"คุณค่าแห่งการรู้ค่า" ... บทความชั้นดีที่ผมเอาไปสอนนักศึกษาเอกเทคโนฯ แล้ว


วันนี้ (๑๙ ส.ค.๕๖) สอนวิชา "กฎหมายและจรรยาบรรณของนักเทคโนโลยีการศึกษา"

ผมได้เลือกบทความ "คุณค่าแห่งการรู้ค่า" ที่เคยถูกโพสต์ไว้ใน gotoknow
ไปใช้เป็นสื่อการสอนเพื่ือให้นักศึกษาได้ทำการวิเคราะห์การเรียนรู้ที่ได้จากบทความนี้
อันตรงกับเรื่องของจรรยาบรรณและจริยธรรมที่ควรมีในนักเทคโนโลยีการศึกษาในอนาคต

ดังนั้น ผมจึงขอเก็บบทความนี้ืในลักษณะบันทึกอีกครั้งหนึ่ง

 

 

.....................................................................................................................................

 

คุณค่าแห่งการรู้คุณค่า

 

.....................................................................................................................................

 

หนุ่มน้อยเพิ่งจบการศึกษาด้วยผลการเรียนดีเยี่ยม

ไปสมัครงานในตำแหน่งผู้จัดการบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง

หลังจากผ่านการสอบสัมภาษณ์ครั้งแรกไปแล้ว

ผู้อำนวยการได้เรียกเขาไปสัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตัดสินใจ

ผู้อำนวยการเห็นข้อมูลในประวัติของเด็กหนุ่มคนนี้ว่า

มีผลการเรียนเป็นเลิศในทุกวิชาตลอดมานับตั้งแต่อุดมศึกษาจนจบมหาวิทยาลัย

ไม่ปรากฏว่าเขาทำคะแนนตกเลย

 

ผู้อำนวยการเริ่มคำถามว่า "เธอเคยได้รับทุนการศึกษาอะไรหรือเปล่า?"

เด็กหนุ่มตอบว่า "ไม่เคยครับ"

ผู้อำนวยการถามต่อว่า "คุณพ่อของเธอเป็นคนจ่ายค่าเล่าเรียนให้ใช่ไหม?"

เด็กหนุ่มตอบว่า "คุณพ่อของผมเสียไปตั้งแต่ผมอายุได้ขวบเดียวครับ

เป็นคุณแม่ที่จ่ายค่าเล่าเรียนให้ผม"

ผู้อำนวยการถามต่อว่า "คุณแม่ของเธอทำงานที่ไหน?"

เด็กหนุ่มตอบว่า "คุณแม่รับจ้างซักผ้ารีดผ้า"

 

ผู้อำนวยการขอดูมือของเขา

เด็กหนุ่มยื่นมือที่เรียบลื่นไม่มีที่ติให้ผู้อำนวยการดู

ผู้อำนวยการถามต่อว่า "เธอเคยช่วยคุณแม่ของเธอทำงานบ้างหรือเปล่า?"

เขาตอบว่า "ไม่เคยครับ คุณแม่ต้องการให้ผมเรียนแล้วก็อ่านหนังสือเยอะ ๆ

คุณแม่ซักผ้าได้เร็วกว่าผมด้วยครับ

ผู้อำนวยการบอกว่า "ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยทำอย่างหนึ่งนะ

วันนี้ เธอกลับไปที่บ้าน ช่วยล้างมือของคุณแม่ของเธอแล้วกลับมาพบฉันอีกทีพรุ่งนี้เช้า"

 

ด้วยความมั่นใจว่า โอกาสที่จะได้งานทำมีอยู่สูงมาก

เมื่อเขากลับไปถึงบ้านเขา จึงรู้สึกเต็มใจที่จะล้างมือให้แม่ของเขา

ฝ่ายแม่รู้สึกประหลาดใจ ระคนหวั่นใจ เธอส่งมือให้ลูก

หนุ่มน้อยค่อย ๆ ล้างมือให้แม่ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา

 

เขาเพิ่งรู้สึกว่า มือของแม่นั้นช่างเหี่ยวย่นและ เต็มไปด้วยริ้วรอยขูดข่วน

ซึ่งบางแผลพอโดนล้างน้ำก็ทำให้แม่เจ็บจนตัวสั่นระริก

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มตระหนักรู้ว่า

มือคู่นี้เองที่ซักผ้าทุกวัน เพื่อหารายได้มาส่งเสียให้เขาได้เล่าเรียน

รอยแผลเหล่านี้ คือ ราคาที่แม่ต้องจ่ายไปเพื่อความสำเร็จในการศึกษาของเขา

เพื่อผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมของเขา และอาจจะเพื่ออนาคตของเขาด้วย

 

คืนนั้นสองแม่ลูกได้คุยกันอยู่นาน

 

เช้าวันต่อมา เด็กหนุ่มก็เดินทางไปที่ออฟฟิศของผู้อำนวยการ

ผู้อำนวยการสังเกตเห็นน้ำตาในดวงตาของเขา จึงพูดขึ้นว่า

"ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเมื่อคืนที่บ้าน เธอทำอะไรบ้าง แล้วได้บทเรียนอะไร?"

เด็กหนุ่มตอบว่า "ผมล้างมือให้แม่ครับ แล้วก็เลยช่วยแม่ซักผ้าที่เหลือจนเสร็จ"

ผู้อำนวยการบอกว่า "ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยว่า เธอรู้สึกยังไง"

 

เด็กหนุ่มตอบ

"ข้อที่หนึ่ง ผมได้รู้ซึ้งถึงคำว่า สำนึกในบุญคุณ

ถ้าไม่มีแม่ก็คงไม่มีความสำเร็จของผมด้วย

 

ข้อที่สอง จากการช่วยแม่ทำงาน

ผมได้รู้ว่ามันลำบากยากเย็นยังไงกว่าจะทำอะไรออกมาสักอย่างหนึ่ง

 

ข้อที่สาม ผมได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของความรักและความผูกพันในครอบครัว"

 

ผู้อำนวยการจึงบอกว่า "นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ

ฉันอยากได้ คนที่รู้ค่าของการได้รับความช่วยเหลือ

อยากได้คนที่เข้าใจถึงความลำบากของใครสักคนในการจะทำอะไรได้มาสักอย่าง

และอยากได้คนที่ไม่ได้ตั้งเงิน เป็นเป้าหมายในชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว

มาเป็นผู้จัดการให้ฉัน เป็นอันตกลงว่าฉันรับเธอไว้ทำงาน"

 

ในเวลาต่อมา เด็กหนุ่มคนนี้ก็ได้ทำงานอย่างหนักและได้รับความนับถือจากผู้ใต้บังคับบัญชา

ลูกจ้างทุกคนทำงานเป็นทีมอย่างขยันขันแข็ง กิจการของบริษัทก็เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี

 

เด็กที่ถูกตามใจจนเป็นนิสัยได้รับทุกอย่างที่ต้องการ

จะสร้างนิสัยเอาแต่ใจตัวเองและเห็นแก่ตัวเองเป็นอันดับแรก

เขาจะไม่สนใจ ความเหนื่อยยากของพ่อแม่

เมื่อถึงวัยทำงานเขาก็จะคาดหวังว่า ใคร ๆ จะต้องเชื่อฟังเขา

เมื่อเขาเป็นผู้จัดการ เขาจึงไม่มีวันรู้ว่าบรรดาลูกจ้างนั้นลำบากอย่างไร

และมักจะโทษคนอื่น

 

คนลักษณะนี้อาจจะทำงานได้ อาจจะประสบความสำเร็จช่วงหนึ่ง

แต่ในที่สุดแล้ว เขาจะไม่สำเหนียกคุณค่าของความสำเร็จ

หากยังคงคร่ำครวญ เคียดขึ้ง และไม่มีวันรู้สึกเพียงพอ

 

ถ้าเราเป็นพ่อแม่ประเภทที่ปกป้องลูกแบบนี้ จงถามตัวเราว่า

เรากำลังให้ความรักกับลูก หรือ กำลังทำลายเขากันแน่?

เราให้ลูก ๆ มีบ้านใหญ่ ๆ อยู่ กินอาหารดี ๆ เรียนเปียโน ดูทีวีจอใหญ่

แต่เวลาที่เราตัดหญ้า ลองให้ลูกได้ทำด้วย

หลังอาหาร ให้เขาล้างถ้วยชามของตัวเองพร้อม ๆ กับพี่ ๆ น้อง ๆ

ไม่ใช่ว่าเราไม่มีปัญญาจ้างคนรับใช้

แต่เพราะเราอยากจะให้ความรักกับพวกเขาอย่างถูกวิธี

เราอยากให้เขาเข้าใจว่า ไม่ว่าพ่อแม่จะจนหรือจะรวย

วันหนึ่งก็จะต้องผมขาว แก่เฒ่าลงไป เหมือนกับแม่ของเด็กหนุ่มคนนี้

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ลูกของเราจะได้เรียนรู้ คือ รู้คุณค่าของความพยายาม

ได้รู้จักว่า ความยากลำบากมันเป็นยังไง และได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นให้เป็น

 

ที่มา:http://mblog.manager.co.th/lady007/th-107626

 

..................................................................................................................................

 

ไม่ว่าเราจะเรียนเก่ง หรือ ไม่เก่ง

ใครกันหนอ คือ คนที่เราควรหันกลับไปมองมากที่สุด

คำตอบมีอยู่ในใจทุกท่านแล้วใช่ไหมครับ

 

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...

 

...................................................................................................................................

 

 

หมายเลขบันทึก: 546002เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2013 17:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม 2013 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ชื่นชมครับท่านอาจารย์

ขอบพระคุณมากครับ อาจารย์หมอ JJ ;)...

อยากให้มีผู้อำนวยการแบบนี้เยอะๆนะคะ 

หวังว่าลูกศิษย์จะ  รู้คุณค่าแห่งการรู้คุณค่า....ของครูที่มิยอมปล่อยเกรดนะคะ

ชื่นชมครูผู้รู้คุณค่าในการแสวงหาสิ่งดี ๆ เพื่อลูกศิษย์เสมอนะคะ

หวังว่าเช่นนั้นเหมือนกันครับ คุณหมอธิ

ทพญ.ธิรัมภา

;)...

เคยอ่านบันทึกนั้นแล้วครับ

อ่านอีก ก็ประทับใจเรื่องราวของเด็กหนุ่มและผู้อำนวยการมากเลยครับ

ใช่ครับ เนื้อหานั้น อยู่ในอนุทินครับ

ท่าน พ.แจ่มจำรัส ;)...

ขอบคุณมากครับ

อ่านแล้วซาบซึ้ง"คุณค่าแห่งการรู้คุณค่านะคะ"...ขอบคุณมากค่ะอาจารย์

ได้ข้อคิดเยอะ ซาบซึ้งมากค่ะ

จำได้ว่าติดตามอ่านเรื่องนี้นานแล้ว

แต่อ่านตอนไหนก็สอนใจได้เสมอๆ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับ ท่านอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ;)...

ขอบคุณ สำหรับบันทึกดี ๆ ครับ อ่านแล้วทราบซึ้ง !

ยินดีในความซาบซึ้งนั้นครับ คุณครู Billykaem ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท