เจ้าต้นไม้พูดภาษาอังกฤษได้แล้ว


ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงต้องส่งลูกไปเรียนภาษาอังกฤษพิเศษกันนักหนา ผมสอนเจ้าต้นไม้พูดภาษาอังกฤษห้านาทีก็พูดได้คล่องปรื๊อ

"Can you speak English?" ผมถาม

เจ้าต้นไม้ตอบเสียงดังฟังชัด "Yes!!"

"Very good!!" ผมถามต่อ "Now, do you want some ice cream?"

"Yes!!" เสียงเจ้าต้นไม้ตอบดังกว่าเก่า เด็กที่ไหนในโลกได้ยินคำว่า "ice cream" ก็ชอบทุกคน

"Do you want to eat it now or what?" ผมถามให้แน่ใจ

เจ้าต้นไม้ทำหน้าไม่แน่ใจ "Yes.... No.... OK!!" แล้วยิ้มตอบ

ผมเดินไปตักไอสครีมด้วยความภาคภูมิใจ

เก่งเหมือนพ่อเลยลูก ตอนพ่อไปอยู่อเมริกาใหม่ๆ ก็พูดได้แค่นี้ยังอยู่รอดปลอดภัยกลับเมืองไทยได้เลย

ผมเชื่อว่า "ภาษามนุษย์" ในโลกมีเพียงภาษาเดียวครับ

เราอาจจะมี "ภาษาวัฒนธรรม" หลากหลาย แต่สิ่งที่แตกต่างกันแค่คำศัพท์และไวยกรณ์เท่านั้นเอง คนที่ "ฟัง พูด อ่าน เขียน" ภาษาใดภาษาหนึ่งได้ดี เมื่อต้องไปอยู่ในวัฒนธรรมที่แตกต่างก็จะเป็นคนที่ ฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาของวัฒนธรรมนั้นได้ดีเช่นกัน เราแค่อาจต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวเท่านั้นเอง

อย่างผมเองนี่ผมเชื่อว่าให้ผมไปอยู่ประเทศไหนก็ตามสักไม่เกินหนึ่งปีผมพูดภาษาของประเทศนั้นได้แน่ๆ โดยไม่จำเป็นต้องรู้มาก่อน และผมจะใช้ภาษานั้นได้ในคุณภาพมากน้อยเทียบเท่ากับการที่ผมใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่ผมรู้อยู่แล้วทีเดียวครับ

ไม่ใช่เป็นความสามารถพิเศษของผม คนเราทุกคนก็เช่นเดียวกัน ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติอย่างยิ่งครับ

ในมุมมองนี้ของผมนั้น ทำให้ผมมองว่าการสอนภาษาของโลกนี้นั้นผิดหมดเลย เรามีวิชา "ภาษาวัฒนธรรม" (ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ฯลฯ) แต่เราไม่มีวิชา "ภาษามนุษย์" ทั้งๆ ที่สำคัญมากที่สุด

บางทีน่าจะถึงเวลาปรับปรุงหลักสูตรที่เกี่ยวกับภาษากันแล้วไหมครับ?

หมายเลขบันทึก: 543765เขียนเมื่อ 27 กรกฎาคม 2013 13:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม 2013 13:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

เห็นบรรยากาศของความรัก ความอบอุ่น และรู้สึกดีใจมากๆค่ะ

หากผู้ปกครองจะได้ร่วมใช้ภาษาอื่นๆนอกเหนือจากภาษาแม่ให้ลูกๆรู้สึกคุ้นชิน

ย่อมเป็นหนทางลัดสู่ความสำเร็จ และสร้างความมั่นใจให้กับลูก

ถึงตรงนี้แล้วคิดถึงคุณแม่ ยามท่านมีชีวิตท่านจะใช้ภาษาจีนพูดกับเพื่อนบ้านชาวจีนได้คล่องแคล่ว

ทั้งๆที่ท่านเป็นไทยแท้ แต่พวกเราลูกๆไม่เอาไหนจริงๆไม่มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ที่ดีพอ

ขอบคุณค่ะ

บทสนทนาของพ่อลูกน่ารักมากค่ะ

และประโยคนี้... คณะผู้ทำหลักสูตรและผู้รับผิดชอบการเรียนการสอนภาษาต่างๆ ต้องเข้ามาฟังและนำไปพิจารณาดำเนินการค่ะ "ในมุมมองนี้ของผมนั้น ทำให้ผมมองว่าการสอนภาษาของโลกนี้นั้นผิดหมดเลย เรามีวิชา "ภาษาวัฒนธรรม" (ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ฯลฯ) แต่เราไม่มีวิชา "ภาษามนุษย์" ทั้งๆ ที่สำคัญมากที่สุด บางทีน่าจะถึงเวลาปรับปรุงหลักสูตรที่เกี่ยวกับภาษากันแล้วไหมครับ?

ปรับปรุงครับเราจะได้ใช้ภาษาเดียวกันทั้งโลก

บางทีน่าจะถึงเวลาปรับปรุงหลักสูตรที่เกี่ยวกับภาษากันแล้วไหมครับ?

 

เรื่องนี้พี่คุยกับลูกมาบ้าง เพราะอยากรู้ว่า ทำไมเราซึ่งเคยสอบได้คะแนนเกือบเต็มในภาษาอังกฤษ ชอบภาษาอังกฤษ ถึงเข็ดขยาด หวาดกลัวยามไปใช้ชีวิตในลอนดอนเพียงเดียวดาย อยู่แบบเครียด ฟังไม่ทัน พูดสื่อออกไปไม่ได้ดั่งใจฯลฯ

ได้ความเห็นจากเด็กรุ่นใหม่วัยสิบสี่ว่า

คนไทยเรียนภาษาอังกฤษเพื่อสอบ(คงคิดในใจต่อว่าเหมือนแม่) ไม่ได้คิดว่าเรียนเพื่อให้รู้ เข้าใจถึงแก่น พูดให้ได้เพื่อการสื่อสาร และเพื่อทลายกำแพงความรู้ เขาบอกว่า ต้องยอมรับว่า ณ ตอนนี้ วิทยาการหลายอย่างเป็นความรู้ เป็นความคิดที่เขียน นำเสนอ ผลิตมาจากชาวต่างประเทศ ในประเทศที่เจริญกว่าเรา เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากรู้ เราก็ต้องอ่านภาษาของเขาให้รู้เรื่องอย่างแตกฉาน

...

 

มีอีกเยอะค่ะ ลูกตบท้ายว่า ไม่ใช่เฉพาะภาษาอังกฤษที่คนเราควรรู้ ภาษาจีน ญี่ปุ่นและอีก ๆ หลายภาษาก็น่ารู้ถ้ามีเวลา และโอกาสให้เรียนรู้

อีกหน่อยน้องจะเรียนภาษาจีนนะแม่ เพื่อมาอ่านนิยายบู๊ลิ้มน่ะ จะได้อรรถรส..ฮ่า ๆ 

-สวัสดีครับอาจารย์

-ตามมาเชียร์น้องต้นไม้ครับ..

ภาษามนุษย์ เป็นภาษาที่ละเอียดอ่อน.. เห็นด้วยเรื่องการเรียนรู้ค่ะ

แต่ kunrapee ก้ยังกล้าๆกลัวๆกับภาษาต่างประเทศ 

สำหรับ จิตติมา  ก็กลัว ภาษา ต่างชาติคะ  

ตอนนี้ จะไปประชุม  แต่ละครั้ง ต้องดูว่า มีบรรยายภาษอังกฤษ หรือปล่าว    สงสารอาจารย์   ที่เห็นแววตาที่ว่างปล่าวของผู้ฟัง  

สงสัยต้องพึ่งอาจารย์  ขจิต  เสียแล้ว 

เก่งเหมือนคุณพ่อ รวมคุณแม่ด้วยนะคะ 

อาจารย์ใช้วิธีเดียวกับพ่อจ๋าเลยค่ะ ตอนเด็ก ๆ พ่อจ๋าก็ชอบพูดภาษาอังกฤษกับลูก ๆ แบบนี้ด้วยค่ะ บางครั้งได้คำศัพท์ภาษาอังกฤษไปด้วยโดยไม่รู้ตัว เพราะเวลาทานข้าว ทำอะไรก็แล้วแต่ พ่อจะเล่นทายคำศัพท์เป็นภาษาอังกฤษกับพวกเรา บางทีก็หานิทานที่เป็นภาษาอังกฤษเล่มเล็กมาให้พวกเราอ่าน แล้วลองเดาเรื่องดูบ้างจากภาพว่าเป็นเรื่องอะไร สนุกดีค่ะ ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท