilunda.blogspot.com/2012/09/railay-normal-0-false-false-false-en-us.html)

พวกเราอยู่ที่หาดพระนางจนถึงเวลา 14.00 น. แล้วก็เดินย้อนกลับไปยังหาดไร่เลย์ตะวันออกและแวะทานมื้อเที่ยงที่ร้านติดท่าเรือ เป็นมื้อแรกที่ได้ทานส้มตำ แต่ดูจากภาพก็คงเห็นว่าหน้าตาไม่ได้จัดจ้านเหมือนส้มตำทางบ้านไอดินฯ (อีสาน) ข้อมูลท่องเที่ยวระบุว่า ทั้งที่พักและอาหารแถวหาดไร่เลย์ตะวันออกจะถูกกว่าไร่เลย์ตะวันตก ที่เห็นในภาพส้มตำ 2 จาน ไก่ 1 ซีก ปลาหมึกทอด 1 จาน ต้มยำ (ถ้วยเล็กที่สุดที่เคยเห็น หน้าตาไม่น่ากินแต่รสชาติกลมกล่อมผิดคาด) ข้าวสวย 2 จาน (ลูกเอ๋ ลูกตั้ม) ข้าวเหนียว 2 กล่อง (นุกนิก ไอดินฯ) น้ำเปล่าขวดเล็ก 2 ขวด (3 คนแม่ลูก) น้ำผลไม้ 1 แก้ว (นุกนิก) รวม 600 บาทเศษ อิ่มแล้วพวกเราก็เดินกลับไปยังไร่เลย์ตะวันตก เพื่อรอเวลาตามที่ทางรีสอร์ทนัดว่าจะนำส่ง 17.00 น.

เวลา 17.00 น. ตามนัด พนักงานคนเดิมที่เคยรับตอนขามา (ดังภาพล่างกลาง) นำพวกเราและสัมภาระขึ้นรถไปที่ท่าเรือ แล้วยกสัมภาระขึ้นรถ (ดังภาพล่างซ้าย) เพื่อนำไปส่งที่เรืออีกทอดหนึ่ง โดยขึ้นรถตามไปช่วยยกกระเป๋าลงเรือด้วย เพราะเป็นช่วงน้ำลง เรือไม่สามารถเข้าไปเทียบฝั่งได้เหมือนขามา เห็นนักท่องที่ไม่ได้ใช้บริการของที่พัก ต้องยกสัมภาระเดินไปลงเรือเอง (ดังภาพล่างซ้าย) เมื่อถึงฝั่งคนขับเรือก็บริการขนสัมภาระขึ้นจากเรือ แล้วพนักงานขับรถตู้ของรีสอร์ทก็ขับรถนำส่งพวกเราที่สนามบินกระบี่เพื่อเดินทางกลับ กทม. Flight 19.55 น. บริเวณที่นั่งรอขึ้นเครื่องมีมุมส่งเสริมการอ่าน แต่ไม่พบว่ามีใครอื่นใช้บริการ ยกเว้นลูกเอ๋ที่หยิบหนังสือ "อาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก" ของวินทร์ เลี้ยววาริณ ไปอ่าน เธอให้เหตุผลว่า ภาพปกและชื่อหนังสือดึงดูดใจ อีกอย่างก็รู้จักผู้เขียนด้วย...หนังสือดังกล่าวอยู่ในชุดเสริมกำลังใจ กระตุ้นให้ผู้อ่านคิดนอกกรอบจากที่คนทั่วๆ ไปคิดกัน ส่วนไอดินฯ หยิบหนังสือ "กระบี่เบิกฟ้าอันดามัน เทิดไท้องค์ราชันฯ" ไปอ่าน เป็นหนังสือที่แนะนำ 14 จังหวัดในภาคใต้ โดยแต่ละจังหวัดจะมีข้อมูล ตรา/คำขวัญประจำจังหวัด ประวัติ และแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น ไอดินฯ ถึง กทม.แล้ว ไอดินฯ ได้อยู่ต่อและเดินทางกลับอุบลฯ ด้วย Flight 18.20 น. ถึงอุบลฯ 19.20 น.เป็นอันสิ้นสุดการเดินทางใน Trip นี้

ขอบใจลูกตั้มที่มอบของขวัญวันคล้ายวันเกิดของแม่ (19 ธันวาคม) ด้วยบริการนำเที่ยวใน Trip ที่ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางมากที่สุด ได้พักในที่ๆ ชื่นชอบที่สุดทั้งห้องพักและบรรยากาศแวดล้อม ได้ท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุด ด้วยความสนุกตื่นเต้นที่สุด และมีความสุขที่สุด ขอบใจลูกเอ๋และนุกนิกที่ช่วยให้การท่องเที่ยวครั้งนี้มีความสมบูรณ์ ขอบคุณชาวกระบี่ที่ดูแลธรรมชาติอันงดงามไว้ให้พวกเราได้ชื่นชม ขอบคุณทีมงานของรีสอร์ที่พักทุกคน ที่อำนวยความสะดวกตลอดช่วงเวลาที่พวกเราเข้าพักและเดินทางไปกลับ และขอบคุณ "กัลยาณมิตร GotoKnow" ทุกท่านที่ร่วมเที่ยวกระบี่ผ่าน Blog และมอบดอกไม้เป็นกำลังใจ ทักทายพูดคุยกันด้วยน้ำใจไมตรีอันดียิ่ง

เขียนใน GotoKnow โดย ไอดิน-กลิ่นไม้
ใน WHATTOSHARE : เรื่องราว หลากหลาย ในโลกใบนี้

คำสำคัญ (Tags): #กระบี่#อ่าวไร่เลย์ตะวันออก#อ่าวไร่เลย์ตะวันตก#หมู่เกาะห้อง#ไร่เลย์เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา#Speed Boat Trip#เรือหางยาว#paradise island#อ่าว/หาด/ถ้ำพระนาง#ส.ค.ส.2514#Happy New Year 2014

หมายเลขบันทึก: 557438เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2013 20:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มกราคม 2014 10:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน

ความเห็น (36)

sr

เขียนเมื่อ 27 ธันวาคม 2013 09:35 น. ()

Krabi is a beutiful place, lots to marvel and enjoy; beaches, islands, the night plaza, many unique food offerings; ... the town is also in the process of rebuilding itself (make-up or make-over?)

I think you missed "climbing up the 1170+ steps to a golden pagoda on top of the mountain at วัดถ่ำเสือ.

(I had in mind to retest my fitness again when I'm 65 ;-)

ธิ

เขียนเมื่อ 27 ธันวาคม 2013 23:23 น. ()

สวย ๆ ๆ ๆ มากค่ะ

ลูกหมูเต้นระบำ

เขียนเมื่อ 28 ธันวาคม 2013 22:13 น. ()

น่าไปเที่ยวมากๆครับอาจารย์ ...

Pojana Yeamnaiyana Ed.D.

เขียนเมื่อ 29 ธันวาคม 2013 02:48 น. ()

ติดตามมาเที่ยวกระบี่ มาสวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๗ ส่งความสุข สดชื่น สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงทั้งกาย และใจ ทั้งครอบคร้วนะคะพี่ผศ.วิไล...สวยงาม ร่มรื่น และเต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นของครอบครัวค่ะ

ขจิต ฝอยทอง

เขียนเมื่อ 29 ธันวาคม 2013 13:33 น. ()

ตามมาอ่านเรื่องไปกระบี่ครับอาจารย์แม่

ไปหลายที่มากเลย

ผมไปแค่สระมรกต

ไม่ค่อยได้ไปที่อื่นๆ ขอให้อาจารย์แม่ น้องเอ๋ น้องตั้มและครอบครัวมีความสุขมาก

สถานที่ท่องเที่ยวหลายที่จะพบภาษาอังกฤษแบบงง งง แบบนี้เสมอนะครับ

ไอดิน-กลิ่นไม้