ตอนนี้เราเอาเรื่องมหกรรมจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่๓ มาปรึกษาหารือเข้มกันทุกสัปดาห์ ภาพของงานปรากฎชัดขึ้นเรื่อยๆ พบว่างานนี้จะมีคนเข้าร่วมทั้งหมด ๒,๐๐๐ คน แต่มีวิทยากรและคนจัด ๔๕๐ คน ดังนั้นเรารับลงทะเบียนผู้เข้าร่วมได้เพียง ๑,๕๕๐ คนเท่านั้น ไม่ใช่ ๒,๐๐๐ คน และเมื่อเต็มแล้วเราจะปิดรับ ไม่รับเพิ่มอีก เพราะเรากลัวงานจะไม่มีคุณภาพหากคนมากเกินไป
และเราจะไม่เปิดโอกาสให้นักโฉบเข้าไปบริเวณงานนะครับ นักโฉบคือคนที่ไม่ลงทะเบียน ไม่พูดจาติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น แต่พอถึงเวลางานก็ไป และบอกว่าขอเข้าดูนิทรรศการเท่านั้น เราจะไม่ให้เข้าเพราะจะไปรบกวนคนที่ลงทะเบียนเสียเงินเข้าร่วม ที่ต้องการได้รับบริการแบบคนไม่แน่นเกินไป ถ้านักโฉบเยอะ คนจะแน่นครับ
นอกจากนักโฉบ ยังมีนักเจี๊ยะ ทาง ไบเทค เขาบอกว่าเวลามีงาน ถ้าผู้จัดไม่ระวังให้ดี จะมีคนแถวนั้นอาศัยมาร่วมกินอาหารด้วย เราจะหาทางป้องกันสุดฤทธิ์เพื่อประโยชน์ของผู้ลงทะเบียนครับ
งานนี้เน้นเป็นเวที ลปรร. ไม่ใช่เน้นการบรรยาย จึงต้องขอระบุให้ชัด กันผิดหวังสำหรับผู้ต้องการเสพคำบรรยาย และห้อง ลปรร. มีถึง ๑๕ ห้อง ท่านจึงต้องวางแผนล่วงหน้าให้ดีว่าจะเข้าห้องไหนบ้าง เราขอแนะนำว่าอย่าเข้าประชุมนี้แบบโฉบไปโฉบมา ดูห้องนี้นิด ห้องนี้หน่อย จะได้ประโยชน์น้อย เพราะการทำความเข้าใจ KM ต้องดูดซับแบบละเมียดละไม มีสมาธิจดจ่อ สังเกตรายละเอียด โดยเฉพาะรายละเอียดเชิงบริบท
เราเร่งจัดกันสุดฝีมือครับ จะเป็นมหกรรมที่ต่างจากปีที่แล้วมาก เพราะปีนี้ประเทศไทยเรามีเรื่องราวการทำ KM ที่ก้าวหน้าไปมาก มีความหลากหลายของการทำ KM ซึ่งบางกลุ่มบางองค์กรก็ไม่รู้ตัวว่าทำ KM หรือทำแบบเนียนในเนื้องานจริงๆ สิ่งที่ท่านผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้จะเป็นความรู้ (เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ และเกี่ยวกับ KM) ที่ไม่มีในตำรา และไม่มีถ้าท่านเดินทางไปสิงคโปร์ไปร่วมประชุม KM 2 วันโดยมีค่าลงทะเบียน ๒๕,๐๐๐ บาท สิบเท่าของค่าลงทะเบียนของเรา
วิจารณ์ พานิช
๑๔ กย. ๔๙
ในห้องรอขึ้นเครื่องบินภายในประเทศ ดอนเมือง
ขอบคุณที่มาแจ้งครับ
ทำให้รู้ว่าโอกาสคนไปยิ่งน้อยลงไปอีก