จากการไปอบรม OD "Organization Development" ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ เป็นการอบรมเชิงธรรมะ โดยทีมงานกระบวนกรของ “หมอตุ๊” ( แพทย์หญิงรุจิรา มังคละศิริ) การอบรม แบ่งเป็น 4 รุ่น ภายใต้ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ภาวนาประสาพิมาย” ประจําปี 2555 ชลัญได้มารุ่นแรก วันที่ 22-24 ตุลาคม 2555 สถานที่ โนโวเล ระยอง สนุกมาก ได้แนวคิดดีๆด้วย
มีแนวคิดหนึ่งที่รู้สึกโดนใจจึงอยากมาเผยแพร่ต่อ คือเรื่องของการบริหารเวลา ในการดำเนินชีวิต นั้นทุกคนคงรับรู้อยู่แล้วว่า ชีวิตเรานั้นจะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต ทุกคนไม่มีใครยั่งรู้อนาคตได้
แค่เอาชีวิตให้อยู่กับปัจจุบันยังทำยากเลย ประสาอะไรจะให้รู้ถึงอนาคต ส่วนใหญ่แล้วชีวิตเรามักติดอดีต เอาจิตมาอยู่กับปัจจุบันไม่ค่อยทัน ก็เวลามันหมุนเร็วจริง ปัจจุบันมันสั้นมาก ใน 1 นาที มีอดีตตั้ง 60 วินาที แน่ล่ะจิตมักมาไม่ทัน เช่น มีเรื่องขุ่นมัวในใจเมื่อ 3 ชม.ก่อน กลับมาเจอหน้าลูก ภรรยา หรือสามี แทนที่จะ ดีใจลูกวิ่งมาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอยากบอกว่า วันนี้หนูได้รับเลือกเป็นตัวแทน ประกวดมารยาทงาม กลับบอกลูกไปไกลๆ วันนี้เหนื่อย อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด อารมณ์เสีย เรื่องดีๆ ก็เลยไม่ได้ฟัง แทนที่ อารมณ์ขุ่นมัว จะเป็นที่เราคนเดียว ก็ไม่ ก็เลยทำให้คนในครอบครัวพลอย เครียดไปด้วย นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของการเอาจิตออกมาจากอดีตไม่ได้ มาไม่ทันปัจจุบัน
จากเวลาที่เดินไปเร็วแล้วเราก็ไม่รู้อนาคตนั้น การดำเนินชีวิตจึงไม่ควรประมาท คนเรานั้นมักวิงหาไฟฉายเมื่อเกิดไฟดับ แทนที่จะเตรียมไฟฉายพร้อมใช้ เมื่อเกิดเหตุจะได้ไม่ต้องวิ่งหาให้วุ่น
จะเห็นว่าการใช้ชีวิตของคนเรานั้น มักแบ่งเวลาของชีวิตไม่เป็น จากการอบรมในครั้งนี้ชลัญพอจะสรุป รูปแบบกิจกรรมในชีวิตเรา ออกได้เป็น 4 ลักษณะ
ตัวอย่างรูปแบบกิจกรรม
ส่วนใหญ่เราจะเสียเวลาในการทำกิจกรรมที่ 1, 2 และ 3 เป็นหลัก สำหรับกิจกรรมที่ 4 ที่อยู่ในโซนสีเขียวนั้น เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญ ก็ตามที แต่เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เวลาในการทำนานจึงเป็นไปได้ว่า เราจะผลัดไปเรื่อยๆ เมื่อผลัดเราก็เผลอทำกิจกรรมอื่นที่ใช้เวลาเล็กน้อย แป๊บๆก็เสร็จ แต่ไอ้เจ้ากิจกรรมเล็กๆน้อยๆ มันหลายกิจกรรมมันก็เลยกินเวลาไปซะหมด กิจกรรมที่มีความสำคัญ ก็เลยไม่ได้ทำสักที
แต่พิจารณาดูกิจกรรมที่ 2 กับ 4 ให้ดี หากเราใช้เวลาทำกิจกรรมที่ 4 สีเขียวแล้วนั้น กิจกรรมที่ 2 แทบจะไม่เกิดขึ้น เราก็จะมีเวลามาลั่นล้า ในกิจกรรมที่ 3 ได้อย่างสบายใจเลยล่ะค่ะ
ก็เป็นข้อคิดเล็กน้อยที่ชลัญเอามาฝาก เท่าที่สามารถเก็บเกี่ยวได้จากการอบรม อาจได้มาไม่ครบทั้งหมดของเนื้อหา เพราะว่า จิตชลัญก็มักตามปัจจุบันไม่ทันเหมือนกันค่ะ
ชลัญธร ตรียมณีรัตน์
เข้ามาอ่านเป็นคนแรก เพราะเวลาที่คุณชลัญธรตื่น (ตี่สาม) คือเวลาบ่ายสามโมงที่อเมริกา ได้ยินว่าคนที่ตื่นเช้ามากๆ เพราะนอนไม่หลับ สงสัยจะขาดฮอร์โมน
ไม่รู้จะจริงหรือเปล่าครับ
แต่ก็ดีใจ ที่คุณชลัญธร เข้ามาเขียนเรื่องใหม่ๆ เสมอๆ
Yes, time is life. And living is when we can spend time.
I learned about time management some 25 years ago. I did a lot of planning and scheduling (personal and business) time. Then I came to realize this. It is not 'management of time' but 'management of perception' - how to live with the important things in our life.
I think once we know what are really important to us - to our life - we can now see how much time/money/resources we want to spend doing things.
I don't know about you, but I'd rather ;-)
ได้แง่คิดดีค่ะ
สีเชียว ทำยู้ แต่มาทำสายไปนิดส์
แล้วคุณพยาบาลล่ะ เป็นแบบไหน อิอิ..
ขอบคุณคนบ้านไกลค่ะ ที่มาทักทาย กลางดึก จริงๆ แล้วชลัญนอนเร็วน่ะค่ะ 2-3 ทุ่ม แล้วก็ตื่น ตี 1-3 นอนต่ออีก 2 ชม.ก็ตื่นไปทำงาน่น่ะค่ะ คือพอนอนอิ่มแล้วรู้สึกตัว ก็ไม่สามารถนอนได้ต่อต้องตื่นขึ้นมา บางครั้งก็ยาวจนไม่ได้นอนน่ะค่ะ
ขอบคุณท่าน SR ที่มาแสดงความคิดเห็น ในเรื่องนี้ การที่สามารถจัดสรรเวลาของตัวเองและการทำงานได้อย่างลงตัวนี้ถือว่าได้เปรียบคนอื่นทีเดียว เมื่อก่อนชลัญก็ไม่เคยคิด แต่พอป่วยแล้วถึงรู้ว่าชีวิตเรา ต้องมีการวางแผนที่จะทำกิจกรรมอะไรที่สำคัญบ้าง
ขอบคุณพี่แก้วค่ะที่มาให้กำลังใจ
ท่านวิชญธรรมนี่ เป๊ะอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่สายเกินหรอกค่ะ บางคนทำทั้งชีวิต แต่ไม่รู้ไม่เข้าใจ บางคนเพิ่งคิดทำแต่มองได้ทะลุ
ขอบคุณ อ.ขจิต ขยันทำกิจกรรมต่างๆ ก็อย่าลืมกิจกรรมสีเขียวนะจ๊ะ
ขอบคุณท่า ภูคา ถามชลัญว่าเป็นแบบไหน สงสัยจะสีม่วงล่ะท่าน แฮ่ ๆๆๆๆ
เวลาและวารีไม่คอยใคร..คุณค่าของเวลาจึงควรบริหารจัดการเพื่อยังความสุขของชีวิตอย่างพอเพียงและยั่งยืนนะคะ..
เริ่มฝึกใช้วิธีที่น้องชลัญบอก มานานพอควรแล้ว.. แต่ยังไม่ถึงไหนเลย
ตามจิตไม่ค่อยทัน