ทำวิจัย....ดีอย่างไร ??? (คำถามที่ยังรอคำตอบ)


ทำวิจัย....ดีอย่างไร ???
.
เป็นคำถามที่ตั้งไว้    เพื่อถามตนเอง    เผื่อจะพบคำตอบที่ถูกใจ  

ทำวิจัย....ดีอย่างไร ???
ดีต่อตนเอง
ดีต่อผู้อื่น
ดีต่อประเทศชาติ
ดี...จริงหรือ ??

มีวิธีอื่นๆ  บ้างมั๊ย   ที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ
มีวิธีอื่นๆ  บ้างมั๊ย   ที่แสดงถึงงานที่พัฒนาขึ้น    โดยไม่ต้องใช้การวิจัย

น่าจะมี.....แต่...เชื่อถือได้หรือไม่
แล้วใครเป็นคนบอกว่า  เชื่อถือได้หรือไม่ ??
คำสำคัญ (Tags): #คำถาม#วิจัย#r2r
หมายเลขบันทึก: 50017เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2006 07:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 13:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
ย้อนกลับไปดูเรื่อง ISO นะ
เราบันทึกอุณหภูมิตู้เย็นไปทำไม?
     เพื่อให้เรารู้ว่าอุณหภูมิภายในตู้เย็นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มีผลกระทบต่อของที่เก็บไว้ในตู้หรือไม่
แล้วไม่บันทึกอุณหภูมิได้มั้ย แค่เอามือแหย่ๆ ดูก็รู้แล้วว่าเย็นหรือเปล่า?
ถ้าเป็นตู้เย็นเก็บของกินก็คงได้ แต่ถ้าเป็นตู้เย็นที่เก็บของทำแล็บ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอาจมีผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำยาทดสอบได้ แล้วการเอามือแหย่ๆ ดู แม้ว่าจะบอกได้ว่าเย็นหรือเปล่า แต่ความไวในการบอกค่อนข้างต่ำมาก ในขณะที่การบันทึกอุณหภูมิตู้เย็นสามารถบอกการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ดีกว่า มันเหมือนเวลาที่ทำงานละเอียดแล้วเอา scale ที่หยาบไปเทียบ ก็คงบอกได้เพียงคร่าวๆเท่านั้น ถ้าถามว่าแน่ใจมั้ย สุดท้ายก็ต้องหาอะไรที่มันละเอียดกว่าไปเทียบอยู่ดี
แล้วอุณหภูมิที่มันมีอยู่แล้วในตู้เย็นบางเครื่อง ก็บันทึกจากนั้นเลยได้มั้ย ทำไมต้องเอาเทอร์โมมิเตอร์อันอื่นเข้าไปวัดใหม่ล่ะ เสียเวลา เสียทรัพยากรของชาติ?
ถ้าคุณทำกับข้าวกินเองแล้วคุณบอกว่าอร่อย จะมีคนเชื่อมั้ย เจ้าเทอร์โมมิเตอร์ที่ติดอยู่กับเครื่องมันก็อีหรอบเดียวกัน ดังนั้นในหลักการเขาจึงไม่เชื่อ display จากเครื่อง คุณจะต้องไปหาเจ้าเทอร์โมมิเตอร์อันใหม่ที่ผ่านการสอบเทียบแล้ว เข้าไปวัดดู เขาถึงจะเชื่อ แม้ว่าจะต้องจ่ายแพงขึ้น แต่ก็สร้างความมั่นใจได้เพิ่มขึ้น
ทำไมต้องไปบอกให้ชาวบ้านเชื่อด้วยล่ะ เราเชื่อของเราฝ่ายเดียวก็ได้แล้ว
นั่นแหละคือต้นเหตุของการที่คนไม่ทำวิจัย
เอ! แล้วพี่ตอบคำถามของหน่อยได้หรือเปล่า?

นั่นสิคะ...คุณ Mitochondria....เราเชื่อคนเดียวได้ไหม...ทำไมเราถึงได้มาคลั่ง...วิจัย...วิจัยเพื่ออยากให้ชาวบ้านเชื่อไปกับเรา...

....

แหม!!!....ถ้าเราอยู่คนเดียวโดยไม่ต้องไปสัมพันธ์กับใคร..ได้ก็คงดีนะคะ...แต่ความเป็นจริงก็ยัง..คงต้องสัมพันธ์ไม่มากก็น้อย...ยิ่งทุกวันนี้สัมพันธ์อะไร...ก็ต้องเป็นมาตรฐานไปหมด...ก็เลยต้องเอาสิ่งที่เป็นกลางที่สุดมายืนยัน...ต่อความคิดความเชื่อของเรา...

....

555....ไม่รู้ว่าตอบคำถามคุณ nidnoi หรือเปล่านะคะ...ไปตกผลึกก่อนเดี๋ยวมาใหม่นะคะ

วิจัยเป็นวิถี...

วิจัยอยู่คู่กับเราตั้งแต่เกิด เราก็มีกระบวนการวิจัยกันแล้ว

เราเคยสงสัย และเราก็ถาม เราปฏิบัติเพื่อเรียนรู้ ...อ้อ...นั่น!!! ได้คำตอบ  เป็นกระบวนการง่ายๆครับ

งานวิจัยเป็นยุทธศาสตร์ทางปัญญานั่นเอง

 อนาคตของเมืองไทย สังคมไทยขึ้นอยู่กับการเติบโตทางปัญญา หาใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ...

"วิจัย" จึงสำคัญ  เพราะวิชาการ ความรู้ แน่นและเป็นฐานในการพัฒนาพัฒนาประเทศ  

วิจัย เพื่อการอภิวัฒน์ทางปัญญา ๓ เรื่องครับ(หมอประเวศ)

  • ข้อมูลข่าวสาร
  • การสื่อสาร
  • กระบวนการเรียนรู้ที่ดี

วิจัย กับปัญญา ไปด้วยกัน

"นัตถิ ปัญญา สมาอาภา"

แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี 

                                  

...ให้สังคมสว่างไสวด้วยปัญญา ลบล้างอวิชชาที่มี..   

                              จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

                                   ๑๔ ก.ย. ๔๙
 

ดิฉันเคยสงสัยเหมือนnidnoiแต่พอไดทำวิจัยด้วยตนเองข้อสงสัยก็หมดไป

งานวิจัยเป็นยุทธศาสตร์ทางปัญญา

ขอบคุณ คุณจตุพรค่ะ

ทุกท่านตอบคำถามได้ดีค่ะ

เอาไปเลยเต็มสิบ....สรุปว่าเรา

ทำวิจัยเพื่อ...คุณภาพ  

ทำวิจัยเพื่อ...มาตรฐาน

ทำวิจัยเพื่อ...ให้เกิดปัญญา (รู้แจ้ง  เห็นจริง)

ถ้าอยากรู้ว่าทำวิจัยแล้วดีมั๊ย...ดียังไง  ต้องลงมือทำเอง

  • ลองเข้าไปอ่านงานคุณหมอประเวศ วะสีเรื่องการวิจัยนะครับ
  • www.prawase.com
  • ขอบคุณมากครับ เป็นห่วงทุกท่านที่หาดใหญ่ครับ
ขอบคุณค่ะ   จะตามไปอ่าน
  • วิจัย คือการสร้างความรู้ (ใหม่) ทุกคนทำกันอยู่บ้างแล้ว ในชีวิตจริง
  • วิจัยในมุมมองนี้ อาจคนละเป้าหมายกับการบ่งบอกความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ เพราะบางทีก็ไม่ได้สร้างความรู้ "เป็น" จริงๆ (อาจใช้มือปืน)
  • มุมมองของผม "วิจัย" คือส่วนหนึ่งของ KM ครับ

          ลปรร. ผมไม่ใช่ผู้รู้นะครับ

  • แวะมาทักทาย
  • ไม่ทราบเป็นอะไร
  • เขียนความเห็นไม่ได้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท