การตรวจวัดค่า Switch Over Time ของระบบไฟฟ้าสนามบิน(updated2020)


การวัดค่า switch over time หรือค่าระยะเวลาที่ไฟฟ้าหลักดับไป โดยสังเกตุว่าโคมไฟลดความสว่างลง 50%และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองจ่ายให้ไฟติดสว่างขึ้น 50% ของความสว่างของหลอด

วิธีการตรวจวัด ค่า Swich Over Time

ค่าระยะเวลาการกลับมาติดสว่างของระบบไฟฟ้าสนามบิน มีผลต่อการใช้งานของนักบิน ฉนั้นทางองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศจึงได้กำหนดค่าระยะเวลาที่ไฟฟ้าสนามบินดับไป ว่าให้ดับได้นานเท่าไร ไม่ควรเกินเท่าไร นั่นคือเหตุผลของการใช้งานของโคมไฟฟ้าสนามบิน ในการที่จะได้มองเห็นไฟทางวิ่ง ในการร่อนลงสนามบิน ซึ่งการมองเห็นโคมไฟฟ้าสนามบินได้ชัดเจนในระยะสูงที่ต่างกันไป เป็นตัวหลักที่จะก่อให้เกิดการปฏิบัติการบินที่แตกต่างกัน ภาษานักบินเรียกว่าความสูงในการตัดสินใจที่จะร่อนลงสนามบินต่อไป หรือ ปฏิเสธการร่อนลงในครั้งหนึ่งๆ เมื่อบินถึงระดับความสูงตัดสินใจ(Decision High)นักบินก็จะมองทางวิ่ง ถ้าเห็นไฟทางวิ่งชัดเจนตามรูปแบบสี และ/หรือเห็นการทาสีทำเครื่องหมายชัดเจนได้ว่า ที่มองเห็นคือทางวิ่งแล้วนั้น ก็จะบอกหอบังคับการบินว่า มองเห็นทางวิ่ง(Runway Insight) นั่นหมายถึงนักบินเห็นทางวิ่งและกำลังจะนำเครื่องร่อนลงสู่ทางวิ่งนั้นๆ หอฯช่วยดูให้หน่อยว่ามีอะไรเกะกะขวางทางวิ่งไหม หอฯก็จะตรวจทางวิ่งด้วยสายตา ถ้าไม่มีสิ่งในกีดขวาง ก็จะแนะนำนักบินว่า Clear to Land คือไม่มีอะไรกีดขวางสำหรับการร่อนลงสู่ทางวิ่ง ซึ่งถ้าหากเกิดไฟฟ้าสนามบินดับไป จะต้องมีค่าๆหนึ่งบอกนักบินก่อนเนิ่นๆว่า ไฟฟ้าสนามบินที่นี่ จะกลับมาใช้งานได้ติดสว่าง(50%) ใช้เวลาเท่าไร ซึ่งถ้ารู้ล่วงหน้า นักบินจะได้ดูว่า เครื่องอยู่ต่ำเกินไปไหม สูงพอที่จะรอไฟกลับมาติดใหม่ ของไฟทันไหมได้ครับ

ระบบไฟฟ้าสนามบินให้บริการเครื่ิองบินในเวลากลางคืน และเมื่อทัศนวิสัยไม่ดี

ในเอกสาร AIP มีการประกาศค่าระยะเวลาดังกล่าว ไว้ว่า เครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าสำรองของสนามบินนี้ จ่ายไฟให้หอบังคับการบิน และ ระบบไฟฟ้าสนามบินทั้งระบบ มีค่าการกลับมาติดใหม่หรือค่า Swich Over Time ได้ไม่เกิน 15 วินาที นั่นก้อหมายความว่า ผู้ควบคุมอากาศยานที่จะบินมาลง ณ สนามบินแห่งนี้ ทราบมาก่อนแล้วว่าหากกำลังร่อนลง เกิดไฟฟ้าสนามบินดับ ก็จะกลับมาติดสว่างได้ตามค่าระยะเวลาที่ประกาศ แบบนี้ทำให้ผู้ควบคุมอากาศยานทราบก่อนเนิ่นๆเลยที่เดียวว่าเขาบินสูงเท่าไหร อัตราการร่อนเท่าไร หากๆไฟฟ้าหลักดับแลัวจะกลับมาติดภายในกี่วินาที่ เพื่อจะได้ทราบว่าเราอยู่ต่ำมากไหม

ผลการจับเวลา หาค่าระยะเวลาการกลับมาติดใหม่กรณีไฟฟ้าหลักดับ ของโคมไฟฟ้าสนามบิน (Switch Over Time)

....ถ้าอย่างนั้นค่าระยะเวลาก็ต้องทำการตรวจสอบให้บ่อยครั้ง ตามที่จะทำให้มั่นใจได้ว่า สนามบินสามารถรักษาระดับของการบริการในจุดที่ได้ ตามค่าที่ประกาศไว้ได้ หรือถ้าทดสอบแล้วทำไม่ได้ตามค่าที่กำหนด เช่น ประกาศไว้ 12 วินาที แต่จากการทดสอบทำได้ 14 วินาที เมื่อนักบินร่อนลงสู่สนามบินจะเข้าใจว่าอีก 12 วินาที่ไฟสนามบินจะกลับมาติดสว่าง แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปนาน 12 วินาทีก็ยังไม่ติด รอไปจนถึงวินาทีที่ 14 ไฟสนามบินจึงได้ติดขึ้นแบบนี้ทำให้ผู้ควบคุมอากาศยานไม่ได้ตระเตรียมตัวทัน เพราะอากาศยานขณะกำลังร่อนลง ย่อมเสียความสูงลงเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องแบบนี้ ทำให้ขั้นตอนการปฏิบัติการบิน ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ตามข้อมูลที่ได้รับ ทำให้โอกาสเกิดความผิดพลาดต่างๆสูงได้ครับ

ฉนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะออกประกาศข้อมูลค่า Switch Over Time ใน AIP และการบำรุงรักษาระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าสนามบิน ให้ระดับของการให้บริการเป็นไปตาม มาตรฐานที่กำหนดตามมาตรฐานสากลนั้น เป็นสิ่งที่ต้องเข้มงวดในเรื่องนี้

การวัดค่าระยะเวลาให้เริ่มวัดตั้งแต่ การที่โคมไฟฟ้าสนามบิน ลดความสว่างลงครึ่งหนึ่งของความสว่างสูงสุด คือ ลดลง50% เรื่อยไปจนโคมไฟฟ้าสนามบินกลับมาติดใหม่ จนความสว่างเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง หรือ สว่าง 50% ของความสว่างเต็มที่  สาเหตุที่ต้องสังเกตุจากระดับความสว่างนั้นคือ ผู้ใช้งานหรือนักบิน จะมองเห็นโคมไฟเมื่อมีความสว่างสูงในระดับหนึ่ง คือประมาณ 50% นั่นเอง ไม่สามารถมองเห็นโคมไฟที่เริ่มติดสว่างน้อยๆได้ นี่เองเป็นเหตุให้ว่าทำไมจึงต้องเริ่มนับเวลาจากจุดนี้ หยุดเวลาในจุดนี้ ก็คือจุดที่สายตามองเห็นแสงไฟได้จริงครับ

หลายท่านสงสัยว่าการสังเกตุด้วยสายตา สังเกตอย่างไรว่า ความสว่างลดลง 50% หรือว่าเราจะเริ่มจับเวลาSwitch Over Time ตอนไหน? วิธีการสังเกตก็คือเมื่อโคมไฟเริ่มลดความสว่างลงอย่าเพิ่งจับเวลา ให้รอเวลานิดประมาณครึ่งวินาที หลอดไฟจะลดความสว่างลง และจะลดความสว่างจนใกล้ดับในเวลาประมาณ 1 วินาที (รับรู้ได้จากการสังเกตและปฏิบัติบ่อยๆ) อีกกรณี จะสังเกตุอย่างไรว่าหลอดไฟ ติดสว่างเพิ่มขึ้น 50% วิธีการคือ เมื่อหลอดไฟเริ่มติดขึ้นมาอย่าเพิ่งหยุดเวลา รอให้หลอดค่อยสว่างขึ้นมาสักครึ่งวินาทีแล้วหยุดเวลา มิใช่หยุดเวลาตอนหลอดมีระดับความสว่างที่สูงสุดหรือ 100% แล้ว ซึ่งถ้าหยุดเวลาไม่ทัน หลอดไฟสว่างเต็มที่แล้ว ก็ให้จดจำไว้ว่าเราหยุดจับเวลาช้าไป แล้วเปรียบเทียบตัวเลข ดูแนวโน้มว่า ค่าเวลาเราไปทางบวกไหม มากกว่าคนที่จับเวลาที่หยุดเวลาได้ทันไหม ถ้าแนวโน้มไปทาง + แสดงว่าค่าเวลาที่เพื่อนวัดได้นั้นเชื่อถือได้

...เมื่อกระแสไฟจากเครื่องจ่ายกระแสไฟ จ่ายไฟเข้าวงจรไฟฟ้าสนามบินนั้น ยังต้องใช้เวลามากกว่า 2-3 วินาที หลอดไฟฟ้าสนามบินทั้งหมดทุกโคม จึงจะสว่างจากความมืดขึ้นมาได้ 50%
...ในทางกลับกัน เมื่อตัดกระแสไฟโคมไฟฟ้าสนามบินทั้งหมดจึงยังติดสว่างอยู่อย่างน้อย2-3วินาที ดังนั้นหากในเวลา1วินาทีกระแสไฟกลับมาจ่ายให้ระบบการสังเกตุด้วยสายตาจะเห็นว่าโคมไฟยังสว่างต่อเนื่องอยู่นั้น ก็เพราะมีกระแสไฟยังคงค้างอยู่ในสายไฟเพราะความยาวของสายไฟมีความยาวมากกระแสไฟจึงยังคงค้างและมีกระแสไฟไหลอยู่ภายในในสายไฟนั่นเอง...

...การเปรียบเทียบสังเกตุแนวโน้ม หรือ Treand ของค่าเวลาที่เพิ่มขึ้น เพราะเราหยุดการจับเวลาช้าไป หรือหยุดเวลาขณะที่หลอดไฟสว่างเต็มที่แล้ว เราเรียกว่า ความตรง (Validity) หรือความถูกต้อง ประเภท ความตรงในเกณฑ์สัมพันธ์ (Criterion-Related Validity) ชนิด ความตรงตามทำนาย (Predictive Validity) ที่มีแนวโน้มเป็นไปในทางเดียวกัน แบบนี้ข้อมูลจากการวัดค่าของเพื่อนที่วัดได้ตรง หยุดเวลาได้ทันนั้น เป็นการสนับสนุนให้เชื่อถือได้ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับมาได้(Cross checked)

จากการสอบถามผู้ปฏิบัติงานหลายท่าน ยังเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ว่า การวัดค่าระยะเวลาดังกล่าว วัดตอนที่ไฟหลักดับจนถึงเมื่อสวิชท์ทำงานสับสวิชท์ไปให้ กระแสไฟจ่ายเข้าวงจร ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะว่าเมื่อกระแสไฟจากเครื่องจ่ายกระแสไฟ จ่ายไฟเข้าวงจรไฟฟ้าสนามบินนั้น ยังต้องใช้เวลามากกว่า 2-3 วินาที หลอดไฟฟ้าสนามบินทั้งหมดทุกโคม จึงจะสว่างจากความมืดขึ้นมาได้ 50% นั่นเอง ในกรณีนี้เมื่อสนามบินใดมีที่มีความยาวมาก มีจำนวนโคมไฟฟ้าสนามบินมากตาม เวลาต่างๆดังกล่าวก็จะมากตามไปด้วยครับ

ที่มาเรื่องความตรง(Validity): http://www.gotoknow.org/posts/13799 โดย พ่อ จอมขวัญ

หมายเลขบันทึก: 501370เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2012 10:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม 2020 15:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ระบบไฟฟ้าสนามบิน....ดีใจ... ลดความเสี่ยง (Reduce  Risk)

การปฎิบัติตามกฎระเบียบสากล ถือเป็นสิ่งจำเป็น ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ^@^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท