เพราะฉะนั้น...ฉันจึงเขียน


A dream you dream alone is only a dream, a dream you dream together is reality - ฝันที่ฝันคนเดียวคือความฝัน ฝันที่เราฝันด้วยกันคือความจริง - John Lennon

สองปีพอดีที่ข้าพเจ้าได้สมัครมาเป็นสมาชิกของสังคมออนไลน์แห่งนี้จากการแนะนำของพี่อาจารย์ที่เคารพนับถือท่านหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกในที่นี้มาก่อน

เหตุผลแรกที่มาสมัครก็เพียงเพื่อจะได้ติดตามอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในแผ่นดินแม่บ้าง และตั้งใจจะแบ่งปันความสวยงามตามธรรมชาติ ความรู้สึกดีดีผ่านเลนส์ ผ่านมุมมองและผ่านวิถีความเป็นอยู่จากเมืองเล็กๆ แห่งนี้กลับไปบ้าน

ในตอนแรกก็ไม่ค่อยได้เขียนบันทึกมากเท่าไหร่ อ่านเขียนบ้างเท่าที่โอกาสอำนวยตามนิสัยส่วนตัวที่ชอบอยู่ในมุมเงียบๆ ของตัวเองและรู้สึกผ่อนคลายกับคนที่คุ้นเคยมากกว่าจะออกไปสุงสิงกับคนที่ไม่รู้จักมากนัก  แต่ทุกครั้งที่เข้ามาอ่านมาเขียนก็ให้รู้สึกอุ่นใจในการต้อนรับของสมาชิกที่นี่ และยังประทับใจการพูดจาปราศรัยกันด้วยความรู้สึกของมิตรไมตรีซึ่งเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของชุมชนนี้

เพียงระยะเวลาสั้นๆ ข้าพเจ้าก็เริ่มรู้สึก 'เชื่อง' กับสังคมนี้คล้ายๆ กับสุนัขจิ้งจอกที่ทำตัวเองให้คุ้นเคยกับเจ้าชายน้อย

การเขียนบันทึกได้ช่วยรื้อฟื้นความทรงจำถึงความฝันหนึ่งที่เคยมีตั้งแต่เด็ก คือความใฝ่ฝันที่อยากทำงานกับตัวหนังสือ แต่ข้าพเจ้าได้เก็บความฝันนั้นใส่ลิ้นชักปิดกุญแจแน่นหนาจนลืมไปแล้วว่าเคยฝันไว้เช่นนั้น การได้กลับมาอ่านมาเขียนอีกครั้งในที่นี้เปรียบเสมือนการนำเอาความฝันนั้นออกมาปัดฝุ่นใหม่ (สำนวนคุณวินทร์ เลียววาริณ)

แม้การเขียนในที่นี้จะไม่ได้เงินเดือนเหมือนการเขียนรายงานส่งเจ้านาย แต่การเขียนใน gotoknow ให้ความสุขในการเขียนอย่างยิ่งยวด ฝัน..แม้จะเล็กน้อยแค่ไหน แต่หากฝันนั้นถูกเติมเต็ม...ความสุขยิ่งใหญ่ก็ถาโถมเข้ามา ยิ่งไปกว่านั้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และความคิดเห็นที่ได้รับในแต่ละบันทึกทำให้ฝันนั้นยิ่งดูเป็นจริงมากขึ้น คล้ายๆ ดังที่ John Lennon พูดเอาไว้ว่า A dream you dream alone is only a dream, a dream you dream together is reality - ฝันที่ฝันคนเดียวคือความฝัน ฝันที่เราฝันด้วยกันคือความจริง

...

...

การหัดคิดหัดเขียนช่วยกระตุ้นการทดลองใช้สมองซีกขวากับซีกซ้ายให้ทำงานร่วมกัน การเขียน การตอบข้อคิดเห็นทำให้ข้าพเจ้าเริ่มเห็นความรู้สึกนึกคิด เห็นตนที่ชัดจนของตัวเองมากขึ้นเมื่อมองผ่าน 5-me* ที่โผล่ออกมาให้เห็นเป็นกันชนระหว่างตัวเองกับเรื่องราวในบันทึกต่างๆ

me 1 - บางบันทึกที่ได้อ่านแล้วจี้จุดใจดำของตัวเอง ทำให้เกิดอาการปฏิเสธขึ้นมาทันใด - not me (ไม่ใช่ฉัน) คงเป็นคนอื่นที่ทำเช่นนั้น เกิดการตำหนิขึ้นมาในใจ ทำให้ต้องหยุดอ่านและถามตัวเองว่าจะตั้งด่านให้ใจตัวเองไปทำไม ยอมรับและเปลี่ยนที่ตัวเองไม่ดีกว่าการตำหนิคนอื่นหรอกหรือ?

me 2 - บางบันทึกที่ได้อ่านแล้วรู้สึกไม่ดีเพราะคล้ายกับการกระทำของตัวเอง รู้แต่ไม่ทำแต่ก็พยายามให้เหตุผลเพื่อแก้ตัว - me...but (ฉัน...แต่) พอถึงตอนนี้บางส่วนลึกๆ ก็จะตะโกนออกมาว่าก็ไหนบอกจะพัฒนาแล้วทำไมต้องแก้ตัว, just do it (ทำทันที) ไม่ดีกว่าหรือ?

me 3 - บางบันทึก และบางข้อคิดเห็นเขียนเสร็จแล้วรู้สึกดีกับตัวเองจนเกินเหตุ สำคัญตนเองมากมาย - only me (ฉัน...เท่านั้น) เลยต้องดึงตัวเองกลับมาในโลกแห่งความเป็นจริงและบอกกับตัวเองว่าทุกคำที่เขียนเรียนรู้มาจากคนอื่นทั้งหมด พระธรรมคำสอน ครูบาอาจารย์ หนังสือหนังหา ไม่ค่อยมีอันไหนที่คิดเองหรอก ชื่นชมตัวท่านผู้รู้ทั้งหลายจะดีกว่านะ?

me 4 - บางบันทึกเขียนเสร็จแล้วรู้สึกสงสารสังเวชชะตากรรมของตัวเองเหลือเกิน - pity me (ฉัน..ผู้น่าสงสาร) แต่คงไม่มีอะไรดีขึ้นหากมัวแต่จมอยู่กับความรู้สึกนั้น

me 5 - บางบันทึกเขียนเสร็จแล้วรู้สึกผิดต่อตัวเองเหลือเกิน - bad me (ฉัน..มันคนไม่ดี) อีกเสียงหนึ่งก็จะกระซิบออกมาว่าก็มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่จะเปลี่ยนตัวเองได้

แม้จะไม่สามารถเปลียนตัวเองให้เป็น 'ฉัน' ในอุดมคติได้ในทันใด แต่การแลกเปลี่ยนในที่นี้ช่วยให้เกิดความรู้ตัวขึ้นมาได้บ้าง (awareness)

..

..

หลังจากที่มองผ่านตัวเองไปแล้ว การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ช่วยให้ได้รู้สึกดีกับคนอื่นและสุขใจอย่างยิ่งที่ได้รู้ว่าบันทึกของข้าพเจ้าได้ช่วยแต่งเติมรอยยิ้มและกำลังใจให้คนอื่นบ้าง และโลกก็ยิ่งสวยงามขึ้นเมื่อข้าพเจ้ามองเห็นสิ่งอื่นที่นอกเหนือไปจากตัวเอง

เสน่ห์ของการเขียนบันทึกคือความมีอิสระในการเขียน จะเขียนเรื่องใดก็ได้ หัวข้อใดก็แล้วแต่ความสนใจ เขียนเพื่อตัวเอง เขียนเพื่อคนที่เรารัก เขียนเพื่อองค์กร เขียนเพื่อสรรพสิ่งที่เราชอบ เมื่อเปิดหน้าแรกของ gotoknow ที่รวมเรื่องราวที่คนเขียน หน้านี้จึงสวยงามที่สุดเพราะหน้าแรกบ่งบอกถึงเสรีภาพและการรวมตัวกันอย่างสันติแล้วก่อเกิดเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้-เยียวยาร่วมกัน

.

.

จากที่เขียนมาข้าพเจ้าคงสามารถให้คำตอบกับคำถามของท่านอาจารย์จันทวรรณได้เพียงสองข้อแรก ส่วนข้อที่สามเกินนั้นกำลังของข้าพเจ้าค่ะ...

1) ท่านคิดว่าท่านได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากการร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใน GotoKnow

ข่าวสารความเป็นไป มิตรภาพอันงดงาม การค้นพบความสุขในความฝันที่ถูกเติมเต็ม และที่สำคัญได้พยายามรู้จักตัวเองมากขึ้นเพื่อนำไปสู่การละลายตัวเองและหล่อหลอมตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม

การรู้จักคนอื่นถือเป็นความรู้ การรู้จักตัวเองจึงเป็นการรู้แจ้งแห่งปัญญา เล่าจื๊อกล่าวไว้เช่นนั้น

.

2) ท่านคิดว่าการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานจะทำให้ยั่งยืนได้อย่างไร

ความเป็นอิสระในการถ่ายทอดและเรียนรู้ด้วยความสุขและมิตรไมตรีที่มีให้กัน

เสน่ห์หนึ่งของนกคือการบิน เพราะการบินนี้เองที่เราไม่รู้ว่าจะได้เจอนกตัวนั้นอีกหรือไม่ ความเป็นนกนั้นจึงงดงาม

.

สุดท้ายต้องขอขอบคุณ gotoknow ที่อนุเคราะห์พื้นที่ในการเขียนอ่าน ให้ข้าพเจ้าได้รับมิตรภาพ อิสรภาพและความสุขอันงดงาม ตลอดจนให้ช่องว่างให้ข้าพเจ้าได้พยายามรู้จักตัวเองให้มากขึ้น

ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านสำหรับมิตรไมตรี และข้าพเจ้าคงไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนได้นอกจากบันทึกทุกบันทึกที่ข้าพเจ้าตั้งใจเขียนจากความสุขความรู้สึกดีที่หวังจะส่งผ่านรอยยิ้มเล็กๆ ให้กัลยาณมิตรได้บ้างค่ะ

.

ปล. บันทึกนี้ยาวหน่อยค่ะเพราะตั้งใจมาแจมช่วยเพิ่ม “ปริมาณ” ให้ท่านอาจารย์จัน นะคะ :)

ขอบคุณค่ะ

 

* 5-me - Concept from Self Observation by Red Hawk

...

...

Michael Nyman - The Heart Asks Pleasure First

http://www.youtube.com/watch?v=u83xIXliIXY&feature=related

 

คำสำคัญ (Tags): #gotoknow
หมายเลขบันทึก: 497529เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2012 16:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม 2012 11:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (36)

*มีความรู้สึกดีๆที่G2K เช่นเดียวกับน้องปริมค่ะ

  • ขอบคุณบันทึกและภาพงดงามของธรรมชาติ และข้อคิดดีๆที่นำมาแบ่งปันกัน รวมทั้งไมตรีจิตที่แวะไปเยี่ยมเยียนที่บันทึกสม่ำเสมอค่ะ

สักพักหนึ่งข้าพเจ้าก็เริ่มรู้สึก'เชื่อง' กับสังคมนี้คล้ายๆ กับสุนัขจิ้งจอกที่ทำตัวเองให้คุ้นเคยกับเจ้าชายน้อย

สำหรับผมเหมือนคนป่าที่หลงเข้ามาสู่เมือง และได้แต่แอบดีใจที่ได้รับเมตตาจากเมืองหยิบยื่นไมตรีแห่งกัลยาณมิตรลงมาให้...

     ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่มีมาแบ่งปัน...ช่วยส่งผ่านให้มุมมองเปิดกว้างขึ้น

                                  ขอบคุณมากครับ

คุณปริมครับ คิดและเขียนอย่างมีสติ อ่อนน้อมถ่อมตนมาก อ่านเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย แทรกข้อคิดปรัชญาที่หาอ่านได้ยาก ความคิดคำคมลึกซึ้ง ที่นักเรียนนักศึกษาน่าจะนำไปใช้เป็นแบบอย่าง โกทูโน มีคุณค่าและมีเสน่ห์ที่มีสมาชิกที่เป็นมืออาชีพอย่างคุณปริม ครับผม

ขอเห็นด้วยกับท่านชยันต์ค่ะ

เขียนหนังสือเหมือนภาพวาดศิลปะเลยนะคะ มีความงดงามอ่อนช้อนละมุนละไมและใส่ใจในรายละเอียดความหมาย ทำให้ผู้อ่านได้แง่คิดมากมายและไตร่ตรองใคร่ครวญไปด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

้น้องปริมค่ะ...เพียงสองปีนะค่ะ พี่นึกว่าจะกว่าาาา..นี้ค่ะ แหม..อยากร้องเพลงนี้ขึ้นมาทันทีเลย...เคยได้ยินไหม๊เอ่ย??? ถูกตา ต้องใจ ต้องมนต์ของใครคนหนึ่ง..(intro..) .มนต์นั้นก็คงเป็น การได้อ่านข้อเขียนของน้องปริมนี่หล่ะค่ะ ที่ช่วยสอนพี่มากมาย ทั้งสไตล์และสาระ อืมม์..เยี่ยมค่ะ...สองปี..กับความฝันที่ไปด้วยกัน (ร่วมกับกัลยาณมิตรที่ Go to Know) เป็นจริงนะค่ะ... อย่างกะที่จอห์น เลนนอนว่าไว้เลยค๊า :-))

  • การเขียนช่วยให้ความคิดมีทางออก และ G2K ก็เป็นพื้นที่ที่มีเสรีภาพให้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดเป็นตัวอักษร และเป็นพื้นที่ที่ก่อให้เกิดมิตรภาพ
  • ทุกงานเขียนสะท้อนตัวตนและคุณค่าที่แท้ทางความคิด
  • การเขียนส่อให้เห็นถึงรสนิยมในการอ่าน และการใช้ชีวิต
  • น้องปริมมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์(ที่น่าชื่นชม) ครับ

ขอขอบคุณนะคะคุณปริมที่เขียนเรื่องราวดีๆผ่านทางนี้ให้ได้อ่าน ทำให้คนที่มีโลกแคบๆเล็กๆอย่างยายหนูแจ๋วที่อยู่แต่ในครัวได้เห็นโลกกว้างจากเมืองสิงโต และแนวคิดที่ดีๆ แม้บางทีอ่านแล้วสมองรับได้เข้าไม่ถึงก็ขอบคุณที่เขียนได้ศึกษาเรียนรู้ ขอบคุณค่ะ

แทนคำขอบคุณอีกนิด ด้วย ...

อาจารย์ได้ใช้ Gotoknow เพื่อ "เจริญสติ" ใช่ไหมครับ ;)...

สติที่เจริญแล้ว ย่อมนำมาสู่การรู้จักตัวเองที่แท้จริง ;)...

สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่

ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจ แรงบันดาลใจ และข้อคิดดีดีที่พี่ใหญ่นำมาฝากปริมและกัลยาณมิตรที่นี่เสมอเช่นกันนะคะ

ฝันดีค่ะคืนนี้

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพิชัย

คุณพิชัยทำให้ปริมนึกถึงคำพูดที่ว่า country bumpkin คนบ้านนอกเข้าเมืองที่ปริมโดนแซวเป็นประจำที่ต้องเข้าเมืองวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ ปกติไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ชอบไปเดินป่ามากกว่า แต่หากเลี่ยงไม่ได้ก็จะโดนแซวค่ะ

แต่ชุมชนที่นี่เอื้ออาทรกันดีมากค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ ฝันดีค่ะ

สวัสดีค่ะคุณจัตุเศรษฐธรรม,

ขอบคุณมากมาย่นกันสำหรับบทความดีดี ข้อคิดดีดีที่คุณนำมาแบ่งปันค่ะ บางเรื่องระดับสติปัญญาของปริมยังไปไม่ถึงแต่ก็พยายามที่จะศึกษาค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

ฝันดีค่ะ

ได้ยินเพลงโปรด แวะมาบอกก่อนอ่านว่า ถูกใจเพลงมากมายค่ะ เดี๋ยวอ่านแล้วคุยอีกที :-)

จำได้ว่า ตามอ่านบันทึกของน้องปริมตั้งแต่มาเป็นสมาชิกใหม่ ๆ ใช้ชื่อภาษาปะกิด เรานั่งอ่านออกเสียงและนั่งคิดว่า ออกเสียงถูกหรือเปล่าหนอ พิ-ริ-มาด

ชอบสไตล์การเขียน และชื่นชมในความเพียร มีความอุตสาหะ เลือกภาพสวย เพลงไพเราะแบบสงบ ยังจำบันทึกที่บันทึกเสียงนกร้องยามเย็นมาใส่ พี่ต้องวานลูกชายให้มาเซฟให้แม่ฟังยามเข้านอน

ทุกวันนี้ก็ยังหวนกลับไปฟัง เมื่อกลับเมืองไทยน่ะค่ะ ลูกบันทึกไว้ในคอมพ์ที่บ้าน

 

นี่ก็ลุ้น(จริง ๆ ไม่ต้องลุ้น)ว่า ช่อดอกไม้คงมีโอกาสไปเที่ยวเมืองสิงห์โตแน่ ๆ :-)

เขียนเยอะๆ นะคะ รอและตามอ่านอยู่ค่ะ

  • เล็กน้อยแต่งดงามครับ
  • เยี่ยมมากๆครับ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ชยันต์,

ขอบคุณมากค่ะสำหรับห่อหมกใบยออร่อยๆ นะคะ ;)

อ่านข้อคิดเห็นของท่านอาจารย์แล้วปริมต้องย้อนกลับไปอ่าน me 3 ข้างบนค่ะ

ขอบคุณมิตรไมตรีและคำชมจากท่านอาจารย์ค่ะ

มีความสุขในการทำงานวันนี้ค่ะ ;)

สวัสดีค่ะคุณ krutoom,

แหม...อยากทำตัวเหมือนดินที่ไม่หวั่นไหวต่อคำชมค่ะ แต่ยิ้มและปลื้มไปแล้ว คิดไม่ทันค่ะทำไงดี

ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจดีดีที่มีให้คนบ้านเดียวกันค่ะ ;)

สุขสันต์บ่ายวันพุธนะคะ

สวัสดีค่ะคุณศิลา,

น่าจะใช่เลยนะคะที่ว่าการเขียนเป็นศิลปะอย่างหนึ่งค่ะ ตั้งแต่เด็กปริมเป็นที่ไม่เอาไหนด้านศิลปะเลยค่ะ วาดรูปก็ไม่เก่ง เล่นดนตรีก็ไม่เป็น ดนตรีไทยที่เล่นได้มีอย่างหนึ่งค่ะ ฆ้องวง เพราะคงไม่ต้องการความปราณีตมาก พอจะไปเล่นในวงดนตรีโรงเรียนได้ ตอนนี้ที่อยากพัฒนาตนเองก็คงด้านนี้แหละค่ะ จะได้มีความเป็นศิลปินกับเขาบ้างสักนิดก็ยังดีค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ ;)

สวัสดีค่ะพี่อาจารย์ kwancha,

โอ้โฮ..พี่อาจารย์คะวันนี้มาทักทายกันด้วยเพลงแนวย้อนยุคมากนะคะ ปริมก็ยังอุตส่าห์ได้ยินมาก่อนอีก สงสัยปริมจะตามหลังพี่อาจารย์ไม่กี่ปีนะคะเนี่ย ;)

จริงๆ แล้วเขียนบันทึกจริงๆ ก็ปีครึ่งค่ะ ปีที่แล้วช่วงครึ่งปีหลังงานยุ่งมากเพราะกำลังเตรียมโปรเจคใหญ่ไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากทำงานจนเพื่อนๆ ถามว่าย้ายบ้านไปอยู่โรงงานหรือยัง ตอนนี้โปรเจคสำเร็จลงด้วยดี ทีมงานเราก็แยกย้ายไปทำอย่างอื่นกัน ปริมก็นั่งเฝ้าหน้าจอคอมทุกวันเลยมีเวลาอ่านเขียนมากขึ้นค่ะ ทำในสิ่งที่ชอบ...มีความสุขนะคะ

ขอบคุณพี่อาจารย์ที่แวะเวียนมาอ่านและให้กำลังใจกันเสมอค่ะ ถ้าช่วงไหนงานรุมปริมก็คงเพลาๆลงบ้างค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพี่สันติสุข,

การเขียนช่วยให้ความคิดมีทางออก - ชอบคำพูดนี้มากนะคะ

และยิ่งเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ สร้างความสุข เสริมสันติภาพ ก็ยิ่งน่าเข้าไปสัมผัสกับความคิดนั้นนะคะ งานของคุณพี่ก็ละมุนละไมน่าติดตามมากค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ :)

สวัสดีค่ะคุณหนูรี

โลกที่ถ้ำทะลุไม่ต่างจากที่บ้านปริมเลยค่ะคุณหนูรี ยังติดต่อกันได้เพราะมีโกทูโนนะคะ แถมแต่ละบันทึกที่ปริมเขียนก็เขียนเรื่องราวคล้ายๆ คุณหนูรีเรื่องธรรมชาติ นก แมลง สัตว์ด้วยค่ะ ที่ไหนๆก็เหมือนกันค่ะงานนี้

คุณหนูรีเป็นคุณแจ๋วที่ทันสมัยสุดที่ปริมรู้จักค่ะ พูดถึงเรื่องนี้อยากดูละครปัญญาชนก้นครัวขึ้นมานะคะ ;)

ปล. อยากเปลี่ยนภาพอาหารตาที่คุณหนูรีเอามาฝากเป็นของจริงตรงหน้าจริงๆค่ะ หิวขนมหวานค่ะ บ่ายๆอย่างนี้ ขนมสอดใส้กับกาแฟร้อนๆ......

ขอบคุณมากค่ะ ;)

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ Wasawat Deemarn,

ถ้าจะเรียกการหยุดคิดพิจารณาว่าการเจริญสติก็ดูดีไม่หยอกนะคะท่านอาจารย์ รู้สึกเหมือนผลักตัวเองเข้าไปใกล้พุทธศาสนาอีกนิด ทำให้รู้สึกดีนะคะ ;)

ขอบคุณค่ะอาจารย์

สุข สงบในบ่ายวันพุธนะคะ ;)

สวัสดีค่ะคุณพี่หมอภูสุภา,

เพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงโปรดของปริมเช่นกันค่ะ ฟังทีไรก็ไม่เคยเบื่อ

พี่หมอเป็นหนึ่งในกัลยาณมิตรกลุ่มแรกๆที่เข้ามาทักทายและให้กำลังใจในเรื่องที่ปริมเขียนบ่อยๆค่ะ ซึ่งทำให้ปริมรู้สึกดีมากๆค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

ที่ใช้ชื่อภาษาปะกิดแปลกๆก็เพราะเหตุนี้ค่ะ ชื่อเต็มคือ primjira ทีนี้ก็เอาอักษรในชื่อมาเรียงใหม่ เรียงได้หลายคำค่ะ แตสรุป pirimarj ดูดีสุดเลยใช้คำนี้เป็นนามแฝงค่ะ แต่มีคนถามไม่รู้จะอ่านอย่างไรให้ดูดี เลยใช้ชื่อธรรมดาธรรมดาดีกว่านะคะ ;)

พอรู้ว่าพี่หมอชอบฟังเสียงนกปริมเลยไปอัดเสียงนกมาอีกหลายชนิดเลยค่ะ แล้วจะทะยอยเอามาฝากนะคะ ;)

มีความสุขในบ่ายวันพุธค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ขจิต,

ขอบคุณมากค่ะที่อาจารย์กรุณามาทักทายนะคะ

สุขสันต์วันทำงานอีกวันค่ะ

ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านสำหรับมิตรไมตรีจิตที่เข้ามาทักทาย ฝากให้กำลังใจ ในทุกบันทึกที่มีให้เสมอมาค่ะ

มีความสุขมากๆ ในวันดีดีที่เรายังมีกันในวันนี้นะคะ ;)

คุณปริมค่ะ...กลับมาอ่านแล้วก็อมยิ้ม อยากให้คุณปริมได้ชิมจริงๆ เหมือนกันนะคะ ถ้ามีโอกาสมารับช่อดอกไม้ที่เมืองไทย เลือกรับที่หาดใหญ่นะคะ เพราะเป็นที่ที่ขนมหนูรีไปถึงแบบสดๆอุ่นๆ ...

ยิ้มแล้วยิ้มอีก ขอบคุณมาก ๆ กับข่าวสารที่งดงาม และนกน้อยที่ได้รับเชิญผ่านเลนของคุณปริม

คุณยายมาบอกว่า "คิดถึง" ค่ะ

บ่อยครั้งที่คิดใช่ฉัน.. แต่ me...but (me 2)

บางครั้งที่คิดไม่ใช่ฉัน not me (me 1)

นานๆครั้งที่คิดฉัน.. ผู้น่าสงสาร pity me (me 4)

ไม่เคยคิดฉัน.. เท่านั้น only me (me 3)

จะพยายาม awareness บ่อยๆค่ะ

 สวัสดีค่ะคุณปริม...

...gotoknowคือบ้านหลังใหญ่ที่ได้ช่วยเติมเต็มความอบอุ่นให้กับหัวใจเป็นกระจกบานใหญ่ที่ช่วยให้มองเห็นตัวเองได้ชัดขึ้นค่ะ.

...บันทึกจากคุณปริมช่วยให้ยิ้มออกมาได้และสบายใจทุกครั้งที่เข้ามาค่ะ.

...ขอบคุณความอ่อนโยนจากบันทึกและความงดงามภายในใจผู้ถ่ายทอดนะคะ.

สวัสดีค่ะคุณหนูรี,

ขอบคุณค่ะที่มาทักทายกันรอบสอง, เอาไว้มีโอกาสปริมจะไปขอชิมฝีมือคุณหนูรีนะคะ ยังไม่เคยไปสงขลาเลยค่ะ ผ่านไปแต่ภูเก็ตกับกระบี่เสียส่วนใหญ่

ของดีต้องอดใจไว้รอค่ะ ;)

มีความสุขในวันศุกร์นะคะ

สวัสดีค่ะคุณ sarapee,

ยิ้มแต้กาเจ้า? บ่อได้จุกั๋นน่อเจ้า...

ยิ๊นดีนักๆ ที่มาแวะแอ่วหาเจ้า...

สวัสดีค่ะคุณยาย,

ด้วยความระลึกถึงเช่นกันนะคะ รออ่านกลอนเพราะๆ ของคุณยายอยู่นะคะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ kunrapee,

ขอบคุณมากค่ะที่มาร่วม เจริญสติ ไปด้วยกันอย่างที่อาจารย์วัสวัติว่าค่ะ

มีความสุขในวันศุกร์ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณน้อย

ขอบคุณในมิตรไมตรี กำลังใจ และข้อคิดดีดีจากคุณน้อยเช่นกันค่ะ

ขอบคุณสังคมของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อที่เราจะเป็นคนที่ดีขึ้นนะคะ

มีความสุขในยามสายๆ ของวันดีดีวันนี้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท