จะเป็นลูกศิษย์แบบไหน


เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ครูสะกิดให้เขียนนานแล้ว

เป็นเรื่องที่เคยคุยกับครูระหว่างเดินทาง ถึงพระธรรมบทที่เคยฟัง

เรื่องลูกศิษย์เผาบรรณศาลา

เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต สะกิดใจตนเอง

กับบางขณะจิต ข้างในที่เคยโกรธ ขุ่นมัว ไม่พอใจ เวลาที่ครูเมตตาชี้แนะข้อบกพร่อง เพื่อสั่งสอนให้แก้ไข

เป็นคำถามที่ เกิดขึ้นข้างในเลยว่า

"ไอ้ติ๋ว แกจะเป็นลูกศิษย์คนไหน?"

เรื่องมีอยู่ว่า

ครูบาอาจารย์ท่านนี้มีลูกศิษย์ คอย อุปฐาก ดูแลใกล้ชิดซึ่งเป็นพระอยู่ 2 องค์

คนหนึ่งทุ่มเททำงาน หาน้ำร้อนน้ำฉันฑ์ ตระเตรียมให้ครูบาอาจารย์ 

ท่านเรียกพระรูปนี้ว่า "พระ ก"

ส่วนพระอีกองค์หนึ่ง ขี้เกียจชอบหลบ แต่พอถึงเวลาจะเอาหน้า 

ก็จะมาคอยยกน้ำที่ พระ ก ตระเตรียมไว้ถวาย แซงหน้า อยู่ร่ำไป

จนวันหนึ่งพระ ก รู้สึกเบื่อหน่าย จึงวางแผนดัดหลัง

ทำเป็นก่อไฟ ต้มน้ำ อาบให้พระอาจารย์เช่นเดิม

แต่เอาไปแอบไว้ข้างหลัง แล้ว เอา ถังน้ำร้อนเปล่ามาวางไว้

พระ ข เห็นว่า พระ ก เตรียมน้ำร้อนน้ำอาบไว้เรียบร้อย

จึงไปเอาหน้าโดยเรียนนิมนต์ พระอาจารย์มา อาบน้ำ 

ปรากฏว่า ไม่มีน้ำ

พอพระ ข รู้ เข้าว่า ถูกดัด หลังรู้สึกโกรธ พระ ก แล้วต่อว่า 

ว่าทำไมทำแบบนี้

พอพระ ข ไป 

พระก ก็ยกน้ำร้อน น้ำอาบมาให้พระอาจารย์

เมื่อทราบความดังนั้น พระอาจารย์ จึงสืบสาวราวเรื่อง

จึงตำหนิพระ ข ว่าเป็น พระ ไม่ควรทำเช่นนี้

พระ ก โกรธมาก คิดว่า พระอาจารย์ไม่รักตน 

รักแต่ พระ ข 

ถึงคราไปบิณฑบาตร บ้านที่เป็นโยมอุปฐาก พระอาจารย์ ซึ่งมักจะถวายของดี ๆ

วันหนึ่งพระอาจารย์ไม่อยู่ติดกิจนิมนต์พระ ข ก็ไปบอกว่า พระอาจารย์ อยากฉันอาหารชนิด นี้ ๆ 

พอเขาถวายมา ก็ แวะทานเองข้างทาง

ไม่ถึงพระอาจารย์ แต่พอพระอาารย์ไปบิณฑบาตรบ้านี้อีกครั้งเขาถาม

ว่า ท่านได้ทานไหม

ท่านจึงได้ ถามไถ่ และตำหนิ พระ ข อย่างมาก ว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระ

แล้วพระอาจารย์ได้ผ้ากำพลเนื้อดี ที่มีคนมาถวาย พิจารณาแล้วจึงมอบให้พระ ก

พระ ข ทราบ โกรธ แค้นโกรธ เคืองมาก 

กะว่า ครั้งนี้จะต้องสั่งสอนพระอาจารย์ให้ได้ 

จึงย้อนกลับมา เผา บรรณศาลา แล้ว หนีจากพระอาจารย์ไป

หนูมานั่งย้อนทวนกับตนเอง 

จิตหนู หากไม่ขัด ไม่ข่ม ไม่ฝืน

บ่อยครั้งที่ครูเตือนแล้วขุ่น

โกรธ ไม่ทัน ครูบาอาจารย์เมตตาให้ เหยียบไว้ข่มไว้

ด้วยกรรมเก่า อาจจะเป็น ศิษย์เนรคุณคนหนึ่ง

แต่ชาต้นี้ ตอนนี้ตั้งใจกับตนเองแล้วที่จะหยุดมัน

พอแล้ว เลิกชั่วแล้ว พอซะที 

ต้องแก้ไขแล้ว

เพราะไม่งั้น นรก อยู่ตรงหน้าแน่ ๆ


เพราะเรื่องราวนี้

หลังจากออกพรรษาพระอาจารย์ ได้ไปกราบพระพุทธเจ้า

ท่านถามว่าสบายดีไหม 

พระอาจารย์ได้เล่าเรื่องให้ฟัง 

พระพุทธเจ้าตรัสว่า

   พระ ก ได้ กระทำกรรมแบนี้ครั้งแรกก็หาไม่ 

เมื่อมีผู้ตักเตือน นอกจากไม่เชื่อฟังแล้วยะงโกรธ

เขาเคยทำมาตั้งแต่อดีตชาติ


นึกขึ้นได้แล้ว น่าขนลุก

ชัดเจนกับตนเองว่า เคยชั่วมา

คำถาม ๆ ว่า นี่ ได้รู้แล้ว ได้เห็นแล้ว

จะชั่วต่อ หรือ จะแก้ไข

ถ้าชั่วต่อก็ทำกรรมไป นรก ไปอบายก็เท่านั้น

แต่ถ้าแก้ไข ก็พอมีทางพ้นภัย


ได้คิดกับตนเอง เราเป็นได้ทั้งศิษย์ชั่ว

และศิษย์ดี ทราบว่า ภายหลังพระ ก บำเพ็ญเพียรตามปฏิปทาครูบาอาจารย์ 

จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ องค์หนึ่ง 


รู้แล้ว ชัดแล้ว กับตน 

ต่อไปคือ อดทน กับแรงบีบคั้นของกิเลส

เลิกอยากดูดี เพราะจิตนี้ไม่มีดีแล้ว

มีแต่ขี้ แต่โคลนที่ต้องชำระ หนามาก

อย่าขี้ขลาดที่จะยอมรับ ข้อบกพร่อง

เพราะทุกอย่างที่ครูชี้นั่นคือ โอกาสในการแก้ไข

ให้ใจสะอาดยิ่งๆ ขึ้นไป

สิ่งงดงาม ที่ ชีวิตการเกิดครั้งนี้มีแบะได้พบพาน คือ

หนูมีโอกาสได้พบ ได้เรียนรู้จาก ครูกะปุ๋ม


จิตนี้ไม่หนีหายจากท่าน นี่คือ สิ่งดีที่ทำให้มีโอกาส

แก้ไข เพราะใจครูกว้างขวาว เมตตาไม่มีประมาณ

เพียงแค่ หนูมีสติพอที่จะเห็นกิเลสในใจตนเอง

แล้วก้าหาญพอี่จะก้าวผ่านหรือ ไม่ก็เท่านั้นเอง

ถามเข้ามาข้างใน กล้าไหมหล่ะ

ตอบแบบไม่ต้องเสียเวลา

ถ้าไม่กล้า ก็คง ไม่หน้ามึนอยู่กับครูทั้งๆ ที่อกุศลจิตยังเกิดอยู่แบบนี้หรอก

จิตชั่ว ยังมี แต่อยู่ตรงนี้ อยู่ ที่นี้ คือ โอกาสหยุดความชั่วที่อยู่ในจิต ชำระล้างให้หมดไปได้

และเชื่อมั่นอยู่ข้างในว่า ต้องทำได้สักวัน


คำสำคัญ (Tags): #aar#km#วิมังส่า
หมายเลขบันทึก: 542172เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2013 10:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กรกฎาคม 2013 10:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท