AEC ตลาดกว้างไกล กับ คู่แข่งที่ยิ่งใหญ่


การที่มีตลาดที่กว้างแล้วยังหมายถึงมีศัตรูหรือคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ตามมาด้วย

การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้นนอกจากจะทำให้ชาวอาเซียนมีการรวมตัวเป็นปึกแผ่น สร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคแล้ว เมื่อจำเป็นต้องเพิ่มกำลังสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศยักษ์ใหญ่ในหลายๆประเทศทั่วโลกแล้ว ยังหมายถึงการมีตลาดที่ผู้คนชนอาเซียนจะทำมาค้าขายได้หลากหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ที่กว้างไกลออกไป ไม่ใช่ตลาดแคบๆแบบเดิมที่มีเพียงแต่ประชาชนคนในชาติของตนเอง ดังนั้นภาษาจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะต้องสื่อสารกับชาวอาเซียนด้วยกันได้อย่างเข้าอกเข้าใจ ถ่ายทอดสื่อสารกันรู้เรื่อง ไม่เช่นนั้นก็จะสูญเสียโอกาสที่จะนำผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของตนเองออกไปสู่ตลาดที่กว้างขวางนี้ได้

การที่มีตลาดที่กว้างแล้วยังหมายถึงมีศัตรูหรือคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ตามมาด้วย ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแต่คู่แข่งในอาเซียนเท่านั้นนะครับ ยังหมายถึงคู่แข่งที่เข้ามาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในประเทศที่เป็นสมาชิกอาเซียนด้วยเช่นกัน สมมุติประเทศสิงคโปร์มีชนชาติอเมริกา ชนชาติยุโรป หรือชาติอื่นๆ เข้ามาจัดตั้งจดทะเบียนบริษัทในประเทศ ก็สามารถที่จะได้สิทธิทำมาค้าขายกับประเทศในอาเซียนโดยได้รับการลดหย่อนภาษีต่างๆ เท่าๆกับผู้คนชนอาเซียนด้วยเช่นกัน เห็นหรือยังล่ะครับว่า ผลกระทบนั้นยิ่งใหญ่มหาศาลเป็นร้อยเท่าพันเท่ามากกว่าการทำ FTA ดังแต่เก่าก่อนเป็นไหนๆ

การแข่งขันที่สูสีคือการต้องขวนขวายหาความรู้ให้มากขึ้นของพี่น้องเกษตรกร ต้องหูไวตาไว ใช้ปฏิภาณไหวพริบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งการใช้สติปัญญาในการพัฒนาวิชาชีพของตนเองให้มีความชำนาญคล่องแคล่วเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิต ลองกำหนดจำลองสถานการณ์ให้สามารถผลิตกระเทียม ลำไย ลิ้นจี่สู้ต้นทุนกับจีนให้ได้ ปลูกข้าว ปลูกยางให้สู้เวียดนาม กัมพูชาให้ได้ เท่านี้ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะไม่มากไม่มายก็ถือว่ายังได้เริ่มต้นทำไม่ปล่อยให้ถูกกระแสโลกาภิวัฒน์พัดพากระเด็นกระดอนล้มหายตายจากไปได้ง่ายๆ อย่าลืมนะครับ ประเทศเวียดนามเขามี 3 เพิ่ม 3 ลด (เพิ่มผลผลิต, เพิ่มคุณภาพ, เพิ่มรายได้หรือกำไร, ลดต้นทุน, ลดการใช้ปุ๋ยเคมี, ลดการใช้ยาฆ่าแมลง) แต่ประเทศเมื่อมีการระบาดของโรคแมลง (เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล) รัฐบาลให้หยุดเพาะปลูก ลดพื้นที่หนีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (แล้วชาวนาไทยจะเอาอะไรกินกันละนี่!!! เพราะตลอดชาติตลอดปีก็มีอยู่อาชีพเดียว....เฮ้อ!!!)

 

มนตรี  บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 505058เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2012 17:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 ตุลาคม 2012 20:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ใช่แล้ว ..... ต้อง.....ต้องขวนขายไค้วคว้า .... กาความรู้ นะคะ

คุยถึงประชาคมอาเชี่ยนให้สมาชิกกลุ่มฟัง บางคนยังไม่เชื่อว่า กำแพงภาษี จะเป็นศูนย ์ ประเทศเล็กลงเป็นจังหวัด จังหวัดเป็นอำเภอ ก็ต้องคุยและพูดเรื่อยๆ ทางการก็ต้องประชาสัมพันธฺ์ ให้ถึงคนชายขอบ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท