วิชญธรรม
ผศ. ดร. สิริวิชญ์ เตชะเจษฎารังษี

ทัวร์แรกน้องซัน (2)



เหตุมาเกิดตอนขากลับนี่แหละ...........
ก่อนขึ้นเครื่องกลับ มาม้าได้ up grade ไปนั่งชั้น business ป่าป้าไฟเขียวบอกไปเลย ดูลูกคนเดียวได้  ที่นั่งสบาย อาหารอร่อย นานๆมีโอกาสนั่งฟรี ก็รับเลย (แต่ในใจก็คิดแต่ไม่ได้พูด ยังไงก็แวะมาดูกันบ้างเด้อ)
ก็บอกแล้วว่าอาชีพ “พ่อเลี้ยง” จริงๆ  ดูแลลูกคนเดียวเป็นเรื่องปกติของกระผม (ไม่ใช่เฉพาะตอนอยู่นอกบ้าน แต่ต่างกันตรงที่ผมหากำลังใจแถวๆบ้านที่จะ “มารุมสรรเสริญ” นั้นไม่ค่อยจะมีเลย พี่ G2B to 555  )


พอเครื่องเริ่มขึ้นได้ไม่นาน ป่าป๊าสัมผัสรู้ถึงว่า ซันกำลังเริ่มมีไข้ (แต่ไม่ได้เอะใจ ยังมืออาชีพไม่พอ)

ม่าม้าเอาซันไปนั่งด้วยเพราะที่นั่งสบายกว่า ป่าป๊าเดินมาดูซัน และปลุกมาม้าที่หลับพร้อมซันนอนอยู่บนอก เพราะป่าป้าจับตัวซัน ตัวร้อนมากเลย (มาม่าหลับไปได้งัย ป่าป๊ามีบ่นในใจ).......ซันไข้สูงขึ้นเรื่อยๆ 

“งานเข้าแล้วเรา”  ป่าป๊านึกในใจด้วยความกังวล ตอนนั้นเราไม่ได้เตรียม ยาลดไข้ สำหรับเด็กมาเลย .....(พ่อมือใหม่ หนูทดลองก็คือ ลูกคนโต.....)


เราถาม พี่แอร์โฮสสเตสบนเครื่อง เขาก็ไม่มียาลดไข้สำหรับเด็ก ขวบเดียว มีแต่ยาลดไข้ผู้ใหญ่ (ตอนนั้นป่าป๊าก็ไม่รู้ว่ากรณีนี้ เราจะแบ่งยาพาราฯ เม็ดเพื่อให้เด็กอ่อนอย่างไร)  ป่าป๊าบอกให้มาม้าช่วยเดินไปดูว่าผู้โดยสารบนเครื่องใครมีเด็กเล็กบ้างเราจะได้ขอรบกวน ขอยาลดไข้ให้ซัน แต่ม่าม้าไม่กล้าไปเดินขออย่างนั้น เกรงใจ!! ไม่รู้จักกัน กลัวจะไปรบกวนเขา..........

ป่าป๊าก็เลยบอกม่าม้ากลับไปนั่งทานอาหาร ชั้น business ที่กำลังเสิรฟและก็พักผ่อน เดี๋ยวป่าป๊าดูซันเอง.....................  (เคืองนิดๆ เพราะบอกไปแล้ว มาม่าทำจริงแฮะ...หุหุ)
ป่าป๊าพาซันกลับไปที่นั่งเรา โดยให้ซันนอนยาวใช้พื้นที่ทั้งสองเก้าอี้เลย ป่าป้าอาศัยนั่งแตะๆขอบๆเบาะได้ไม่เต็ม แทบจะไม่ได้นั่ง   

ซันไข้สูงมาก ตัวร้อนจี๋แล้ว (ปกติซันเมื่อมีไข้ ทีไร ไม่ต่ำกว่า 38-39 38 - 39 C ทุกที) ป่าป๊ากลัวซันจะช็อคเพราะไข้สูง เด็กอ่อนเมื่อมีไข้สูง หลายๆคนกลัวที่สุดคือ เด็กอาจช็อคได้  ซึ่งถ้าป่าป๊าปล่อยให้เป็นอย่างนั้น การซ็อคจะทำให้ระบบประสาท ระบบร่างกายมีผลกระทบระยะยาวเลย...... ป่าป้าคิดกังวลไปเรื่อยเลย..........

ป่าป้าตัดสินใจให้ซันนอนอยู่คนเดียว (ซันตอนนั้นด้วยพิษไข้ นอนนิ่งเลย) ป่าป้ารีบเดินรอบเครื่องบิน เพื่อหาดูว่า มีใครพาเด็กมาบนเครื่องนี้หรือไม่จะได้ขอยาเขา ระหว่างเดินก็วิ่งกลับมาดูซันที แล้วก็รีบเดินหาทีละแถว ป่าป้าแวะปลุกตายายเพื่อบอกว่าซันมีไข้สูง ตารับทราบ แล้วก็นอนต่อ (สุดยอด....ตัวช่วยก็ไม่มี)


ป่าป๊าเดินจนเจอแม่ลูกคู่หนึ่ง ป่าป๊าคุกเข่าลงข้างคุณแม่เขา แล้วปลุกเขาบางๆ บอกว่า
“ผมขอโทษที่รบกวนนะครับ พอดีลูกผมมีไข้สูงมาก ไม่ทราบว่าคุณแม่พอมียาลดไข้สำหรับเด็กมั้ยครับ”
เขาตอบ “ มีค่ะ เป็นแบบเคี้ยว ค่ะ”  พี่เขาเป็นเด็กโตแล้ว ทานยาเม็ดได้ แต่ซันทานได้เฉพาะยาน้ำ งานเข้าอีกแล้ว...


คุณแม่เขาเลย ช่วยป่าป๊าคิด “ถ้าอย่างงั้น เราใช้บดยาเอาให้แบ่ง 1 ส่วน 4 บดให้ซันทาน” คำนวณให้ตามน้ำหนักพี่เขา เทียบกันซัน คุณแม่เขาให้ยาลดไข้แบบเคี้ยวรสองุ่น กับป่าป๊ามาแผงหนึ่ง ป่าป้าขอบคุณเขามาก แล้วรีบกลับมาหาซัน....
แต่ซันทานได้เฉพาะยาน้ำ ได้อย่างเดียว เพราะยังเล็กอยู่...............


ป่าป๊าเลยใช้วิธีบดใส่ขวดน้ำ overdose หน่อยเพราะยาไม่ค่อยละลาย และก็ไม่รู้ว่าซันจะทานน้ำมากน้อยแค่ไหน..... ก็ดีกว่าไม่มียาเลย.............. ป่าป๊าลองชิมยาดูไม่ขมใช้ได้...


ดีที่ซันยอมทานน้ำให้ป่าป๊า.......  ระหว่างรอดูอาการป่าป๊าก็ต้องขอ น้ำร้อนใส่แก้วกินน้ำผู้โดยสาร มาผสมกับน้ำเย็น และผ้าเช็ดหน้าผืนเท่าฝ่ามือเช็ดตัวซันมาตลอดทางเลย พอน้ำเริ่มเย็นไป ก็ขอใหม่ ที่นั่งก็แคบๆ ป่าป้าแทบนั่งไม่ได้ ต้องนั่งแบบแตะๆ ไปตลอด(ทุลักทุเลมาก)  

คุณแม่ผู้ใจดี และเป็นผู้ช่วยชีวิตซันก็ว่าได้ เขาเป็นห่วงเดินถามว่าซันทานยาได้มั้ย ok มั้ย ....... เขาใจดีมากๆ และเราก็โชคดีมากๆที่เขาช่วยลูกซัน.. :)


ซันตัวเย็นลง ป่าป๊าก็เริ่มหายกังวล ยาคงได้ผลแล้ว.....

มาม้าแวะมาดูเราตอนพี่แอร์เขาเปิดไฟสว่าง เตรียมเอาเครื่องลง.................  (อื่มมม....สบายไปเลยนะท่าน)

พอลงจากเครื่อง ป่าป๊าเดินหาคุณแม่และลูกผู้ใจดี เพื่อคืนยาที่เหลือ และที่สำคัญคือขอบพระคุณเขาที่ช่วยซันไว้ได้......


ดูเขาดีใจที่ซันไข้ลดลง..... 

(อีกครั้งที่ป่าป๊า ไม่ทันคิดที่จะขอชื่อ หรือข้อมูลติดต่อ เพราะกลัวว่าจะไปล้ำเส้นเขา คราวหน้าสำหรับผู้มีพระคุณ ป่าป๊าต้องขอชื่อ ที่อยู่เขา เพื่อติดต่อตอบแทนเขาภายหลัง <เริ่มเป็นงานครับ>)

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ............  ไม่ควรพาเด็กอ่อนเดินทางไกลเถอะครับ  หรือไม่งั่นถ้าจำเป็นก็ต้องเตรียม ยาลดไข้ ปรอดวัดไข้ (สำคัญจะได้รู้ว่าขีดอันตรายอยู่ไหน พ้นขีดหรือยัง สำหรับพ่อแม่ มือใหม่) 

สำหรับป่าป๊าตอนนี้ ไม่ต้องใช้ปรอดวัดไข้แล้ว แค่จับตัวซันก็รู้แล้ว.....(จริงๆ ป่าป้าใช้อยู่นะครับ วัดให้เห็นเป็นตัวเลขก็ค่อยมั่นใจหน่อย) 

หมายเลขบันทึก: 510682เขียนเมื่อ 2 ธันวาคม 2012 00:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 17:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ต้องปรบมือ ให้ดังๆๆ กับ ซุปเปอร์ป๊าค่ะ

ป๊า ไจ่ไจ๋เทียบไม่ได้ครึ่งกับป๊าของซันหรอกค่ะ  เวลาลูกเป็นไข้นี่เขาจะทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ

มีอยู่ครั้งลูกไข้สูงมาก กินยาแล้วไข้ไม่ลง ต้องนั่งเช็ดตัวลดไข้ ทั้งคืน เขาก็ตื่นมาให้กำลังใจนะแล้วหลับต่อ 555 

อีกครั้งไจ่ไจ๋เป็น hand foot mouth  กินอาหารไม่ได้เลย เพราะปากเยิ่นมากแผลเต็ม  ไข้สูง 39-41'C  ชลัญสั่งคุณป๊าให้ไปซื้อไอศครีมวานิลาที่ 7-11มาให้ลูก แต่พูดสั่นไปหน่อย เขาเข้าใจว่าเราอยากกิน ไอศครีม  มีเคืองบอกลูกป่วยขนาดนี้  ยังจะมีอารมณ์อยากกินไอศครีมตอนสี่ทุ่มอีกหรือ  อ๊ายปรี๊ดแตก ไม่ได้อยากกินซื้อมาให้ลูกเพราะลูกกินนมไม่ได้   เขาก็ไม่วายเดินกลับมาคืน  บอกนี่ลูกเป็นไข้ ให้กินไอติมได้ไง  ชลัญปรี็ดสุด เพราะลูกงอแงเพราะหิวมากบอก

        "นี่ฉันเป็นพยาบาล ให้ไปซื้อก็ไปซื้อมา ถ้าไม่ไปฉันไปเอง มาเช็ดตัวลูก"

          เท่านั้นแหล่ะ  ครับๆๆๆๆๆๆ แหม! เล่นมุกฉันเป็นพยาบาล ได้ผลแรงสสสสส์

         ผลปรากฏว่าหมวยน้อยรอดชีวิตครั้งนั้นกับไอศครีมวานิลา  จริงๆคนเราเข้าใจผิดว่า เป็นไข้ห้ามกินจองเย็น  ที่ห้ามน่ะจะเป็นน้ำเย็นมากๆ เพราะถ้าเราดื่มน้ำนี่ดื่มเข้าไปปริมาณมาก จะทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายฃดลงอย่างรวดเร็ว อันนี้อันตราย

       แต่ ไอศครีมนี่ค่อยๆกินละลายช้าๆ  ประโยชน์ได้ทั้งลดอุณหภูมิ  และได้แรงลด dehydration  ของร่างกาย เพราะใน ไอศครีมมีส่วนผสมของนม+น้ำตาล ระดับหนึ่ง  อีกอย่าง หากมีแผลในปากหรือเจ็บคอนี่  อาหารเย็นช่วยลดความเจ็บปวด ได้ ค่ะ 

        หากเดินทางไกลๆเด็กมีไข้ ไม่มียาลดไข้  ไอศครีม และการเช็ดตัวนี่ช่วยเราผ่อนหนักเป็นเบาได้ระดับหนึ่งค่ะ  อ้อ ..ให้อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆในปากก็ใช้ได้ค่ะ

       จริงๆ เทคนิคการเลี้ยงลูกนี่ มีอีกหลายอย่างที่ชลัญใช้กับลูกได้ผล  ยังคิดเขียนเป็นบันทึกเหมือนกัน

     ขอบคุณบันทึกดีๆ อย่าลืมส่งประกวดบทความเรื่อง ความรักของพ่อ กับ อาจารย์จัน นะชลัญ vote ให้  

คุณ พบ. 101 Ico48 จัดแรงส์ให้ ป๊า ไจ่ไจ๋  เลยนะครับ ป๊าไจ่ไจ๋เขาน่ารักมาก.....จากที่เป็นแฟนติดตามมานะครับ...........:):)

ผมจำได้แม่นเลยครับตอนซันมีไข้ครั้งแรกในชีวิตเขา....

ผมอยู่บ้านกับซันสองคน..... ซันมีไข้ตอนกลางคืน (และชอบมีไข้ตอนที่ไม่รู้ว่าจะไปหาหมอยังไง ดึกแล้วหมอปิดคลินิกไปหมดแล้ว ทุกที <ชอบจัดเต็มให้ป่าป๊าทุกที ช่วงแรกๆ>)

ป่าป๊าโทรตาม ตา-ยาย มาช่วย 

ยายสอนบิดผ้าให้แห้งสนิด ค่อยๆ ซับ แตะๆ แล้วยกออก บิดผ้าอ้อม จนมือป่าป๊าแดงไปหมดเลย

ทำให้รู้ว่าผ้าอ้อม บางชนิดไม่ซับน้ำ ยังอมน้ำอีกต่างหาย  สามคนรุ่มกัน มันส์มาก

สูตรยาย ป่าป้าไม่ถนัด เช็ดยังไง ไข้ก็ไม่ค่อยซะที 

มาตอนหลังป่าป้า เห็นอาม่า เช็ดตัวลดไข้ซัน ตอนเราไปเที่ยวอุบลฯ 

อาม่าใช้ผ้าชุบน้ำ ไม่ต้องบิดให้แห้งสนิทมากๆแล้ว  และก็ไม่ต้องคอยๆแตะ ยก แตะยก แล้ว

อาม่าใช้วิชา ถูเช็ดตัว เลย ไข้ลงทันตา เร็วกว่ามานั่งคอยๆแตะยก ๆอีก

ถ้าตัวเปียก มีผ้าแห้งซับให้ตัวแห้ง ถ้าซันไข้สูงมากๆ ถอดเสื้อออก (ถ้ายังตื่นอยู่ ยืนได้) เช็คตัวแบบรวดเร็ว แล้วใส่เสื้อใหม่ โอ้โห้  เดี๋ยวนี้ ใช้สูตร อาม่า ลดไข้ซัน เป็นกระบี่มือหนึ่งไม่ต้อง ตามใครมาช่วยแล้ว...........:):)

 

คุณพ่อเก่ง จัดการได้ด้วยความพยายาม ถามหาจนพบตัวยา ปรบมือให้ค่ะ

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นหน่อยหนึ่งนะคะ

 

อ่านพบว่า..เด็กอ่อน อายุและน้ำหนักตัวเท่าไรเอ่ย

ใช้ยาลดไข้แบบเม็ดเคี้ยว แบ่งสี่ส่วน ปกติยาเม็ดลดไข้แบบเคี้ยว ในไทยไม่ค่อยเห็น เคยเห็นของอเมริกา และญี่ปุ่น ประมาณเม็ดละ 250มิลลิกรัม (เคยเห็นแบบ125 มิลลิกรัม แต่ไม่แน่ใจว่า ที่ไหน)

น้องซันกินไปหนึ่งส่วนสี่ คุณพ่อบอกว่า โอเวอร์โดสเล็กน้อย

น้องซันคงหนักประมาณ 5-6 กิโลกรัม อายุประมาณ 2-3เดือน (ยกเว้นเป็นเด็กผอมหรืออ้วนมาก) 

 

ถ้าคาดผิด ก็ขอบอกว่า เรื่อง อายุและน้ำหนักตัวเป็นเรื่องสำคัญมาก กับการให้ยา

เป็นหมอก็ไม่กล้าให้ยาถ้าไม่ทราบน้ำหนักค่ะ!

 

ความจริง วิธีลดไข้ที่เร็ว ดี ปลอดภัย ก็อย่างที่อาม้าของอาจารย์วิชญธรรมทำค่ะ คือ

เช็ดตัว

แต่ต้องเช็ดถูกวิธี เช็ดให้ effective เวลาพี่แนะนำคนไข้ จะบอกเป็นขั้นตอน

หนึ่ง ถอดผ้าทั้งหมด

สอง เลือกผ้าที่ซับน้ำได้ดี เนื้อนุ่ม ชุบน้ำที่ไม่เย็นเกิน น้ำประปาโอเคเลยค่ะ

สาม เช็ดซอกคอ ข้อพับแขนขาก่อน ตามด้วยตัว แขนขาและฝ่าเท้า ฝ่ามือด้วย

สี่ เช็ดได้บ่อย ๆ มากเท่าที่ทำได้และจนกว่าไข้ลด ไม่มีข้อห้ามสำหรับการเช็ดตัว 

..

 

ตัวยา ออกฤทธิ์ช้ากว่าการเช็ดตัวค่ะ

การดูดน้ำ ดื่มน้ำมาก ๆ ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ระบายความร้อนได้ดี

 

สรุป เป็นกำลังใจและปรบมือให้นะคะ เพราะตัวเองเคยเจอลูกไข้ 39-40 องศามาแล้ว

ตัวสั่นใจสั่นเหมือนกันค่ะ

 

ลืมบอกอีกนิดว่า เช็ดแบบกดแนบ ถูตัวแบบเบา ๆ ค่อนไปกลาง ๆ อย่ากลัวลูกเจ็บ ไข้จึงจะลดค่ะ 

แบบที่แตะ ยก แตะยก ไม่ได้ผลค่ะ

ถูกพาดพิงเสียแล้ว....อิอิ

บันทึกนี้ดีจัง ได้ฟื้นความรู้ด้วยทั้งจากคุณชลัญธรและพี่หมอภูสุภา

หากยังไม่มีใครสรรเสริญคุณพ่อน้องซัน...

งั้นในฐานะคุณป้า  (^_^) สรรเสริญให้ก็แล้วกันนะคะ....

"สุดยอดคุณพ่อ" 

หากน้องซันโตขึ้นและได้มาอ่าน เชื่อได้ว่าเป็นการปลูกฝัง "ความเป็นสุภาพบุรุษ" ที่สุดในโลกให้เลย... :)

อ. หมอ ภูสุภา Ico48 แนะนำมาละเอียดมากครับ

ยาที่ได้มาจากคุณแม่ใจดี เขาบอกว่า ได้มาจาก สหรัฐ ครับ (เข้าใจว่า เขาจะเดินทางไปบ่อย หรือไม่ก็ อาศัยอยู่โน้นเลย ผมหาในไทยตอนนั้นไม่มีครับ  แต่ถ้าจำไม่ผิดเริ่มจะมีขายแล้ว แต่ไม่รู้ผมไปเจอที่ไหน จำบ่ได้ครับ หรือตอนผมไปเที่ยวแล้วซื้อมาก็จำไม่ได้ครับ)

ตอนนั้นซันอายุเกินขวบ กำลังหัดเดินครับ สัดส่วนยาต่อน้ำหนัก คุณแม่ใจดีเขาอ่าน และช่วยคำนวณให้ครับ ที่ผมบอก overdose นั้น อาจสื่อความหมายไม่ชัดเจนครับ ผมละลายยากับน้ำในขวบนมซัน ปริมาณยาที่ซันได้รับ จากการจิบน้ำผมเชื่อว่าไม่มากครับ เพราะยาก็ตกตะกอนไปก้นขวด (บดได้แต่ไม่ละเอียด) ผมคิดว่า ยาแทบจะน้อยมาก แต่ใจผมนั้นมันเย็นลงเพราะเขาไปรับยาลดไข้ .....555

วิธีเช็ดตัวเป๊ะมากครับ บางทีสูตรอาม่า เช็ดหัวด้วย ไข้ลงเร็วทันใจ เช็ดไปเรื่อยๆจนกว่าไข้จะลง จริงๆด้วยครับ......

ขอบพระคุณครับ...:)

ตอนนี้น้องซันหายดีแล้วใช่ไหมครับ มาเชียร์การเดินทางครับ

เย้ เย้ มาพี่ Ico48 มาชมป่าป๊าด้วย....:):) Ico48

อ. ขจิต เป็นเหตุการณ์ เมื่อซันอายุขวบนิดๆ เพิ่งจะหัดเดิน (เริ่มเดินช้านิดหน่อย) ตอนนี้ ซัน 4 ขวบเต็มเป๊ะพอดีครับ

(สงสัยต้องไปแก้บันทึก ลงอายุให้ชัดเจน :):) )

 

ชอบพระคุณครับ อ. ขจิต Ico48

สวัสดีค่ะอ.วิชญธรรม

ติดตามอ่านทั้งสองตอน ก็ขอชื่นชมปาป๊าน้องซันค่ะ ยกนิ้วให้ค่ะ ยอดเยี่ยม บ่งชี้ความรัก ความเอาใจใส่ จากหัวใจพ่อสู่ลูก.:-))

ประสบการณ์เวลานั่งเครื่องระยะทางไกลๆ และเมื่อไหร่ที่มีครอบครัวพร้อมเด็กน้อยนั่งใกล้ๆ ก็จะเจอลักษณะคล้ายๆกันค่ะ ก็จะเข้าใจภาวะที่เด็กๆเค้าไม่สบายตัว และเคยเจอประเภท ที่ต้องอุ้มอยู่กับพ่อ/แม่ และเดินไปมาตลอด โดยเฉพาะบริเวณส่วนท้ายของเครื่องผู้ใหญ่ก็ทำอะไรที่ถูก เพราะเด็กๆก็บอกไม่ได้ ต้องสังเกตเอาในทุกๆเรื่อง อย่างที่ปาป๊าน้องซันทำนั่นหล่ะค่ะ

อ่านไปก็นึกถึง..ทริบแรกของน้องซัน ที่ทำให้ปาป๊าหวั่นๆ.. ด้วยเพราะไข้สูงนี่หล่ะ ทำให้ไม่สบายตัวหนักไปใหญ่เลย ทริบต่อๆไปก็ชิลๆๆ แล้วใช่ไหม๊ค่ะ?? ..ปาป๊าทั้งปฏิบัติธรรม ทั้งรู้เทคนิคการทำให้สร่างไข้ และเทคนิคการให้ยาในยามคับขัน  อย่างนี้ก็จะพาสประสบการณ์ไปยัง น้องของน้องซันได้เร็วๆนี้้ ..ไหม๊เอ่ย??

 

ปรบมือให้ยอดคุณพ่ออีกคนค่ะ เก็บบันทึกนี้ไว้ให้น้องซันอ่านตอนโตด้วยนะคะ การที่เราได้รู้ว่าพ่อแม่รักเราแค่ไหนนี่เป็นเกราะที่ดีที่สุดในโลกสำหรับทุกอย่างเลยค่ะ 

อย่าลืมติด tag อย่างที่น้องโจ้แนะนำนะคะ 

Ico48 ถ้าใช้หลักธรรมะมาช่วยอธิบาย ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ ว่าผมจะอยู่ถึงได้ส่งต่อประสบการณ์ต่างๆ ถึงน้องซันด้วยตัวผมเองหรือไม่

ถ้าถึงวันนั้นจริงและ Blog GTK ยังยืนหยัดอยู่ และซัน ต้องการรู้จักป่าป้าของเขา (combination เยอะแฮะ) เขาคงจะรับรู้ได้นะครับ.......:):)

Ico48 ครอบครัว พี่ อ.  โอ๋-อโณ เป็นต้นแบบครอบครัวที่อบอุ่น และเทคนิคการอบรมเลี้ยงดูเด็กๆ ของผมเลยนะครับ

ขอบพระคุณครับสำหรับกำลังใจ.....:):)

 

กลับมาอ่านอีกรอบรู้สึกประทับใจจังเลย กับความรักของคุณพ่อที่มีต่อลูก มาปรบมือให้อีกครั้งค่ะ ท่าน .99

ไว้ชลัญจะเขียนตำรา  "เมื่อคุณป๊าต้องมาเลี้ยงลูก"  ดีมั๊ย มีต้นแบบตั้ง 2 คนแล้ว  ป๊าซันกับป๊าไจ่ไจ๋  อิ อิ 

ของพี่เลขาชมรม ก็ พ่อเลี้ยง..ลูกเหมือนกัน 555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท