เรื่องเล่าของแม่ค้า


 

 

***** หลังจากได้บันทึกเกี่ยวกับเนื้อหาในหนังสือ รู้ทันสื่อ มาหลายวัน วันนี้ขอสลับบรรยากาศมาที่เรื่องใกล้ตัว ซึ่งทุกคนต้องพบเจอทุกวันค่ะ ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องการซื้อขายสินค้าใช่ไหมคะ?

***** เมื่อวานได้รับโทรศัพท์จากน้องสาว ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ในฐานะที่ผู้เขียนมีประสบการณ์ในการช่วยขายของบ้างในวันหยุดสุดสัปดาห์ ขอนำเรื่องราวเหล่านี้มาแบ่งปันกันค่ะ

***** ไม่แน่ใจว่า กัลยาณมิตรทั้งหลาย เคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมที่ห้างพันธุ์ทิพย์ ถึงขายของราคาไม่เท่ากัน

***** ก่อนหน้านี้ ผู้เขียนเอง ไม่เข้าใจ เคยไปซื้อของที่พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ พอซื้อเสร็จ เห็นสินค้าแบบเดียวกัน แต่ราคากลับไม่เท่ากัน งงเหมือนกันค่ะ นึกต่อว่าตัวเองในใจ ทำไมเราไม่เดินดูก่อน แต่ไม่ได้นึกต่อว่าร้านนั้นแต่อย่างใด

***** แต่เมื่อได้มีโอกาสช่วยน้องสาวขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ผู้เขียนจึงพบคำตอบค่ะ

***** สินค้า แม้จะชนิดเดียวกัน คุณสมบัติเหมือนกัน แต่ที่ราคาต่างกัน เพราะว่า ต้นทุนของแต่ละร้านไม่เท่ากันค่ะ แม้แต่จะมีผู้แทนที่มาเสนอราคาคนเดียวกัน แต่เขาจะให้ราคาแต่ละร้านต่างกัน ผู้เขียนถึงบางอ้อทันที

***** แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนพบก็คือ ลูกค้าหลายคนไม่เข้าใจ อาจจะต่อว่าทำไมร้านนี้ ร้านนั้น ขายเท่านั้นเท่านี้

***** ความจริงแล้ว มีสาเหตุมาจากต้นทุนที่ต่างกันค่ะ หากกัลยาณมิตรท่านใดเคยไปเดินซื้อของแถวๆ สำเพ็ง เยาวราช ก็จะยิ่งพบความหลากหลายในเรื่องราคา

***** อันนี้เป็นข้อคิดที่ดีสำหรับทั้งผู้ซื้อ - ผู้ขาย หากใครต้องการราคาที่ถูกใจก็คงต้องเดินดูให้ทั่ว แต่หากตัดสินใจซื้อแล้ว นั่นคือ ความพึงพอใจที่ตกลงกัน

***** จากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง ที่เป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เวลาจะซื้อก็อาจจะมีต่อรองราคากันบ้าง (แต่พูดเล่นๆ ค่ะ ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ไม่เป็นไร) เพราะถือว่านั่นคือการปฏิสัมพันธ์กับแม่ค้าพ่อค้าด้วย แค่ขำๆ ค่ะ

***** หากลดราคาได้ ผู้ขายลดแน่นอนค่ะ เพราะไม่มีใครไม่อยากขายของ และต้องถือว่าลูกค้าเป็นใหญ่ แต่หากไม่ได้ นั่นคือไม่ได้จริงๆ ผู้เขียนเข้าใจค่ะ

***** ที่ผ่านมาจึงมีความสุขทั้งในฐานะผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะหากจะคิดอย่างเป็นธรรมแล้ว สินค้าบางรายการที่แม่ค้าซื้อมานั้น เขาต้องลงทุนเสียเวลา เสียค่าเดินทางไปหาสินค้ามาด้วย (อันนี้สำหรับร้านที่ขยันๆ หาของใหม่ๆ ซึ่งสินค้าจะต่างจากบางร้านที่รอรับจากผู้แทนจำหน่ายอย่างเดียว)

***** แต่สำหรับผู้เขียนคิดว่า สิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง ที่ต้องพิจารณาคือคุณภาพ และอีกประการคือความพอใจในการให้บริการค่ะ แม้บางร้านราคาอาจสูงกว่าร้านอื่นๆ แต่ผู้ขายพูดจาสุภาพ มีมนุษยสัมพันธ์ดี จริงใจ ให้ข้อมูลครบถ้วน ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบและเลือกได้ตามความต้องการ ถึงแพงก็ยอมจ่ายตังค์ค่ะ

***** ขอให้กัลยาณมิตรได้รับความสุขใจในการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วในแต่ละวัน เช่นเดียวกันกับการรู้จักเลือกบริโภคสื่อที่ดี  happy ba ค่ะ

 

หมายเลขบันทึก: 544165เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2013 07:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 ตุลาคม 2013 15:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

พี่รุ่งไม่ค่อยได้ต่อราคา

เดินดูๆเล็งไว้

ถ้าราคาพอไหวก็่ซื้อเลย

บางครั้งเกรงใจบางครั้งก็กลัวเขาต่อว่า

ซื่อง่ายบางทีเขาลดแถมเองก็มีค่ะ

เพราะต้นทุนต่างกัน ราคาขายจึงต่างกัน การต่อรองสินค้าเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อกับผู้

ขาย.... เข้าใจจ้ะ..ที่พันธุ์ทิพย์การไถ่ถามหรือต่อรองราคาแล้วไม่ซื้อ คงไม่มีปัญหา

อะไร..แต่คุณมะเดื่อกับเพื่อนเคยเจอแถว ๆ บางลำพู  เพื่อนไปถามราคาสินค้า แล้วไม่ซื้อ

(ยังไม่ได้ต่อรองอะไรด้วยนะ )  พอเดินคล้อยหลัง แม่ค้าด่าทันที เฮ้อ..!

สำหรับตัวพี่เอง การซื้อของต่าง ๆ ราคาขึ้นอยู่กับการพอใจของเราค่ะ บางคนไม่กล้าซื้อของแพง แต่สำหรับความคิดพี่ ถ้าต้องการของที่มีคุณภาพแต่แพง เมื่อซื้อพี่คิดว่าคุ้มค่าค่ะ ดีกว่าซื้อของถูก ใช้ไม่กี่คราวก็พัง น่าเสียดายกะตังค์มากกว่าค่ะ อาจเป็นความคิดที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ก็ได้นะคะ แต่ถ้าซื้อมาแล้วเราสบายใจก็น่าจะ O.K. แล้วนะคะ ขึ้นอยู่กับความพอใจของเรามากกว่า คริ ๆ ๆ พาเจ้าฟ้าครามมาเยี่ยมด้วยคร้า...

 

 

" สิ่งสำคัญในการตัดสินใจ เลือกซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง ที่ต้องพิจารณาคือคุณภาพ และอีกประการคือความพอใจในการให้บริการค่ะ แม้บางร้านราคาอาจสูงกว่าร้านอื่นๆ แต่ผู้ขายพูดจาสุภาพ มีมนุษยสัมพันธ์ดี จริงใจ ให้ข้อมูลครบถ้วน ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบและเลือกได้ตามความต้องการ ถึงแพงก็ยอมจ่ายตังค์ค่ะ" ......เห็นด้วยค่ะ 

ดีมากเลยค่ะที่น้องอธิบาย บางคนไม่ทราบจะได้เข้าใจ

เพราะบางคนเครียดโกรธไปหลายวันที่ซื้อมาแพง

แต่ก็มีผู้ขายบางร้าน บวกกำไรมากจนแพงกว่าร้านอื่นค่ะ

 

-สวัสดีครับ

-ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

สวัสดีค่ะคุณtuknarak...นั่นเพราะไม่มีการกำหนดมาตรฐานสินค้า...จึงเป็นจุดเสียหายมากของเศรษฐกิจครัวเรือนและเศรษฐกิจของประเทศชาติ...คนไทยยังอยู่ในวังวนของความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากเพราะสินค้าไม่มีมาตรฐาน...ประเภทใช้เสียแล้วโยนทิ้งและยังเพิ่มมลพิษทางขยะอีก ...เคยถามผู้ใช้ว่าทำไมไม่ซ่อมได้คำตอบว่าซ่อมแพงกว่าซื้อ ...บ้านเราค้าขายอะไร ...ก็ต้องให้รวยมีกำไรมากๆนะคะแต่ไม่รู้หรอกว่ากำลังทำลายทุกสิ่งทุกอย่างไปโดยไม่รู้ตัวนะคะ...ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท