คืนข้อมูลของโครงการลดมลพิษฟื้นชีวิตดิน ในวันที่ 8 มิถุนายน 2556
หลังจากที่เด็กๆ เก็บตัวอย่างดินของกลุ่มเครือข่าย เพื่อตรวจสอบสารตกค้างในดิน
พบว่าอุปสรรคมากเกินคิด เพราะไม่มีหน่วยงานใดรับตรวจสารตกค้างในดิน
จึงเปลี่ยนเป็นตรวจความอุดมสมบูรณ์แทน ต้องขอบคุณกรมพัฒนาดินเขต5 จังหวัดขอนแก่น
ที่ให้ความอนุเคระห์
ฮา.......มากเลย กรมพัฒนาดินลืมแนบตารางการวิเคราะห์ดินมาให้
พวกเรางงมากเลย แต่เป็นผลดีทั้งเด็กทั้งครูเดินหน้าลุยหาคำตอบ...ทำความเข้าใจ ในการแปลผลการวิเคราะห์ดิน
ทุกอย่างพร้อม เราชวนกลุ่มเยาวชน และเครื่อข่ายร่วมเดินเชิญชวน ให้ลดการใช้สารเคมี
ชอบมากเลยมีผู้ปกครองนักเรียนมาเดินร่วมด้วย แถมชวนเพื่อนบ้านมาร่วมเดิน
นี้คือวิถีชีวิต ตอนเช้า ช่วงที่ผ่านเข้าหมู่บ้านพบชาวบ้านกำลังฉีดยาให้กับแคนตาลูป
เจ้าของที่ดินฟังเปี้ยวและนาง แปลผลดินแต่ละคนให้ฟัง
พบว่าเกษตรห่วงความสมบูรณ์ของดิน มากกว่าสุขภาพตัวเอง
เวลาเราถามบอกว่าใส่ถุงมืออยู่แต่จริงแล้วไม่ใส่เลย
คืนข้อมูล ปลูกจิตสำนึก แบบเนียน ๆ ในการแสดงละครของกลุ่ม ฮักนะเชียงยืน
จากนั้นกลุ่มฮักนะเชียงยืนเปิดเวทีเสวนา ชวนชาวบ้านพูดคุยถึงการใช้สารเคมี
"ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าแต่ก่อนหมู่บ้านนี้ เดินลงน้ำไม่ได้ ปลิงเยอะมาก เดี๋ยวนี้หาปลิงไม่ได้เลย
อนามัยคนสวย บอกว่า พี่น้องจำได้บ่ เดือนที่แล้วที่พวกเราหัวใจวาย ตาย สามคน ในเดือนเดียวกัน
ชาวบ้านบอกว่าไม่ปลูกแตงแคนตาลูป ก็ลงไปกรีดยางที่ใต้ ขออยู่ร่วมกับครอบครัวดีกว่า
"ครู(เป็นคนในหมู่บ้าน)บอกว่าสมัยก่อนน้ำท่วม พอน้ำลดก็ปลูกแตง ไม่เห็นได้ใช้สารเคมีเลย
แต่เดี๋ยวนี้ถึงคณุไม่ใช่ แต่ชาวบ้านข้างเคียงก็ใช้"
ในขณะที่ผู้ใหญ่เปิดเวทีเสวนา เด็กๆกลุ่มเยาวชน ก็สนุกสนานไปกับการเล่นเกมอย่างสนุกสนาน
โดยมีพี่เครือข่ายรับเป็นเจ้าภาพงาน
กลุ่มฮักนะเชียงยืน(ประธานหายเดินไปพบกำลังนั่งคุยกับน้องๆ น้องๆ สนใจสารเคมีในดินเป็นอย่างไร)
กำลังเติบโต จากสมาชิก10 คน เริ่มขยาย
มีผู้แนะนำว่าเปลี่ยนจากฮักนะเชียงยืน เป็น ฮักเด้อเชียงยืน
เสียดายวันปิดค่าย กลุ่มอักษรธรรมอีสานและกลุ่มมวยไทยไม่ได้มาด้วย เพราะจบจากสถานศึกษาไปเรียนต่อที่อื่น
หนึ่งปีที่พวกเราลงพื้นที่ทำงานร่วมกันมัน ให้อะไรมากกว่าคำว่าผูกพัน
เด็กๆ มานอนคุยกับครูเหมือนเพื่อน..ฮา
เด็กๆ ถกเถียงกันอย่างเอาตาย แต่ท้ายสุดก็ยิ้มให้กัน...ฮาบ่อย
เด็กๆ เปลี่ยนพฤติกรรมไปเยอะมาก เป็นคนเจ้าความคิดมากขึ้น มีปัญหาจะคุยกันทันที ที่นิยมมากคือ เอาหลักการคิดแบบหมวกหกใบคุยกัน จากที่ไม่กล้าแสดงออกเช่น ประธานของเรา ก็กล้าที่จะจับไมล์โคโฟน
ทำให้เด็กๆ ได้ค้นพบตัวเอง
ขอบคุณมูลนิธิกองทุนไทยที่ให้โอกาสพวกเขา
http://www.gotoknow.org/posts/501718
http://www.gotoknow.org/posts/506561
http://www.gotoknow.org/posts/506881
http://www.gotoknow.org/posts/521133
http://www.gotoknow.org/posts/521201
http://www.gotoknow.org/posts/532430
http://www.gotoknow.org/posts/537517
ไม่มีความเห็น