ตำลึงสุกแดงกับสารส้ม ย่างสุก รสเปรี้ยวหอม ช่วยขับเม็ดนิ่วออกจากระเพาะปัสสาวะ สมุนไพรเป็นยามาตั้งแต่สมัยโบราณ
ลูกตำลึงสุกแดง เมื่อก่อนมองเห็นที่ต้นก็นึกเสมอว่าแดงสวยจัง กินได้ไหมนะ แต่ไม่เคยเด็ด เด็ดแต่ยอดและใบอ่อนมาต้มจิ้มน้ำพริกหรือบะช่อหมู โดยเฉพาะฝีมือแม่อร่อยมาก และเมื่อตอนลูกเป็นเด็กๆเล็กๆที่ต้องกินอาหารบด ตำลึงขาดไม่ได้เลย ต้องต้มใ่บอ่อนไปในข้าวด้วยเสมอ
ส่วนสารส้ม เมื่อสมัยก่อนตอนเด็กๆหากไม่มีน้ำฝนใช้ น้ำที่มาจากคลองหน้าบ้านมาใส่โอ่งแล้วใช้สารส้มเป็นก้อนๆแกว่งน้ำๆก็จะใส่แจ๋ว น้ำนำไปต้มดื่ม และใช้ได้สารพัดอย่าง ก็ไม่ทราบว่าปัจจุบันนี้ยังมีบ้านไหนใช้แกว่งน้ำบ้าง
ช่วงหลังๆนี้ได้เห็นลูกตำลึงสุกแดงบ่อยเพราะเพื่อนเลี้ยงนกกรงหัวจุก เป็นอาหารอย่างดีของนกพันธุ์นี้และได้ทราบว่าผลตำลึงสุกทำเป็นอาหารเม็ดมียี่ห้อขายให้นกด้วย เดี๋ยวนี้เวลาไปพบที่ไหนก็จะเก็บลูกตำลึงสุกแดงมาฝากเพื่อนเพื่อให้นก แต่ครั้งหลังสุดไปพบที่เขตอ.สารภีเชียงใหม่ เก็บมาแต่ไม่ได้ให้นก นำมาย่างเพื่อชิมและเก็บภาพมาฝากไว้ในบันทึกนี้ ก็ไม่นึกมาก่อนเลยว่าตัวเองจะได้ดื่มน้ำลูกตำลึงสุก ทำเพราะอยากทราบเพื่อบอกว่าทุกคนว่ารสชาติเป็นอย่างไร การจะทำดื่มแล้วแต่ผู้ทำนะคะว่าจะทำแบบไหนเพราะผู้เขียนไม่ได้ทำตามที่ท่านศุภกิจ นิมมานนรเทพ สอนทั้งหมด ได้ทดลองทำดื่ม 2 ครั้ง มาชมกันนะคะ
ตำลึงสุกกับสารส้ม รักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
ครั้งแรกเพื่อนที่เลี้ยงนกนำมาจากอ.สันทรายขอแบ่งมา 2 ลูก เพื่อทดลอง
นำสารส้มตำให้ละเอียด
ในการทำครั้งแรกทำตามที่ทราบมาจากหนังสือคือ ใช้มีดค่อยๆผ่าถึงกลางลูกตำลึง
แล้วตักสารส้มที่ตำใส่ลงไปใช้เส้นด้ายมัดแ้ล้วนำไปย่างไฟพอสารส้มละลายก็ใช้ได้
ขั้นตอนนี้ทำแตกต่างจากหนังสือที่อ่าน คือ เมื่อย่างจนสารส้มละลายแล้วใช้ผ้าขาวบางห่อบีบน้ำออกมา แล้วกินแบบข้นๆ แต่ผู้เขียนไม่ใช้ผ้าขาวบาง นำตำลึงที่ย่างไฟใส่ตะแกรงแล้วบด เมื่อชิมดู จะมีกลิ่นหอม เปรี้ยว ไม่มีรสขม ชิมตอนบดเสร็จ แต่เวลาดื่มได้ผสมน้ำเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้น
ผสมน้ำเพียงเล็กน้อยแล้วดื่ม มีรสเปรี้ยวดื่มได้ไม่ยาก
กรณีตักกินแบบข้นๆ เราก็ต้องดื่มน้ำตามอยู่แล้ว
ผสมกับน้ำจะทำให้น่าดื่มมากกว่า
ตำลึงสุกจากอ.สารภึใกล้ๆต้นยางนาริมถนน ล้างผิวให้สะอาดก่อนแล้วค่อยผ่าลูกเพื่อใส่สารส้ม
ครั้งที่ 2 นำสารส้มค่อยๆใส่ที่รอยผ่าไม่ได้มัดด้าย ก็ย่างได้ สารส้มยังอยู่ในลูกตำลึง
นำบดในตะแกรง ใส่แก้วเพื่อเติมน้ำ
เพื่มน้ำ หอมเปรี้ยวไม่มาก ดื่มเสร็จแล้วยังรู้สึกว่าความเปรี้ยวยังค้างอยู่ที่ฟัน แต่แป๊บเดียวก็หาย
นายศุภกิจ นิมมานนรเทพ อดีตรองอธิบดีกรมการค้า
และอดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์
หนังสือเล่มบางเล็กๆนี้ทำให้ทราบว่าสมุนไพรเป็นยารักษาผู้ป่วยให้หายจากโรคได้จริงๆจากการเล่าประสบการณ์ของผู้ที่ป่วยแต่ละโรค และตัวของท่านผู้เขียน คือ นายศุภกิจ นิมมานนรเทพ ใช้สมุนไพรรักษาโรคได้ผลหายจากการเจ็บป่วยได้จริง ข้อมูลของท่านได้มีการเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตนานแล้ว ท่านสอนเรื่องพลังลมปราณด้วย
แต่กานดาน้ำมันมะพร้าวพึ่งได้หยิมหนังสือที่ได้รับจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาอ่านทบทวนและเป็นจังหวะที่ได้เจอลูกตำลึงสุก จึงทำการทดลองตำลึงกับสารส้มบอกกล่าวก่อนสมุนไพรชนิดอื่นๆ ที่ท่านสอนในเล่ม
นำข้อมูลบางส่วนที่ท่านเขียนพอให้ทราบดังนี้นะคะ
พ่ออ้วน ไชยธารลุงเขยของผมเป็นหมอแผนโบราณหรือที่ปัจจุบันเรียกว่าหมอเมืองลุงสืบตำราหมอมาจากตระกูลและแสวงหาประสบการณ์เพิ่มเติมอีกหลายสิบปีจากการรักษาคนไข้และแลกเปลี่ยนวิชากับเพื่อนร่วมอาชีพรายอื่นๆตลอดมาลุงไม่มีลูกหลานมาสืบสายวิชาการแพทย์แผนโบราณ
ผมมีโอกาสได้คลุกคลีกับยาสมุนไพรหรือยาพื้นเมืองหรือยาแผนโบราณสุดแล้วแต่ใครจะเรียกอย่างไร
ผมเห็นลุงเปิดดูตำรายาที่เขียนด้วยอักขระโบราณในเวลาที่จัดยาลงแต่ละถุงผมเคยพลิกดูตำราเหล่านี้แต่อ่านไม่ออกเลยไม่เหมือนตัวหนังสือที่ผมเรียนในห้องเรียน
ผมอยากรู้ว่าตำราเขียนอ่านอย่างไรบ้าง
ลุงก็อ่านให้ฟังเป็นตัวอย่าง ผมจำตำรายาได้ 2 - 3 อย่างที่จำได้เพราะมีส่วน
ของผักตำลึงเป็นองค์ประกอบด้วยทำให้ผมเข้าใจว่าเหตุใดเถาตำลึงจึงพาดรอบรั้วบ้านของลุงเพราะเถาตำลึงนี่แหละคือวัตถุดิบสำคัญที่สุดในการผลิต
"ยาขาง"แก้ไข้ร้อนใน
วิธีทำ ผลตำลึงกับสารส้มรักษา นิ่ว
ให้ใช้ตำลึงแก่ๆ 5 – 7 ผล กรีดผลตำลึงทั้งหมดลึกลงไปครึ่ง
ผลแต่ไม่ให้แยกออกจากกัน ตำสารส้มเป็นผงโรยลงในร่องที่กรีดไว้ในผลตำลึงทั้งหมด
จนผลเต็มร่องแล้ว ใช้ด้ายพันรอบผลตำลึง แต่ไม่จำเป็นต้องพันชิดกันนัก
นำ ผลตำลึงทั้งหมดไปย่างไฟอ่อนๆโดยหงายร่องขึ้น คอยดูผงสารส้มละลายจนหมดแล้วยกตะแกรงย่างออกจากไฟ รอสักพักให้คลายร้อนลงเหลืออุ่นจัดๆ แล้วใช้ผ้าขาวบางห่อผลตำลึงทั้งหมด คั้นเอาน้ำออกมา ( จะได้ประมาณสักถ้วยชาจีน ) ให้คนเป็นโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะดื่มรวดเดียว ( ขมนิดๆ ) วันหนึ่งทำกิน 3 หน ภายใน 2 วัน ถ้าเม็ดนิ่วอยู่ในกระเพาะปัสสาวะจริงและเม็ดใหญ่ไม่เกินหัวแม่มือของผู้ป่วย จะต้องมีเม็ดนิ่วหลุดออกมาทางท่อปัสสาวะ
ตำลึง
ใบมีหยัก ตำลึงตัวผู้ ใบไม่หยักตำลึงตัวเมีย
ตำลึง สรรพคุณประโยชน์ ผลการทดลอง ฯ คลิกชมอ่านได้ที่เขียนบันทึกไว้แล้วนะคะ
http://www.gotoknow.org/posts/484296
สารส้ม มีสรรพคุณประโยขน์ต่อสุขภาพ ดังนี้
สารส้ม หินส้ม Alum, Potassium sulphate , Aluminium alum เป็นธาตุวัตถุ
รสฝาดเปรี้ยว สมานทั้งภายนอกและภายใน แก้ระดูขาว แก้หนองใน ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว แก้ปอดอักเสบ ฟอกระดู แก้รำมะนาด เหงือกเป็นแผลบวม ทำให้ฟันมั่นคง แก้แผลในปากคอ สมานแผลห้ามเลือดในแผลเล็กน้อย
(ขอบคุณสรรพคุณสารส้มจากหนังสือ เภสัชกรรมไทย ร่วมอนุรักษ์มรดกไทยโดย วุฒิ วุฒิธรรมเวช )
มีใครจะทดลองบ้างค่ะโดยทำดื่มก่อนที่จะเป็นนิ่ว สมุนไพรทั้ง 2 อย่าง เราไม่ได้ทำครั้งละมากมายอะไร พบลูกตำลึงสุกลองทำนะคะ นกคงไม่บ่น เพื่อนที่อยู่สันทรายพึ่งมาเล่าให้ทราบว่า จะเก็บตำลึงสุกมาก็เก็บไม่ได้เพราะเจ้านกมันฉลาดเล่นจิกไว้ทุกลูกเลย ตำลึงเป็นไม้เถาเลื้อยและมีประโยชน์มาก ปลูกเองได้ เช่นเดียวกับการปลูกไม้เลื้อยอื่นๆ เวลาลูกสุกหลายๆลูกน่าชมมากค่ะ
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
ความเห็น (22)
ดีใจและยินดียิ่งกับรางวัลที่เกิดจากความสามารถ
ที่เพียรพยายามมาหลายปีที่ให้ความรู้ เรื่อง าหารสุขภาพ
ยินดีกับรางวัลสุดคะนึงคะพี่ดา แต่พี่ดาเขียนด้วยใจรักและปรารถนาดีต่อผู้อื่น แม้ไม่มีเรื่องรางวัลก็เขียนสม่ำเสมออยู่แล้ว ยอดเยี่ยมคะ
สมุนไพรริมรั้ว เป็นทั้งอาหารและยารักษาโรค ....ตำลึง
ยินดีด้วยกับรางวัลสุดคนึงครับ
ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ คุณกานดา มาแล้วรับประโยชน์ไปด้วยเลย สงสัยต้องเป็นอริกับนกแน่ๆๆ
ยินดีกับรางวัลสุดคะนึง ด้วยนะครับ
พี่ดาคะ ถ้าไม่ใส่สารส้มจะเป็นอย่างไร ทราบไหมคะ
เคยลองชิมผลสุกของตำลึง รสหวานๆ นะคะพี่ดา ที่น้ำเปรี้ยวนี่คงเพราะสารส้มนี่เอง
ขอบคุณค่ะ
แก้มแดงๆเหมือนลูกตำลึง ..อิอิ เวลาอายจะโดนว่าเนาะๆๆ สวยมาก ตำลึงสุกแถมมีประโยชน์แบบนี้ต้องแย่งอาหารนก แล้วนะคะ
ศักดิ์สิทธิ์
ยินดีด้วยนะครับ
ขอแสดงความยินดี กับ อาจารย์ กานดา ที่ได้รับรางวัลสุดคนึง ค่ะ
เพิ่งทราบว่าลุุูกตำลึึงเป็นยาค่ะ
ปลุุุุุูกเลีี้ยงนกมานานแสนนาน ขอบคุณค่ะ
ยินดีด้วยนะคะ ดีใจมากๆค่ะ เพราะได้ประโยชน์จากการอ่านบันึกของน้องได้ดูแลสุขภาพแบบพยายามไม่พึงยาหลวง
พี่จะทดลองทำดื่มค่ะ เพราะม่นิ่วในถุงน้ำดี และกรวยไต ขอบคุณมากๆค่ะ
ตามมาซึมซับรับความรู้ด้วยนะครับ
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
สวัสดีค่ะ
น้องเขี้ยว ขอบคุณมากนะคะ
น้องหมอป. ขอบคุณมากค่ะ จะขยันเขียนบันทึกให้สม่ำเสมอตลอดไปค่ะ
คุณวอญ่า ค่ะตำลึงผักริมรั้ว หรือขอบกวนต้นไม้อื่นๆด้วยพันไปหมด
คุณพ่อน้องซอมพอ ขอบคุณมากค่ะ
คุณKrusorn ขอบคุณมากค่ะ เรารีบนำมาก่อนนกจะมาถึงนะคะ
คุณพ.แจ่มจำรัส ขอบคุณมากค่ะ
น้องปริม ถ้าไม่ใส่สารส้ม พี่ดายังเคยลองค่ะ คงไม่มีรสเปรี้ยว
น้องหยั่งราก ฝากใบ มีรสหวานหรือค่ะ ไว้จะลองชิมถ้าพบอีกค่ะ
น้องตูม แถวบ้านน้องมีไหม ใช่แล้วแก้มแดงเป็นลูกตำลึง เป็นคำกล่าวโบราณเลยนะคะ
คุณศักดิ์สิทธิ์ ขอบคุณมากค่ะ
อาจารย์ขจิต ดีจังผัดไข่น่าอร่อย ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าลูกดิบก็กินได้ แต่พี่ดาคงไม่ลองทำค่ะ
คุณKrutoiting ขอบคุณมากค่ะ ได้เขียนบันทึก สมุนไพรขบนิ่วแล้วนะคะ
คุณลุงชาติ ขอบคุณมากเช่นกันค่ะ
และขอบคุณมากนะคะ ดอกไม้และทุกๆกำลังใจที่มอบให้
กานดาน้ำมันมะพร้าว และบันทึกลูกตำลึงกับสารส้มขับนิ่วฯ
คุณดาคะ เป็นนิ่วในถุงน้ำดีใช้ได้ไหมคะ วิธีนี้ รบกวนหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณจ๋า
นิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากไขมัน ฯไม่แน่ใจนะคะว่า ตำลึงกับสารส้มจะขับออกได้ไหม
ได้เขียนบันทึกรวมสมุนไพรขับนิ่วไว้ https://www.gotoknow.org/posts/517808 เข้าไปชมอ่านนะคะ
มีอาจารย์จันทวรรณแนะนำไว้ตรงแสดงความคิดเห็น ว่า ต้นลูกใต้ใบ ขับนิ่วในถุงน้ำดีได้ค่ะ
และมีตำรับยาโบราณ อ่านบ่อยแต่ยังไม่เคยได้ลองทำและเขียนบันทึก
จะบอกให้ทราบลองทำดูก็ได้นะคะ
ยาแก้โรคนิ่วในไตและในถุงน้ำดี
" นำรากมะเฟือง 1 ราก ลูกเดือยหิน 1 ราก สับปะรด 1 หัว ยาข้าวเย็นเหนือ 1 หัว ยาข้าวเย็นใต้ 1 หัว ตัวยาทั้ง 5 อย่างนี้ เอาหนักอย่างละเท่าๆกัน ข้าวเปลือกเจ้า 1 กำมือ ตัวยาทั้ง 6 อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควรใช้น้ำยารับประทานครั้งละ 1 ถ้วยชา เวลาเช้าเย็น วันละ 2 เวลา ประมาณ 10 วัน ก้อนนิ่วจะละลายออกมาพร้อมกับปัสสาวะ "
ขอบคุณที่มา สูตรยาแก้โรคนิ่วในไตและถุงน้ำดี
จากหนังสือ ตู้ยาโบราณ รวบรวมโดยสมาคมแพทย์แผนโบราณแห่งประเทศไทย
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณมากนะคะเข้ามาเยี่ยนทักทาย แสดงความยินดี
และ ขอบคุณทุกๆกำลังใจและดอกไม้ที่มอบให้บันทึก
ขับนิ่วด้วยลูกตำลุงสุกกับสารส้ม ฯ
นิ่วในไต ใช้ได้ไหมครับ
ชอบครับ แปลกดี แต่ควรมีผลการทดลองด้วยก็จะยิ่งดี อีกอย่างถ้าเขียนให้กระชับสัก ๑ ใน ๑๐ ที่เขียนจะดีมากครับ แหะๆ