เด็กไทย...ถูกสอนให้หลงทาง


ครูหยินคิดว่าการศึกษาเท่านั้นที่จะพัฒนาคนให้เป็นบุคคลที่สมบูรณ์แบบ เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง เลือกที่จะเป็นในสิ่งที่สมควรจะเป็น...มีทักษะในการใช้ชีวิต รู้หลักของความพอเพียงครูหยินเชื่อมั่นว่า...ถ้าต่อสู้ก็จะรู้ว่าไม่แพ้ต่อโชคชะตา....ช่วยกันประคับประคองสังคม..ให้ดำรงอยู่อย่างสันติสุข....

 

                     สภาพที่พักอาศัยไม่ใช่บ้านของน้องแอม

ตามโครงการครูเยี่ยมบ้านนักเรียน..ได้ข้อค้นพบอะไรหลายๆ อย่างมากมาย..สามารถแก้ปัญหาได้บ้าง ไม่ได้บ้างหลาย ๆ เหตุการณ์สะเทือนใจ....เพราะพ่อแม่รักลูกมากจนไม่รู้ว่าจะใช้วิธีการอย่างไรจึงให้ลูกเป็นคนดี...เป็นที่ยอมรับของสังคม...

 

 

          เก็บภาพระหว่างทางเดิน เพราะเราพบกันครึ่งทาง

            แอมตัวอย่างหนึ่งของนักเรียนในห้องเรียนที่ครูหยินประจำชั้น ที่ออกไปเยี่ยมบ้านเพื่อให้รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล....พบว่า แอมเป็นลูกสาวคนเดียวที่เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนย่านตาขาวรัฐชนูปถัมภ์ ....เช้าของวันเสาร์ออกเดินทางตามแผนที่ได้พบบ้านหลังนี้เขาเรียกว่า กงซี้ (ที่พักของชาวสวน) มีบ้านเพียงห้องเดียวประตูไม่มีจึงใช้เครื่องซักผ้ามาขวางกั้นไม้ในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้าน ทุกอย่างถูกจัดวางระเกะระกะด้วยพื้นที่ที่จำกัด พ่อ แม่ และลูกสาวซุกอยู่ที่มุมเดียวกันไม่ต่างอะไรไปกับคอกสัตว์เลี้ยง เพียงมีฝาผนังกั้นไว้เท่านั้นเอง ...การเยี่ยมในขณะนี้ไม่พบ แอมที่ไปเยี่ยมจึงเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน  ผู้เป็นครูก็เริ่มใจคอไม่คอยจะดี จึงเดินทางกลับเพื่อที่เดินทางไปบ้านนักเรียนคนอื่น ๆ ขณะที่เดินทางกลับยังไม่ทันถึงครึ่งทาง มีรถมอร์เตอร์ไซต์คันเก่า ๆ ซ้อน 3  คน ขับสวนมา นักเรียนผู้นั่งซ้อนท้ายจึงโบกมือให้หยุดและกล่าวทักทายกันเพราะเขาคือแอมนั่นเองเพิ่งกลับจากกรีดยาง.....สังเกตที่หูของสาวน้อยมีสายหูฟังเสียบคาอยู่ที่รูหูเพื่อฟังเพลงจากโทรศัพท์ตลอดวลา พบว่า เป็นโทรศัพท์ที่มีราคาแพงมาก ครูหยินกับเพื่อนถึงกับอึ้งจึงทักทายถามไถ่เก็บข้อมูล พบว่า ทางครอบครัวไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง อาชีพรับจ้างกรีดยางรายวันมีกินบ้างไม่มีกินบ้าง  จึงอาศัยบ้านเท่ารูหนูที่นายจ้างอนุญาตให้พักอยู่เพื่อทำงาน แต่ในความเป็นพ่อแม่อยากให้ลูกมีอะไรเท่าเทียมกับคนอื่น ๆ จึงยอมทุ่มเททุกอย่าง ต้องปิดบังอำพรางให้ใคร ๆ มองว่าเป็นผู้มีอันจะกิน จึงไม่กล้าขอทุนการศึกษา ใช้ชีวิตอยู่แบบผู้มีอันจะกิน นักเรียนไม่ยอมรับความจริงของตัวเอง....นี่คือการขาดภูมิต้านทานทางสังคมของเด็กไทย....ครูหยินคิดว่าการศึกษาเท่านั้นที่จะพัฒนาคนให้เป็นบุคคลที่สมบูรณ์แบบ เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง  เลือกที่จะเป็นในสิ่งที่สมควรจะเป็น...มีทักษะในการใช้ชีวิต รู้หลักของความพอเพียงครูหยินเชื่อมั่นว่า...ถ้าต่อสู้ก็จะรู้ว่าไม่แพ้ต่อโชคชะตา....ช่วยกันประคับประคองสังคม..ให้ดำรงอยู่อย่างสันติสุข....

                                                                                           22  กันยายน 2556

หมายเลขบันทึก: 548953เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2013 11:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน 2013 11:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สังคมก้มหน้า ไม่กล้ารับความจริง ในสิ่งที่เป็นอยู่  เป็นความบกพร่องทางสังคม

หลบจากคอนแล้วครับครู

พ่อแม่ “ครอบครัว” คือ เบ้าหลอมทัศนคติ  การมองโลกตามความเป็นจริง

พ่อ คือ ศาสตร์  หลักการ  ความถูกต้อง  ยุติธรรม  การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญตลอดชีวิต  วางเป้าหมายแจ่มชัด

แม่ คือ ศิลป์  ความสัมพันธ์เชื่อมโยง  กับผู้คนรอบข้าง  กับสังคม  ยึดหลักศีลธรรมความดีงาม .... ในการใช้ชีวิต

พ้องต้องกัน  สร้างวินัยในตนเองให้ลูก  สม่ำเสมอ  ทางเดียวกัน ..... ลูกไม่สับสน

ข้อความที่ประทับใจของ

 

                             ทันตแพทย์หญิงรัมภา  ครูหยินคัดลอกมาเพราะโดนใจ

ทหารพรานหญิง ธิรัมภา เคยแวะไปเยี่ยมถึงรพ.สระไครมาแล้ว 

คมคิดนิ่งลึกนงานทันต

ยุคสมัยนี้ .. สถาบันครอบครัวที่เป็นสถาบันหลักของสังคม กำลังอ่อนแอและล่มสลาย จึง

ทำให้คุณภาพชีวิตของเด็ก  เยาวชน และอนาคตของประเทศชาติด้อยลงไปทุกขณะจ้ะ

สังคมไทยคงมีอะไรผิดพลาดแน่นอนในเรื่องระบบการศึกษาครับพี่ครู เอาใจช่วยครับ...

...การให้ทุนการศึกษามักจะมุ่งเน้นที่...มีความยากจนเป็นหลักและต้องเรียนดีแต่ยากจนด้วย...ไม่ได้มุ่งเน้นการปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะได้ทุนการศึกษา...เช่น...เป็นนักกีฬา...เป็นนักดนตรีของโรงเรียน...เป็นอาสาสมัครในงานต่างๆเช่นเป็นมัคคุเทศก์น้อยในท้องถิ่นในวันหยุดหรือปิดภาคเรียน...เป็นผู้ช่วยบรรณารักษ์ช่วงก่อนเข้าเรียนหรือหลังเลิกเรียน...ช่วยงานห้องวิทยาศาสตร์ช่วงพักกลางวัน...ช่วยงานโภชนาการโรงเรียนช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน...ฯลฯ...เด็กยากจนจำนวนมากจึงพยายามที่จะใช้กลวิธานป้องกันตนเองในรูปแบบต่างๆเพื่อให้อยู่ในสังคมได้...จึงมีเด็กยากจน เรียนธรรมดา ที่สามารถมีโทรศัพท์ราคาแพงเหมือนเด็กคนอื่นๆได้...และก็มีเด็กยากจนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถอยู่ในสังคมโรงเรียนได้ตลอดรอดฝั่ง...ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน...กลายเป็นปัญหาของสังคม...ครูหยินมาถูกทางแล้วนะคะ...

สวัสดีค่ะ  ครูหยิน

- อ่าน บันทึก นี้แล้ว  "....เหมือนมีก้อนอะไร ใหญ่ ๆ มาจุกอยูีที่คอ..."

....

...

...

นิ่ง...อยู่พักใหญ่////  แล้ว  กลับไปอ่านอีกรอบ........นึกถึงตนเอง....

ครูหยินค่ะ...

" Single mom " คนนี้  /// ชื่น-ชม-ชอบ-เข้าใจ-เข้าถึง- จิตใจ  ครูหยิน...ได้โดย  ไม่แปลกใจเลย.....

ในขณะที่... ลูกสาวของ " Single mom " คนนี้... เรียนสัตวแพทย์ จุฬาฯ ปี 3 แล้ว....

ไม่มีโทรศัพท์  แพง ๆ  แบบนั้น  ใช้หรอกค่ะ...และ (เธอไม่เคย  ร้องขอ....ใดใด...เลย)  ...

...ที่สะอึกในใจมาก....ก็ด้วย ความเห็นของ ท่าน "ดร.พจนา"...ที่เอ่ยถึง "ทุนการศึกษา"...

ลูกสาว ได้รับทุน "อาหารกลางวัน" ของจุฬาฯ  ... แต่ กว่าจะได้มา...เธอเสีย น้ำตา ไปมากมาย.....

ด้วยเหตุผล...ของ "การให้ทุน"   กับ  เหตุผล  ของ "ผู้ขอทุน"  นั้น ต่างกัน......

มีโอกาส...คงได้แลกเปลี่ยน  ...กันนะคะ........

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท