ซี่รีย์ หมออนามัย ตอนที่ 7 (มือปืน)


ชลัญตบไหล่เขาเบาๆ แล้วบอกว่า อย่าฝืนความรู้สึกตัวเองเลย ถ้าชีวิตของชลัญนั้นมันมีค่ากับคนอื่นๆ รวมทั้งคุณที่จะทำให้ทุกคนหลุดพ้นจากวงชีวิตแบบนี้ ชลัญยินดี พ่อแม่ชลัญเขาคเสียใจไม่นานหรอก สักพักคงลืมได้ว่าเคยมีลูกคนนี้ ชลัญพร้อม หากชลัญมีบาปที่จะต้องชดใช้

               ตอนที่ 6 นี่ยังน้อยไปกับสิ่งที่เจอ ตอนนี้หนักกว่าแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  ชนิดที่ว่า เอ้าตายก็ตายว่ะ  มาถึงขนาดนี้ แล้ว   หลายคนอ่านมา คงนึกนินทาในใจ  ว่าโม้แหง! ใครจะมีประสบการณ์อะไรป่านนี้  กับชีวิตคนๆเดียวนี่  ขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน  กระโดดยันก็ได้เอ้า  จริง ค่ะ ก็คนประหลาดมักเจอเรื่องประหลาดๆ เสมอ

                จริงๆตอนนี้เคยเขียนเป็นเชิงเรื่องสั้นไว้  ถ้าหากใครเคยอ่าน แต่ไม่ได้เขียนต่อ เพราะรู้สึกว่า ภาษาของตัวเองไม่สวยพอ  จึงหยุดเขียนในตอนนั้น  ขอเอามาเล่าแบบสรุปในตอนนี้ก็แล้วกันค่ะ

                สำหรับมือปืนท่านนี้ปัจจุบันไม่ไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วแหล่ะ   แต่ที่นำมาเขียนเล่านี้คืออยากให้คนทุกคนเห็นมุมมองความรู้สึกของคนว่า  ในคนๆหนึ่งที่โหดร้ายฆ่าคนได้ด้วยอาชีพมือปืนนั้น  ยังมีมุมที่มีจิตใจที่อ่อนแอ อยู่อย่างไม่คาดคิด เหตุการณ์ที่เล่านี้มิได้กุเรื่องเพื่อให้ใครมาอ่านแล้วบอกว่าเจ็งว่ะ   เป็นไปได้อย่างไรที่คนธรรมดาอย่างหมออนามัยนี้จะต้องมีชีวิต ที่ต้องประสบกับมือปืน  ชลัญก็ใช้คำถามตัวเองแบบนี้เหมือกัน  มันเหมือนความฝัน ที่ผ่านมาได้นั้น อะไรช่วยชลัญไว้  ชลัญยังนีกไม่ออกเลย

                ชลัญยังจำได้ดีวันแรกที่รู้จักกับเขา  วันนั้นฉันนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ สถานีอนามัย อสม.ในหมู่บ้านมาขออนุญาตขาย  เพื่อให้บริการแก่ คนไข้ที่ มารับบริการที่ สถานีอนามัย  เพียงใจนั่งมองไปที่หลังสถานีอนามัย  ข้างๆ นั้น มีรถแบ็คโค กำลังขุดลอดสระ  มีผู้ชายผิวขาวรูปร่างท้วม  สูงประมาณ 175 ซม. กำลังยืนสั่งงาน  คิดว่าเขาเป็นหัวหน้า หรือไม่ก็คงเจ้าของกิจการ ฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อน  จริงๆรถมาขุดลอกหนองน้ำหลังสถานีอนามัยได้ประมาณ 3 วันแล้ว  ชาวบ้านบอกเป็นโครงการของอำเภอ  เห็นว่า หมู่บ้านเราขาดแหล่งน้ำเวลาน่าแล้ง  ก็เลยมีโครงการมา  สักพักหนึ่ง  ผู้ชายคนนั้น เดินตรงมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยว  ซึ่งระหว่างทางที่เดิน นั้นต้องผ่านมาทางหลังบ้านพักของฉัน 

         ใกล้ๆ หลังบ้านพักของฉันยายเคน  คุณยายบ้าน อยู่หน้สาถานีอนามัย  อายุแกประมาณ 70 กว่า ๆ แกเป็นคนขยัน  แกมักจะมาตัดกิ่งสะแกที่ขึ้นรกหลังอนามัย ชายคนคนนั้นเดินผ่านแล้วหยุดทักทายยายเคนและ ลงมือช่วยตัดกิ่งสะแกเพื่อไปทำฟืน  ฉันมองดูแอบนึกชื่นชมในใจ

   "ผู้ชายคนนี้ช่างมีจิตใจที่อ่อนโยนจริง เห็นคนแก่ก็อดที่จะช่วยไม่ได้ "

   สักครู่ใหญ่ยายเคนแกก็ได้ ฟืนเต็มรถเข็ญ โดยวันนี้แกไม่เหนื่อยเลยเพราะมีคนช่วยตัด สักพัก ก็มีรถบิ๊กอัพมาจอดที่สถานีอนามัย  มีผู้ชาย แต่งตัวด้วยชุดทำงานที่พร้อมในการทำงานกลางแจ้งลงมาจากรถ 5 คน  หนึ่งในนั้น น่าจะเป็นหัวหน้าทีม  ตะโกนทักทายชายคนนั้น

     " เอ้าเสี่ยใหญ่  กินอาหารกลางวันหรือยัง  โอ ทำตัวเป็นประโยชน์ นะนี่ "  และทั้ง5 คนก็เดินตรงมาที่ ร้านก๋วยเตี๋ยว

    ชายคนนั้นหันมายิ้มให้ทำให้ดวงตาที่ตี่ รี่เล็กลงไปอีกในแบบคนจีนแท้  และหันไปร่ำลายายเคนพร้อมกับเดินตรงมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยว 

    เขาเดินผ่านมาฉันหันมองหน้า เขาก็หันมาสบตายิ้มทักทายพร้อมกันโค้งศีรษะให้

    ชลัญยิ้มตอบ  จากนั้นมีผู้ป่วยมาที่สถานีอนามัยฉันจึงเดินขึ้นไปให้บริการผู้ป่วย

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นครั้งแรกที่ได้พบกันจากนั้นเขาก็มาเป็นขาประจำอนามัย มาทุกวันป้าโฮมแอบมากระซิบว่า เขาชอบชลัญ ซึ่งชลัญก็ได้แต่ขำๆ  ท่าจะชอบของแปลก  เหตุการณ์ที่ไดไปไหนมาไหนด้วยกันครั้งแรกคือ  มีเด็กชักมาที่ อนามัย  แล้วชลัญไม่มีรถที่จะพาไป รพ. เขา อาสาอย่างแข็งขัน  ที่จะช่วยพาไป  ประกอบกับชลัญมีภารกิจที่อำเภอ  รถมอเตอร์ไซด์ยางแตก  ก็เลยทำให้ต้องไปกับเสี่ยนี่  เด็กได้นอนรักษาที่ รพ.  ขากลับชลัญได้กลับกับเสี่ยนี่ตามลำพัง   นั่งรถมาได้สัก   10กม. บริเวณป่าสงวนที่ชลัญเคยประสบอุบัติเหตุ  เล่าไว้ในบันทึก อ. Was  http://www.gotoknow.org/blogs/posts/499954  เสี่ยนี่บอกขอเข้าไปดูลูกน้อง แป๊บ มีงานรับเหมาอีกที่  ชลัญก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร  อ้า....ไปก็ไปว่ะ  เข่าเลี้ยวรถเข้าไปในป่าสงวนนั้นทันที  ทางนี้ชลัญไม่เคยมา  ระหว่างทางที่ไปนั้นชลัญทำใจดีสู้เสือ ชวนคุยนี่นั่น  เสี่ยนั่งขำหัวเราะชอบใจ  สักพัก หนึ่งถามชลัญว่า นั่งรถ มากับผมแบบนี้ไม่กลัวหรือ 

              ชลัญตอบอย่างชัดเจน “กลัว  เป็นบ้าหรือใครไม่กลัว  นั่งรถมากับเสี่ยใหญ่ ชายฉกรรจ์ อย่างนี่”

                เสี่ยใหญ่  ต๊กใจ  อ้าวคุณกลัวแล้วทำไม่ไม่แสดงท่าทางอะไร 

                ชลัญบอก  แสดงแล้วมันจะทำให้ชลัญหายกลัวมั๊ย  แล้วคุณจะกลับไปส่งชลัญมั๊ย

                เสี่ยใหญ่ นั่งหัวเราะชอบใจ  ที่ชลัญรู้ทัน  ขับรถเข้าไปในป่าลึกมาก  สักพัก ออกพ้นป่าไป เป็นหมู่บ้านที่ชลัญเคยมา  แต่อยู่คนละตำบล  ชลัญจำทางได้แล้ว  แต่ไม่ได้พูดอะไร  ผ่านหมู่บ้านเข้าไปอีก  2 หมู่บ้านก็เห็นรถ แบ๊คโค กำลังขุดสระอยู่  รถเข้าไปไม่ถึง  เขาจอดรถเก๋งคันงามไว้แล้วให้ชลัญนั่งรอในรถ  จากนั้นเปิด ลิ้นชัก ที่มีแบงค์พันเป็นปึกๆ เหมือนจงใจให้เราเห็น  เขาหายไปสัก 15 นาทีกลีบมาพร้อมลูกน้องมายกมือไหว้ชลัญ ไม่แน่ใจว่าไปคุยอะไรกัน  ลูกน้องนั่นมาทัก  อ้าวเสี่ยวเปลี่ยนรสนิยมมีแฟนเป็นทอมเมื่อไหร่  เห็นทุกทีมีแต่นางงามทั้งนั้น  ชลัญล่ะปรี๊ดขึ้นสมอง  แต่ระงับอารมณ์เต็มที่ เสี่ยใหญ่ได้แต่หัวเราะชอบใจ

                จากนั้นเขาก็พาชลัญ กลับออกมาพอพ้นทางหมู่บ้านที่ชลัญคุ้น  เขาเตรียมเลี้ยวรถไปทางป่าอีกรอบ ใกล้มืดแล้ว ชลัญบอกไปว่า  “คุณใหญ่ค่ะ ไปทางนี้ดีกว่าอีกไม่เกิน 5 กม.จะถึงอนามัยชลัญแล้วค่ะ  แต่ถ้าอีกทางจะขัยอ้อมประมาณ 15 กม.ค่ะ”  เสี่ยใหญ่ หัวเราะแหย่ๆ  พึมพรำ “รู้ทันก็ไม่บอกแต่แรก” ไปถึงอนามัยชลัญประมาณ 6 โมงเย็น 

                จากนั้นเขาก็เป็นขาประจำที่อนามัยไปเรื่อยๆ  แสดงออกชัดเจนว่ามาจีบชลัญแน่นนอน  เจ้าป้อมเริ่มหายหน้า เพราะเห็นว่าเรามีแขกมาหาบ่อย ๆ   ชลัญก็ไม่ได้คิดอะไรอยากมาก็มา  ก็คุยบ้าบอไปตามประสา รู้จักกันได้สัก 3 เดือน   เริ่มคุ้นเคยมากขึ้น  บางครั้งเขาก็หายไปเป็นสัปดาห์  แล้วก็กลับมา 2-3 วัน แล้วก็หายไปอีก ด้วยชลัญไม่คิดอะไร  จึงไม่สนใจว่าจะไปไหนมาไหน  คิดแต่ว่าอยากไปก็ไป อยากมาก็มา 

                ละแล้วก็ถึงวันที่ความลับของมือปืนถูกเปิดเผย  ครั้งนั้น ชลัญเรียน มสธ.ต่อ  ต้องไปสอบที่จังหวัด  ปกติชลัญจะไปกับเพื่อน  แต่ครั้งนั้นเพื่อนชลัญไม่มีสอบ  จึงมีเพียงชลัญคนเดียว  เขาก็เลย อาสาพามาสอบที่จังหวัด  ระหว่าที่นั่งรถมา  เขาถามชลัญว่า

                “คุณรู้มั๊ยว่าผมเป็นใคร”

                ชลัญตอบ  “อ้าวก็รู้เท่าที่คุณบอก คุณไม่เล่า  แล้ฉันจะรู้ได้อย่างไร”

                เสี่ยใหญ่ ตอบ “ ผมอยากรุ้ว่าถ้าผมบอกคุณ  แล้วผู้หญิงอย่างคุณจะทำอย่างไร “

                ชลัญก็งง งง  แต่ก็ไม่ว่าอะไร  เขาพูดขึ้นมาว่า “ผมเป็นมือปืน”

                ชลัญได้ยินประโยคนี้ แล้วรู้สึกเสียววูบในใจ  อะไรกันนี่ เหตุอย่างนี้มาเกิดอะไรกับเรานี่  แต่ชลัญก็พยักหน้า “อืมมม์”  เสี่ยใหญ่ ยิ่งตกใจ  “คุณไม่ตกใจเหรอว่า ผมเป็นมือปืน” 

                ชลัญตอบ ตกใจ  เขายิ่งงง  ตกใจแล้วทำไมนั่งเฉยๆ  ชลัญก็ตอบไปว่า “แล้วจะให้ฉันทำอย่างไร  กรี๊ดกราด  โวยวาย กลัว  กระโดดลงรถ   ทำไม่ได้สักอย่าง ก็ทำได้เท่านี้นั่งฟังเฉยๆ”  เขาอึ้งมาก  ที่ชลัญไม่แสดงอาการอะไรเลย  จากนั้นมาเขาก็เริ่มเล่า ทุกเรื่อง ตั้งแต่ที่หายไปฆ่าคนมา  แต่ไม่ได้บอกว่าฆ่าใคร  วิธีการฆ่ามีอะไรบ้าง  ใครบ้างที่เขาไม่แตะต้องแม้จะมีเงินมาจ้างมากมาย   อย่างอื่นนอกจากมือปืนคือ  การค้ายาเสพติด  แต่เขาไม่ได้เล่ารายละเอียด ว่าไปเอามาจากไหน ลักลอบมาอย่างไร  ซึ่งชลัญเองก็ไม่สนใจฟัง  แต่ที่ชลัญจับประเด็นได้คือ  เหมือเข่ชาสบายใจที่สุดที่ได้คุยกับชลัญ  เหมือนการมาสารภาพบาปหน้าพระเจ้า 

                แต่ความอึดอัดใจมันอยู่ที่ชลัญแล้วที่ต้องกุมความลับเขาไว้ตลอด  ชลัญรู้สึกว่า  เขาเป็นคนไข้ คนหนึ่งของชลัญที่ต้องบำบัดทางจิต เขามีความสุขที่มาคุยมาหา  ชลัญ  แต่ชลัยรู้สึกทุกข์ ว่าจะออกจากเขาได้อย่างไร  มันชีวิตคนละทางกันกับเรา  รู้จักกันมา 6 เดือนทุกสิ่งอย่างมันยิ่งมัดตัวชลัญแน่น  กลืนไม่เข้าคายไม่ออก  จนกระทั่งชลัญย้าย  เขาก็ตามมาอีก ครั้งนี้เขาตัดสินใจพูดในสิ่งที่ชลัญไม่อยากฟัง  แต่มันก็มาถึงจนได้

                เขาบอกเขารักชลัญมาก  ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้  ผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเขา  ต้องการแค่เงินทองความสะดวกสบาย  เขาต้องซื้อรถซื้อบ้านให้ทุกคน  แต่เรา ไม่เคยแม้จะเอาเงินเขาสักบาท  ทั้งที่เปิดให้ดูต่อหน้า  เขาเล่าว่าเคยทำอย่างนี้กับผู้หญิงทุกคนที่นั่งรถไปด้วยคือเปิดเงินให้ดูแล้วลงรถไป  ทุกครั้งที่เขา  check เงิน เงินจะหายไปบางส่วน  แต่เปิดให้ชลัญดูเงินไม่หาย  เขายอมรับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  ครั้งนี้เขามาบอกรักชลัญ  ละชลัญก็ตัดสินใจพูดในสิ่งที่บอกไปแล้ว นั่นหมายถึงอาจจะไม่มีโอกาส  ได้ กลับมาเห็นหน้าพ่อแม่อีก 

                เขามาขอชลัญแต่งงาน และจะออกจากวงการมือปืน  ยาเสพติด  ซึ่งเท่ากับว่าเขาต้องทำตัวสาบสูญชลัญก็ต้องสาบสูญไปด้วย  ชลัญตัดสินใจพูดกับเขาตรงๆ ว่า

                “ ฉันไม่ได้รักคุณ  ที่ดีกับคุณเพราะเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะมีอาชีพอะไร ฉันคิดได้เพียงว่าเพื่อน  สิ่งที่คุณทำผิดกฎหมายนั้นมันไม่ใช่หน้าที่ที่ฉันจะจัดการกับคุณ  แต่ฉันเห็นคุณเป็นเพื่อน  ถึงได้ พุดคุยให้ความช่วยเหลือ  แต่มันไม่ใช่ความรัก”

                เท่านั้นแหล่ะเสี่ยใหญ่ เปลี่ยนสีหน้าทันที  ชลัญรู้ว่าเขาโกธรมาก ขอตัวกลับ พอเย็นๆ เข้ามาใหม่ สีหน้าปกติ แต่ชลัญรู้ว่านี่แหล่คือวาระสุดท้ายของหมออนามัยอย่างชลัญที่จะได้อยู่ บนโลกนี้  เขาบอกชลัญว่า ให้ไปเป็นเพื่อนดูงานอีกที่หนึ่งหน่อย  เขาไม่คุ้นทาง  ชลัญรึจะเชื่อ แต่ก็จำเป็นต้องไป  เพราะถึงไม่ยอมไปเขาก็คงใช้มาตรการมือปืนอยู่ดี คือการฉุด 

                เป็นดั่งชลัญคาด  เขาขับรถพาชลัญออกไปอีกทางที่นอกอำเภอนั้นแล้ว ชลัญพูดอะไร  บอกเขาว่าทางนี้ผ่านบ้าน  ขอแวะบ้านไปทำธุระแป๊บหนึ่งได้มั๊ย  ในใจของชลัญคือต้องการไปลาพ่อแม่พี่น้องเพื่อไม่ให้มีใครต้องเดือดร้อนในเรื่องนี้  ถ้าชลัญจะสาบสูญไป  จะได้กอด พ่อแม่ครั้งสุดท้าย   เขาพาแวะไปบ้าน ชลัญไม่พูดอะไรมาก กอดพ่อแม่ พี่น้อง  ทุกคนคงสงสัยแต่ไม่ได้ถามอะไร

                นั่งรถมาไกลมาก   จนจะออกนอกจังหวัดแล้ว  เงียบตลอด

                แล้วเขาก็เริ่มพูด   “ คุณจะไม่ถามหรือว่าผมจะพาคุณไปไหน “

                ชลัญ “ถามแล้ว ได้อะไร ในเมื่อคำตอบก็รู้อยู่ว่าฉันคงไม่มีโอกาสกลับ “

เขาทำหน้าสงสัย แล้วทำไมยอมมากับผม

ชลัญตอบ ถ้าไม่ยอมคุณจะปล่อยฉันงั้นหรือ

เขาตอบใช่ไม่ปล่อย   แล้วไม่กลัวหรือไง  ไม่มีผู้หญิงหน้าไหนกล้าพูดกับผมแบบนี้  คุณกล้ามาก

ชลัญบอก  กลัวแล้วทำอะไรได้ ในเมื่อมิตรภาพที่ชลัญให้แต่คุณคิดได้ แค่นี้ชลัญก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร  แล้วแต่ใจคุณก็แล้วกัน 

เขามองหน้าชลัญ จากนั้น ขับรถจอดข้างทาง  ทุบแต่เสียงดังลั่น ชลัญยังนั่งเฉย 

เขาปลุ๊บตัวลงที่พวงมาลัยรถ  ร้องไห้ ทำไมคุณต้องเป็นคนดีมากขนาดนี้ด้วย  ชลัญตบไหล่เขาเบาๆ   แล้วบอกว่า  อย่าฝืนความรู้สึกตัวเองเลย  ถ้าชีวิตของชลัญนั้นมันมีค่ากับคนอื่นๆ  รวมทั้งคุณที่จะทำให้ทุกคนหลุดพ้นจากวงชีวิตแบบนี้ ชลัญยินดี  พ่อแม่ชลัญเขาคเสียใจไม่นานหรอก สักพักคงลืมได้ว่าเคยมีลูกคนนี้   ชลัญพร้อม หากชลัญมีบาปที่จะต้องชดใช้ 

                เขาฟลุ๊บอยู่อย่างนั้นสักครู่ แล้วลุกขึ้นมา  สตาร์ทรถ แล้วเลี้ยวรถกลับ  ทางเดิม ชลัญถามเขาว่า “คุณจะพาฉันไปไหน “

                เขาบอก เขายอมแพ้ความดี  ที่ได้รับจากชลัญ ไม่อาจทำสิ่งที่ตัวเองจะรู้สึกผิดมากกว่านี้ได้  ฆ่าคนเขายังไม่รู้สึกผิดเท่า   เขาก็เลยตัดสินใจปล่อยให้ชลัญเป็นอิสระ 

                ด้วยนิสัยขี้เล่นของชลัญก็อดแซวไม่ได้ ว่า

                “ว้า  อดขึ้นหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง  ว่า หมออนามัยถูกฆ่าข่มขืน  แต่ไอ้ที่เสียดายนี่  ไม่ถูกข่มขืน อิ อิ”

ทำให้เสี่ยใหญ่ หัวเราะออกมาได้  เขามาส่งชลัญที่ทำงาน  แล้วก็มาหาบ้างอยู่อีกประมาณ  1 เดือน จากนั้นชลัญก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย  ทราบข่าวอีกครั้ง  เขาไม่มีชีวิตอยู่แล้ว 

 

นี่เป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตบันทึกนี้ยาวมากแต่ไม่ได้รายละเอียดทั้งหมดที่ชลัญเจอ  ก็ขอเล่าคร่าวๆ  ไว้แค่นี้ แต่ตอนนี้ชลัญรอดแล้ว  เฮ้ย 

               

 ชลัญธร  ตรียมณีรัตน์

 

หมายเลขบันทึก: 500143เขียนเมื่อ 26 สิงหาคม 2012 14:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม 2012 18:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

- เฮ้อ... อยากอ่านต่อจังครับ...

ชยพร   แอคะรัจน์

ขอบคุณค่ะอาจารย์มาเม้นท์คนแรกเลย ชลัญเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เป็น 10กว่า ปี จนทราบข่าวว่าเขาเสียชีวิตถึงกล้าเล่าให้คนอื่นฟัง ทุกคนใจหายกันหมดที่รู้เรื่องน่ากลัวมากค่ะ ตอนที่เขาหายไปชลัญยังหลอนๆ เลยว่า วันดีคืนดีโพล่มาชลัญจะทำอย่างไรดี

หมออนามัยกับลูกจ้างประจำกระทรวสาธารณสุข ทำงานคู้ขนานมาอย่างยาวนาน

แต่ลูกจ้างไม่มีโอกาสก้าวหน้าทางวิชาชีพ

ยิ่งตอนนี้ เหลือลูกจ้างประจำของสาสุขอยู่เพียง สองหมื่นกว่าคน แล้วจะหมดไป ในไม่ช้าคงปิดตำนานลูกจ้างประจำกระทรวงสาสธารณสุข ฝากท่านพยาบาล ช่วยแจ้งข่าว ติดตามข่าวคราวลูกจ้าง ในการปรับเงินเดือนในอัตราใหม่ให้ลูกจ้างรพ.ท่านรับทราบด้วยจะเป็นพระคุณ(เรียนสมาชิกลูกจ้างประจำ เรื่องการปลับอัตราค่าจ้างลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ฉบับใหม่ล่าสุด ที่ กค 0428/ว73 ลว.19 กค.55สามารถเข้าไปดาวโหลดได้เลย)

เกือบไม่ได้รู้จักกันแล้วนะครับ

คนดีตกน้ำไม่ใหล..ตกไฟไม่ไหม้...บุญรักษาค่ะ

A captivating short story. In the end 'death' takes all. ;-)

  • ขำตรงนี้
  •  หมออนามัยถูกฆ่าข่มขืน  แต่ไอ้ที่เสียดายนี่  ไม่ถูกข่มขืน อิ อิ”
  • ปล่อยให้คุณโจรเขาพิจารณาเอง
  • 555
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท