ด้วยหยาดเหงื่อและแรงกาย
กว่าจะมีวันนี้ พูดได้เลยว่าสายตัวแทบขาด ๑๐ กว่าปีที่ทำงานค่อนข้างหนักมาตลอด นิตยาต้องขยันและมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง วางแผนการค้าขายและตกแต่งร้าน ทำบัญชีสินค้า ติดป้ายราคาและทำบัญชีรับจ่าย ในแต่ละวัน ทั้งต้นทุนและกำไรต้องมีความชัดเจน ส่วนหนึ่งต้องจัดแบ่งไว้เป็นค่าแรงลูกน้อง ค่ากับข้าวและค่าน้ำค่าไฟด้วย
มีโอกาสบ้างในบางครั้ง แต่ไม่บ่อยนัก ที่ไปเดินเที่ยวห้างบ้าง ไปเที่ยวต่างจังหวัดและไปทำบุญที่วัดและโรงเรียนต่างๆ งานของนิตยาต้องค้าขายทุกวัน ไม่จำเป็นนิตไม่อยากหยุดงาน การหยุดทำงานเท่ากับขาดรายได้ และอาจเสียลูกค้าไป และยิ่งหยุดนอนเล่นเฉยๆ ยิ่งทำไม่ได้เลย..การได้ออกไปร้าน เป็นความสุขของนิตอย่างหนึ่ง
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยมาก ลูกค้าน้อยลง รายได้ไม่เข้าเป้า แต่นิตก็ทำใจได้ เพราะก่อนหน้านี้ ก็ขายดีมาตลอด มีเงินสำรองเก็บไว้เป็นทุนอยู่พอสมควร อากาศในกรุงเทพ เริ่มเย็นลง ว่างจากลูกค้าเลยมีเวลาคิดเยอะ พอรู้สึกเหนื่อยและเริ่มจะท้อ ก็นึกถึงผลงานชีวิตของนิตยาที่ผ่านมา..ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ..จากเด็กสาว จบ ม. ๓ เข้ากรุงเทพตัวเปล่า เริ่มต้นทำงานเป็นสาวห้างเงินเดือนน้อยนิด ผันตัวเองมาค้าขายส่วนตัว ..จนถึงทุกวันนี้ แทบไม่อยากเชื่อตัวเอง ที่สู้ชีวิตและนำพาชีวิตก้าวล่วงออกจากความทุกข์ยากได้แล้ว.... ทำได้อย่างไรกันนี่
การสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างหลักประกันให้ชีวิต..ในช่วงที่ยังมีเรี่ยวมีแรงอยู่ นิตคิดไว้อยู่เสมอ เจอเพื่อนๆและน้องๆ ที่มีครอบครัวกันไปแล้ว ต่างมีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมาย มักจะมีปัญหากันเพราะไม่ตั้งหลักปักฐานให้ดีเสียก่อน และใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เกินความพอดี
การใช้จ่ายเงินเป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องรอบคอบรัดกุม มีวินัย ต้องรู้ว่าจะจ่ายอะไร จำเป็นหรือไม่ และต้องไม่จ่ายเกินตัว สิ่งที่นิตยามีอยู่ในเวลานี้และภาคภูมิใจ เป็นทรัพย์สินที่ได้มาอย่างคุ้มค่าทุกสิ่งและทุกเม็ดเงิน ได้จากการทำงานค้าขาย ที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงกายอย่างแท้จริง ยิ้มได้ทุกครั้งอย่างภาคภูมิใจ
ไม่ว่าจะเป็น..บ้านรังสิยา..แฟลตห้วยขวาง ..ร้านเครื่องสำอาง..รถยนต์คันโปรด..บ้านและที่นาสุดสวยที่ศรีสะเกษ ตลอดจนมีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายไม่ขัดสน เพื่อการลงทุนธุรกิจเล็กๆ และการใช้ชีวิตที่สุขสบายตามอัตภาพในกรุงเทพ
จึงขอบันทึกผลงานชีวิตตัวเองที่สุดแสนภาคภูใจไว้ตรงนี้ ที่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ณ เวลานี้ที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ ต่อสู้ชีวิตมาอย่างกล้าแกร่งด้วยสองมือ มันสมองและเรี่ยวแรง..ไม่เคยยอมแพ้แก่โชคชะตา ไม่เคยเชื่อหมอดู ไม่เล่นหวยและไม่เล่นการพนันใดๆทั้งสิ้น แต่จะเชื่อตัวเอง..เชื่อว่า การใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบวินัย และใช้จ่ายเงินอย่างรู้คุณค่า..แม้ไม่จบปริญญาก็สามารถนำพาชีวิต..ให้ก้าวไกลและมั่นคงได้..เชื่อนิตเถอะ
ชื่นชมคุณนิตค่ะ
น้องนิตยา...คือ ตัวอย่างของคำว่า...คนสู้่ชีวิต...พิชิตชัยชนะ..โดยแท้..สุดยอด...
แฟ้มบุคคล ขอ ปรบมือให้ สาวเก่ง หัวใจแก่ง 9999 ครั้ง และ (จัดเพลงน้องไมค์ ให้ 10 เพลงรวด เริ่มต้นแรงใจรายวัน.....จ๊ะ)
เป็นแบบอย่างที่ดีงามมากครับ..ขอยกย่องชมเชยด้วยใจจริง
ขอชื่นชม...เป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตนะคะ
การที่เราไปคาดเดาเอาเองว่า สมองก้อนใดก้อนหนึ่ง แม้แต่ก้อนที่อยู่ในกระโหลกของตนเอง. ไม่สามารถเรียนรู้ความจริงเกินเลยจากความเชื่อที่อนุโลมให้กล่าวต่อๆกันมา ในขณะที่คุณค่ายังมิครบถ้วน แค่เชื่อว่าพบความจริงแล้ว. คือ การประณีประนอม ที่ขาดตรรกะ.ขาดเหตุผล ขาดสุจริตธรรมไป นั่นเอง. จงอย่าให้การประณีประนอมเช่นนั้นทำให้คนไทยคับแคบ ขาดการศึกษาเพิ่มเนิม วนเวียนอยู่กับความจริงแบบ แฟนตาซี หรือ มายาคติ. เสียโอกาสก้าวหน้า เปิดกว้าง ศึกษาสิ่งที่กว้างขวาง ตอบข้อสงสัยได้กล้างขวางกว่า หลุดพ้นจากสภาวะการตกเป็นทาส สภาวะการยกตนเป็น นาย ต่อกันของเพื่อนพี่น้องมนุษย์กันเอง.การไม่ประณีประณอมในสิ่งนี้ ทำให้คนไทยฉลาดขึ้น กุศลขึ้น เจริญขึ้นได้.
ทุกคนมีทุนเริ่มต้นและลงทุนได้เลยคือแรงกาย ทุนขั้นต่อไปที่ตามมาอยู่ที่บริหารจัดการไปตามเหตุและปัจจัย ผลสำเร็จต้องมีแน่เมื่อก้าวข้ามเงื่อนไขแห่งเวลา
แวะมาชื่นชมค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณนิตยา
- เข้ามา อ่านบันทึก ที่จะช่วย สร้างแรงบันดาลใจ ให้ ใคร อีกหลายคน... ที่รู้จัก ใช้ต้นทุนชีวิต ที่มีมา ให้เกิด "คุณค่า และมูลค่า" ไป พร้อม ๆ กัน...
- ขอชื่นชม การใช้ชีวิตอย่างมีวินัย.... และ จะติดตามอ่านต่อไป ด้วยกำลังใจ และ พลัง นะคะ
สวัสวดีด้วยรอยยิ้มค่ะ
ขอขอบคุณทุกท่านนะคะที่ให้กำลังใจ เข้ามาอ่านบันทึกของนิตยาและให้ดอกไม้กันอย่างมากมาย..หนูรู้สึกดีใจและอยากบันทึกเรื่องราวดีๆในชีวิตในพื้นที่ของหนู ในโกทูโนแห่งนี้ ที่หนูมีความสุขทุกครั้งที่เข้ามาอ่านและเขียนค่ะ................
และต้องขอบคุณมากๆเลย...สำหรับ....
คุณครูอรทัย
คุณพี่มะเดื่อ
พี่ ผอ.อุ้ย อัญชัญ
ท่านผอ.ชยันต์
ท่านดร.พจนา
คุณไม่ประณีประนอม
ท่านจำรัส เจริญเวช
คุณพัชรินทร์ ปาลวัฒน์
คุณtuknaruk
และท่าน ดร.Joy
นะคะ..หนูสู้ด้วยลำแข้งจริงๆ..แข็งแกร่งมาตลอดชีวิต การประกอบธุรกิจค้าขายในกรุงเทพฯไม่ง่ายเลย ต้องอดทน ขยันและไม่ประมาทในการใช้ชีวิต..พยายามจะให้แนวคิดที่มีอยู่กับน้องๆและหลานๆ ให้มุ่งมั่นพยายาม..แล้วความสำเร็จจะตามมาเอง..แล้วพบกันใหม่นะคะ
ขอชื่นชมครับ
น้ำท่วมนาไหมครับ