เปลี่ยนวิธีคิดต่อความผิดพลาดในอดีต
เปลี่ยนวิธีคิดต่อความผิดพลาดในอดีต ทำได้ไม่ยาก หากทำได้ ก่อเกิดความสุขแบบง่าย ๆ
คนเราไม่สามารถเปลี่ยน ความผิดพลาดในอดีตให้กลายเป็นถูก เปลี่ยนความล้มเหลวให้กลายเป็นความสำเร็จ
แต่เราสามารถเปลี่ยนทัศนคติ การมองดูเรื่องหรือเหตุการณ์นั้นอย่างมีสติ เกิดปัญญา ไม่มัวเพ่ง หมกมุ่น เฝ้าแต่มองดูสิ่งที่เกิดผ่านไปแล้วด้วยความทุกข์ ความโกรธ หรือเสียใจ
เราควรพยายามมอง วิเคราะห์ข้อผิดพลาดนั้น ๆ แล้วเก็บไว้เป็นบทเรียน
ลองมองมัน ยอมรับความผิดพลาดอย่างกล้าหาญ มองด้วยจิตที่เป็นกลาง ว่า ณ สถานการณ์อย่างนั้น ขณะนั้น เราเลือกตัดสินใจทำอย่างนั้นด้วยเจตนาที่ดี อย่างตั้งใจดีที่สุดหรือเปล่า
มองด้วยจิตเมตตา ให้อภัย ไม่ว่าต่อตนเองหรือผู้อื่นที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์
มองและเผื่อแผ่ความรักแก่ตนเอง เลยเผื่อไปถึงผู้อื่นด้วย
มองแยกแยะส่วนดี ส่วนเสีย
มองหาข้อดี ทุกเรื่องมักมีข้อดีให้ได้ระลึกถึง
เรื่องที่แย่ที่สุดจนมองหาไม่พบข้อดี อย่างน้อยก็คือ ได้พบกับความผิดพลาดก่อน จะได้จดจำไว้ ไม่ทำผิดซ้ำสองอีก
แม้เราไม่สามารถกลับร้ายให้กลายเป็นดี แต่เราพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้เสมอ
นี่คืออาวุธชิ้นเดียวที่มนุษย์จะชนะการกระทำที่ผิดพลาดไปแล้วของตัวเองได้
และเป็นคุณสมบัติที่เรามีเหนือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่มีจิตวิญญาณน้อยกว่า มนุษย์
คิดคำนึงถึงเรื่องนี้ในยามบ่ายแก่ของวันอาทิตย์
ทบทวนเรื่องราวความผิดพลาดของตนอย่างไม่หม่นใจ
และเตรียมงานเพื่อวันจันทร์ใหม่ที่กำลังจะมาถึง
เพื่อน ๆ ล่ะคะ
ภูสุภา
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๖
คุณสมบัติที่ดีของมนุษย์ คือ การรู้จักทบทวนและแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด
ขอบคุณข้อคิดดี ๆ จ้ะ
ในมุมมองของคริสตศาสนาก็สอนเช่นนี้ค่ะอาจารย์
เราไม่สามารถเปลี่ยน ความผิดพลาดในอดีตให้กลายเป็นถูก เปลี่ยนความล้มเหลวให้กลายเป็นความสำเร็จ
แต่เราสามารถเปลี่ยนทัศนคติ การมองดูเรื่องหรือเหตุการณ์นั้นอย่างมีสติ เกิดปัญญา ไม่มัวเพ่ง หมกมุ่น เฝ้าแต่มองดูสิ่งที่เกิดผ่านไปแล้วด้วยความทุกข์ ความโกรธ หรือเสียใจ
ขอบคุณค่ะอาจารย์หมอที่ให้ข้อคิดดีๆ
ขอบคุณนะคะที่มาฝากความคิดเห็นดี ๆ ไว้ ช่วงนี้เข้ามาได้แป๊บ ๆ งานตรึมค่ะ
ตุ๊กกะตา น่ารักฝุด ๆ