ลาก่อน gotoKnow ......แล้วพบกันใหม่ที่ไหนสักแห่ง


ขอลา กทน. ......แล้วพบกันใหม่ที่ไหนสักแห่ง

ผมมาเขียนที่ กทน. มาได้สักปีครึ่งกว่าแล้วกระมัง ประมาณพันกว่าบทความ

บทความผมส่วนใหญ่เป็นแนวคิดใหม่ ที่ผมคิดว่าเป็นนวัตกรรมสังคมด้านต่างๆที่หลากหลาย  เช่น วิศวกรรมศาสตร์ การแพทย์  สุขภาพ  ประวัติศาสตร์ อักษรศาสตร์  โบราณคดี  การเกษตร  เศรษฐศาสตร์  สังคมศาสตร์  ศาสนา  ปรัชญา  ....มีเฟอะฟะ แต่งกลอน ร้องเพลง ปรุงอาหาร  บ้าบอคอแตกอะไรบ้างประมาณ ๐.๑ ปซ.  กระมัง 

แต่ดูเหมือนว่า ยิ่งเขียน..แทนที่จะยิ่งมีคนอ่านมากขึ้น กลับน้อยลงทุกวัน เป็นดัชนีชี้วัดว่า การเขียนของผมคงไม่เป็นที่ต้องการในบอร์ดนี้ 

ก่อนที่จะไม่มีใครอ่านเลย  ไม่คุ้มค่ากับเวลาที่ผมต้องกดแป้นมาโพสต์  ผมจึงต้องขอกราบลา ไปพเนจรหาที่พักพิงใหม่ต่อไป  (ตามหลักการลงทุนแบบทุนนิยม)

อย่างไรก็ต้องขอบคุณบางท่านที่ติดตามอ่านมาโดยตลอด  และบางท่านที่คุยกันหลังจอจนเกิดมิตรภาพ ก็หวังว่าคงจะดำรงอยู่ต่อไป ไม่ลืม

สวัสดี

...คนถางทาง (๒๒ มีนาคม ๒๕๕๖)  


คำสำคัญ (Tags): #ลาก่อนgotoknow
หมายเลขบันทึก: 531015เขียนเมื่อ 22 มีนาคม 2013 21:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มีนาคม 2013 21:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

เข้ามาให้กำลังใจครับ    ผมคิดว่าถ้าจะมีคนสนใจแม้สักหนึ่งคนก็ตาม ก็มีคุณค่าแล้วถ้าคนที่เข้ามาอ่านและเห็นคุณค่านั้น  ผมเองบางครั้งก็คิดเหมือนคุณ  แต่เมื่อมีคนยังสนใจอยู่บ้าง  ก็จะทำต่อไป แต่ก็จะห่างๆหน่อย หันมาสนใจบทความข้อเขียนของคนอื่นๆเพื่อการศึกษาหาประสบการณ์ต่อไปครับ

อ้าวเสียดายเลย กำลังอ่านเพลินๆ

คนให้ดอกไม้อาจารย์ติดท็อปไฟว์ท็อปเท็นเลยนะครับ

ผมเขียนมาตั้งห้าปีคนอ่านจิ๊ดเดียว อิๆๆๆ

อ้าว อาจารย์ ;)...

อยู่ก่อน ๆ ครับ

อย่าเพิ่งไปเลยครับ ผมสัญญาว่าจะติดตามอ่าน 

แต่ดูไปแล้ว ส่วนใหญ่จะมีแต่คนอ่านที่มีคุณภาพนะครับ 

อาจารย์ครับ เรื่องจำนวนผู้อ่านนี้มีความเป็นไปได้สองประเด็นครับ

ประเด็นแรกคือบันทึกใหม่ใน GotoKnow นั้นโดยส่วนใหญ่จะไม่มีจำนวนผู้อ่านมากหลังจากเพิ่มบันทึกใหม่ๆ ครับ แต่จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้อ่านโดยส่วนใหญ่ของ GotoKnow (90%) นั้นมาจากการค้นหาใน Google ไม่ได้เป็นสมาชิกครับ เราพยายามทำ Search Engine Optimization ให้บันทึกใน GotoKnow มีการค้นเจอจาก Google ก่อนเนื้อหาของไซต์อื่นๆ ครับ ดังนั้นบันทึกเก่าๆ จะมีคนอ่านมากกว่าบันทึกใหม่ๆ ยิ่งเก่าก็ยิ่งมีคนอ่านมากครับ ลักษณะนี้จะตรงกันข้ามกับบทความในเว็บหนังสือพิมพ์ที่มีคนอ่านเยอะในตอนแรกแต่เก่าแล้วจะไม่มีคนอ่านครับ

ส่วนอีกประเด็นหนึ่งก็คือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้นผมปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ส่วนระบบการนับผู้อ่านให้ทำงานเร็วขึ้น เห็นอาจารย์ตั้งข้อสังเกตเช่นนี้ทำให้ผมสงสัยว่าระบบที่ปรับใหม่อาจจะมี bug ทำให้นับตกหล่นไม่ตรงครับ เดี๋ยวผมขอตรวจสอบอีกทีในประเด็นนี้ครับ

ตัวเลขการอ่านนี่เป็นการนับทั้งสมาชิกและไม่ใช่สมาชิก (ค้นมาจาก Google) แต่ตัวเลขดอกไม้นั้นเกิดจากสมาชิกเพราะต้องเป็นสมาชิกถึงให้ดอกไม้ได้ ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาตั้งแต่ สรอ. มาสนับสนุนรางวัลสุดคะนึง อาจารย์อยู่ในรายชื่อของผู้ได้รับดอกไม้มากที่สุดห้าคนแรกของทุกเดือนเลยครับ

ผมตั้งใจว่าเมื่อมีเวลาผมจะทำส่วนแสดงสถิติต่างๆ ให้สมาชิกได้เห็นข้อมูลของผู้อ่านบันทึกของตัวเองมากขึ้นครับ ข้อมูลที่มีให้ตอนนี้ค่อนข้างจำกัดในการเห็นภาพการตอบรับต่อบันทึกที่เขียนครับ แต่ทีมงานพัฒนาเราก็มีน้อยครับ เลยทำงานกันแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างที่เห็นนี่ละครับ

ผมก็กำลังจะลา gotoknow เหมือนท่าน เร็วๆนี้เพราะไม่มีคนอ่าน และไปหา ที่ไหนสักแห่ง ขอบตุณบันทึกดีๆทีท่านบันทึกไว้

กำลังคิดเช่นเดียวกันค่ะ

อืมม.... จากการตรวจสอบเมื่อตอนเช้า ผมคิดว่าระบบการนับผู้อ่านมีการโอกาสนับตกหล่นจริงๆ ครับ สังเกตได้จากตอนที่สมาชิกเข้าระบบแล้วแต่เมื่อไปอ่านบันทึกแล้วจะแสดงความเห็นกลับไม่ได้ปรากฎชื่ออัตโนมัติแต่ต้องใส่ชื่อใหม่ครับ

ตอนนี้การนับการอ่านเราทำงานสองจังหวะครับ คือตัวหน้าเพจจะโหลดมาก่อนแล้ว JavaScript ในหน้านั้นจะไปดึงข้อมูลของสมาชิกที่กำลังอ่านนั้นมาเพิ่ม การนับจะเกิดขึ้นในจังหวะที่สองนี่เอง ผมทราบมาระยะหนึ่งแล้วว่าจังหวะที่สองนี่ไม่ค่อยสมบูรณ์ 100% โดยเฉพาะกับผู้อ่านที่อินเทอร์เน็ตช้า แต่ก็ไม่ได้พยายามแก้ไขทันทีเพราะนึกว่าเป็นไม่มาก แต่เดี๋ยวคงต้องจัดลำดับความสำคัญใหม่แล้วรีบแก้ไขปัญหานี้ครับ

GotoKnow เป็นเว็บไซต์อันดับ 1-2 ด้านการศึกษาของประเทศไทยครับ อยู่ในอันดับใกล้เคียงกันกับเว็บไซต์หนังสือพิมพ์หลายแห่ง ปริมาณ page views ต่อวันประมาณสองแสนครั้งในขณะที่บันทึกมีทั้งหมดห้าแสนกว่าบันทึก โดยเฉลี่ยแล้วปริมาณการอ่านอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศไทยครับ

แต่โดยส่วนตัวแล้วผมก็ไม่อยากให้สมาชิกเขียนบันทึกเพราะอยากให้มีคนอ่านนะครับ ผมเองเขียนบันทึกเพราะมีความสุขในการเขียนและได้รู้ว่าสิ่งที่ผมเขียนจะอยู่เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทยต่อไป พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของความสุขครับ คนเขียนมีความสุขที่ได้เขียน คนอ่านมีความสุขที่ได้อ่าน และคนทำงานมีความสุขที่ได้ทำครับ

จิตที่คิดจะให้นั้น...งดงามเสมอ

และผมยังรับรู้อีกว่า.....ใจของอาจารย์ก็เป็นเช่นนั้น


เป็นกำลังใจให้นะครับ

เป็นกำลังใจครับอาจารย์

ผมก็เคยคิดเหมือนกัน ว่าเขียนไปไม่มีคนอ่าน ไม่รู้จะเขียนทำไม่ เพราะไม่ได้ทำอะไรให้เกิดประโยน์ ตอนใหม่ๆ ตั้งใจจะเขียนบ่อยๆ สัปดาห์ละครั้ง หรือ เดือนละครั้งก็ดี แต่ตอนนี้ถ้ามีเวลามากคอยเขียนก็จะไม่ลาจาก G2K ครับ

แต่บันทึกของอาจารย์ มีความคิดสร้างสรรดีครับ

ผมอบ และหลายๆ คนก็คงอบเ่นเดียวกันคับ

เขียนต่อไปน่ะครับอาจารย์...อย่าเพิ่งบ๊ายเลยน่ะ

ทำไมล่ะคะอาจารย์ 

คุณค่าของการเขียนอยู่ที่เราเองต่างหาก 

อิอิ อันนี้คิดเอาเอง.. เพราะบันทึกของ kunrapee ก็ใช่ว่าจะมีคนอ่าน.. 

แต่ก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เขียน ฮ่าฮ่า

ไม่อยากให้อาจารย์หยุดเขียน เพราะบางเรื่องชอบมากค่ะ 

อ ถาง ไป ไหนบอกด้วยค่ะ จะตามไป อ่าน ได้ พลัง ความแรงแข็งขัน จาก อาจารย์ เยอะเลย

การให้ความรู้เป็นสิ่งดีครับ แม้ว่าการนับจำนวนผู้เข้าดูเป็นมาตรวัดอย่างหนึ่ง (ในกรณีที่วัด Rating การตลาด) แต่ความสำเร็จหรือล้มเหลว ขององค์ความรู้ที่มีและให้กับประชาชน ขึ้นกับว่าทำให้เกิดปัญญา ฉุกคิด และกระทำสิ่งใหม่ๆ ที่ถูกต้อง และมีประโยชน์โดยรวมได้หรือไม่ จากบุคคลหนึ่งที่เข้ามาอ่าน เห็นว่ามีประโยชน์แล้วบอกต่อ ..บอกต่อ...บอกต่อ ให้กับเพื่อน ซึ่งอาจจะมีความสามารถเข้าถึงระบบ IT หรืออาจไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่เป็นการรับข่าวสารผ่านการบอก การกระทำให้ดู ก็เท่ากับได้สร้างปัญญากับเพื่อนร่วมสังคมได้ เป็นกำลังให้นะครับ

ไปอยู่ที่ไหน ก็จะตามไปเดินตามเพราะมีคนถางทางให้เดิน


อ๊ะ !!!!  อาจารย์ชลัญจิตตกได้ไงนี่  

แหม!  ระดับ ดร.ถางเขียน คนอ่านไม่น้อยหรอก  เพราะกลุ่มนี้คืออ่านจริงๆที่ชอบบทความยาวๆ มีสาระ  ถึง อาจารย์ถางเปลี่ยนบอร์ด ก็คงอ่านประมาณนี้แหล่ะ  สำหรับที่อ่านมากๆ นั้น ชลัญว่า เป็นกลุ่มที่ชอบอ่านบทความสั้นๆ แบบโดนๆ อาจไม่มีรายละเอียดของสาระมากกว่า  นิสัยคนส่วนใหญ่สมัยนี้ก็ประมาณนี้ เห็นตัวหนังสือยาวพรืด ก็เบนหน้าหนี ชอบแบบสั้นๆดีความเอง บางทีอาจดีความผิด ประมาณนี้ 

บทความอาจารย์ถางนี่เป็นบทความที่มีคุณภาพ  คนที่เข้ามาอ่านจึงเป็นกลุ่ม เดียวๆกัน  อาจไม่มากที่สุด แต่ชลัญว่าอย่างน้อยๆก็มีประโยชน์สะกิดใจได้หลายด้าน ซึ่งชลัญก็เห็นว่ามีคนเอาบทความอาจารย์ไปเผยแพร่ต่ออีกมาก อย่างที่ชลัญเคยลิงค์ ให้ดู 

ชลัญคนหนึ่งแหล่ะไป๊แฟนพันธ์ แท้  เกาะติดทุกสถานการณ์ ถึงไม่มีความรู้ในเรื่องที่อาจารย์เขียน แต่ก็ทำให้เปิด โลกทัศน์ทางความคิด ที่โดนใจในสังคมปัจจุบัน

อย่าเพิ่งหนีกันเล้ย  ยังไม่ได้เริ่มกิจกรรม ชมรม 101.99 เลยอ่ะ ประธานจะหนีซะแล่ว แง แง แง ๆๆๆ  

ตอนแรกงงๆอยู่ พบ. 101 เขียนอะไรใน 'ment ผม  

ไม่มีคนถางทางแล้ว ทางก็ไปยากซิครับ อาจารย์..........  คนถางทางชื่อก็บอกเราอยู่แล้ว ต้องลุยก่อน (ถ้าไม่ ต. ก่อน) เดี๋ยวพอทางโล่งแล้ว.....ลูกน้องอย่างผมจะตามไป...... 555 

มีคนมาอ่านบันทึกอาจารย์อยู่ครับ............................ไปเขียน หลายๆ blog ก็ดีนะครับ แล้ว link ไปมาก็ได้ เขียนในที่ๆที่มี impact factor สูงๆ ก็ได้....... แต่ GTK เขาก็ตั้งใจทำงานนะอาจารย์.....:)

ว่าๆไปบันทึกผม ใช่ว่า จะมีคนสนใจ เหมือนท่า Gwiyomi เลย.... 555  

เรา post ต่อไปนะครับ......  ผลงาน ก็คือ ผลงาน...... จะเหมาะ และให้ประโยชน์กับคนที่มาอ่านครับ....... คนไม่อ่าน....เราก็ไม่รู้ว่า บางทีภายหลังเขาอาจเห็นว่า .ใช่. ก็ได้ครับ

สู้ๆนะครับ........  



สวัสดีค่ะ คุณถางทาง

สรุปแล้วจะถากถางตัวเอง ถากถางเพื่อนสมาชิก หรือถากถาง gotoknow กันแน่ ดิฉันให้กำลังใจนะคะ และก็แอบถากถางคุณถางทางในบันทึก '(14) มีเรื่องดีดีก๋เล่าสู่กันฟัง' ด้วย ให้กำลังใจค่ะ

เคารพความคิดเห็นอาจารย์นะคะ แต่ก็อยากจะขอให้อาจารย์ทบทวนอีกสักครั้ง ถ้าอาจารย์คิดว่าเขียนเพื่อต้องการให้ความคิดความรู้ได้ใช้งาน โอ๋ขอยืนยันว่าที่ GotoKnow เป็นแหล่งที่น่าจะถือว่าดีที่สุดในปัจจุบัน เอาประสบการณ์ตัวเองมายืนยันว่า จากที่เคยกลับมาแล้วรู้สึกห่อเหี่ยวใจว่า ความรู้ที่เราได้ใช้ภาษีประชาชนไปกอบโกยมาตั้งหลายปีจะเอาไปปล่อยที่ไหน เพราะหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบมันไม่เกี่ยวข้องกันเลย (ตามประสาระบบบ้านเรา) ก็ได้ GotoKnow นี่แหละค่ะเป็นที่ปล่อยของ ความรู้จริงๆที่วางไว้ มาถึงวันนี้หลายปีที่ใช้ทุนภาษีประชาชน (ทั้งที่ถ้าอยู่เมืองนอกก็คงรวยสบายไปแล้ว) ด้วยการทำงานในหน้าที่อย่างเกินกำลังความสามารถ (คิดว่าทุ่มกับทุกงานจนเต็มที่เสมอมา) ความรู้ที่เคยคิดว่าคงสูญเปล่าก็ไม่หายไปไหนนะคะ อาจารย์ จากที่แทบไม่มีคนอ่าน มาถึงวันนี้มีคนเอาไปใช้เขียนวิทยานิพนธ์ เอาไปใช้งาน กลับมาถาม มาปรึกษางาน แม้กระทั่งตามมาถึงตัวก็ยังมี เพราะ GotoKnow นี่เองค่ะ ถ้าเราไม่คิดจะโด่งดังเอาชื่อเสียง (ซึ่งเท่าที่ติดตามอาจารย์มาก็เชื่อว่าอาจารย์ไม่ใช่คนแบบนั้น) ความรู้ที่เรามีได้รับการเอาไปใช้ ที่ GotoKnow นี่แหละค่ะคือพื้นที่ที่เหมาะที่สุดแล้วที่จะเขียนความรู้ ความคิดของเราเก็บไว้ให้ลูกหลาน 

และอีกอย่างที่สำคัญคือ โอ๋ได้รู้จักอาจารย์สองท่านที่ก่อกำเนิด GotoKnow และพยายามยืนหยัดทำงานกันมาอย่างแข็งขันเพื่อให้พื้นที่นี้คงอยู่เป็นมรดกของลูกหลาน ได้เห็นความตั้งใจจริงต่อสู้ยืนหยัดแม้ในยามที่ไม่มีใครสนับสนุน (เวลาอย่างนั้นมีมาแล้วนะคะ เราสมาชิกได้ช่วยกันสมทบทุนค้ำจุนกันมา) ไม่มีการรับโฆษณา เป็นอิสระเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง ความรู้ความสามารถที่ทั้งสองท่านมี ถ้าคิดจะทำมาหากินเพื่อตัวเองป่านนี้คงมีความสุขสบายไม่ต้องมาลำบากดูแลเว็บไซต์ สร้างพื้นที่บำรุงรักษาเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนไทยทุกคนอย่างนี้ ก็เลยตั้งปณิธานเอาไว้กับตัวเองว่าจะไม่ทิ้งพื้นที่นี้ไปไหน และจะพยายามดึงดูดคนไทยทุกคน (ขอย้ำว่าทุกคน เพราะโอ๋เชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง) มาอ่านมาเขียนกันในพื้นที่นี้ค่ะ

ขออนุญาตออกความคิดเห็นมาให้อาจารย์พิจารณานะคะ...อาจจะเป็นความเห็นที่ยาวที่สุดที่เคยเขียนเลยนะคะนี่

.....อีกแง่มุมหนึ่งที่ผมเคยประสบและบันทึกไว้...... ฝากให้ท่านหัวหมู่อ่านครับ  :)

"......โดยส่วนตัวผมนั้น ถ้ามีใครมาปรึกษาผมในเรื่องต่างๆ แล้วบอกผมว่า เขากำลังมุ่งมั่นทำงาน.....เขากำลังทุ่มเททำงาน..... ทุ่มเททุกอย่าง “ด้วยใจ” ให้ใจเต็มร้อยกับงานนั้น..... ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอย่างไร หรือจะไม่มีใครมาเห็นใจเขาเลย.... เขาก็จะแสดงผลงานให้ทุกคนเห็นว่า เมื่อเขาทำออกมาจากใจ ผลงานที่ได้เขาจะชื่นชม และมีความภาคภูมิใจ.......

 ผมต้องรีบหยุดความคิด ที่ว่า <<ทำงานด้วยใจ>>  ของเขาไว้ก่อน  ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เขาคิดเขาทำนั้นไม่ดี เป็นสิ่งที่น่ายกย่องสรรเสริญเสียด้วยซ้ำ แต่ใจของคนเรานั้น โดยธรรมชาติ "ใจ" ของเราต้องการ หรือมี “กำลัง” ไม่เท่ากัน แม้แต่คนที่มี “กำลัง” ในใจสะสมอยู่ในตัวมากมายเหลือเฟือ การที่เรา <<ทำงานด้วยใจ>> ไปเรื่อยๆ  ถ้าไม่มีอะไรมาหล่อเลี้ยงใจดวงนี้ ความชื่นชนยินดี แรงสนับสนุนจากคนใกล้ชิด ต่อมาการ<<ทำงานด้วยใจ>>  ก็จะค่อยๆหมดกำลังไป อ่อนแรงลงไปในที่สุด............ ทีนี้ล่ะ ความทุกข์ ความท้อใจ ความน้อยใจ ก็จะเกิด เริ่มมีความรู้สึกติดลบกับงานที่เคยกลั่นมาจากใจ ต่อว่า พาลไม่สนใจงานชิ้นนั้นๆ....(อันนี้ผมหมายถึงตัวเองที่เคยเป็น ไม่ได้ว่าหรือพาดพิงใครๆนะครับ)

ดังนั้นผมหันกลับมาคิดใหม่ (คิดให้ได้) เรา<<ทำงานด้วยใจ>>  เราก็ทำเต็มที่แต่คราวนี้ ผมจะใข้ประโยคที่ว่า “ ทำงานทุกชนิด....ให้จิตว่าง “  ในอีกความหมายหนึ่งคือ

ทำงานปัจจุบัน ตรงหน้านี้...ให้ดีที่สุด โดยให้จิตว่าง......จากความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดหรือ จะได้ในอนาคต

ก็คือประกอบแต่ “เหตุ” ที่เป็นปัจจุบันให้ดีเท่าที่ “กำลัง” เรามี ส่วนผลจะเป็นอย่างไร เราให้ ....”ว่าง”.....ไว้ก่อน

เดี๋ยงดีเอง ครับ........:)  "

มาให้กำลังใจนะคะอาจารย์....ชอบบันทึกนี้มากที่อาจารย์ได้ระบาย..ระบายนะคะ...อยากบอกอาจารย์ว่า....จริตคนไม่เหมือนกันนะคะอาจารย์บางคนชอบบางคนไม่ชอบเพราะบางที่บันทึกเราอาจจะไม่ตรงกับจริตคนของใครนะคะอาจารย์ แต่ความสำคัญอยู่ที่ว่าอาจารย์ได้เขียนบันทึกที่เป็นตัวของตัวเองนั้นแหละค่ะถือว่าดีที่สุดแล้วนะคะ เพราะบางทีจริตเราอาจจะไม่ตรงกับจริตใครนะคะ แต่สำคัญกว่านั้นมันคือตัวตนของเรานะคะอาจารย์...มณีเทวาก็เป็นคนหนึ่งคนใหม่ที่ชอบแนวเขียนที่เป็นตัวตนแบบอาจารย์นะคะ ..อาจารย์ค่ะ...บางที่รางวัลไม่ใช่เครื่องสำเร็จของชีวิตนะคะ ดังนั้นอย่าไปมองที่องค์ประกอบจากภายนอกนะคะอาจารย์ เพราะมณีเทวาเชื่อว่าทุกบันทึกของอาจารย์คือการให้นะคะ นั้นแหละค่ะ คือ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของอาจารย์นะคะ ส่วนใครจะอ่านหรือไม่อ่านใครจะให้ดอกไม้หรือไม่ให้ดอกไม้ใครจะให้กำลังใจหรือไม่ให้กำลัง สิ่งเหล่านั้นไม่ได้สำคัญเท่ากับความสุขที่อาจารย์ได้เป็นผู้ให้มิใช่หรือค่ะ...ขอบคุณค่ะ


  • สำหรับครูอิงแล้ว คงจะเป็นคนหน้าใหม่สำหรับอาจารย์ค่ะ
  • เพราะระยะหลัง ๆ มานี้ ไม่ค่อยได้เขียนบันทึก ด้วยภาระงานที่ทำให้ไม่ค่อยมีเวลา
  • แต่ก็ยังคลิกเข้ามาอ่านบันทึกของหลาย ๆ ท่านอยู่เสมอ ๆ 
  • โดยเฉพาะบทความของอาจารย์  และก็คิดชื่นชม  พร้อมทั้งประหลาดใจว่าทำไมผู้เขียน
  • ถึงได้เขียนบทความได้อย่างหลากหลาย  หยิบอะไรๆ ขึ้นมาเขียนได้มากมาย 
  • เข้ามาอ่านค่ะ แต่ยอมรับว่า ไม่ค่อยได้แสดงตน เนื่องจากบางครั้งก็มีปัญหาในการเข้าระบบ ค่ะ
  • พักนี้ปิดเทอม  จึงพอจะมีเวลา พยายายามเข้าระบบ  และเริ่มเขียนบันทึกอีกครั้ง 
  • เป็นกำลังใจให้อาจารย์นะคะ  
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท