เมื่อวานยังไปทำงานที่ภาควิชาพยาธิอยู่เลย แล้ววันนี้ก็มาปรากฏตัวที่โตเกียวเสียแล้ว แปลกนะที่มาญี่ปุ่นคราวนี้ มีความรู้สึกเหมือนไม่ได้มาเมืองนอกเมืองนา มันเหมือนกับเดินทางจากหาดใหญ่ไปกรุงเทพยังไงยังงั้นเลย ตั้งแต่ก่อนมาก็มัวแต่ทำงาน ไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนตอนมาครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะว่าตอนนี้กรุงโตเกียวไม่ใช่ดินแดนที่ผมไม่รู้จักอีกต่อไป
ผมอดนึกไปถึงเมื่อก่อนไม่ได้ตอนที่เริ่มต้นทำงานวิจัยครั้งแรก ร่วมกับจินตนาและอาจารย์ขจรศักดิ์ ที่เปรียบเทียบการทดสอบ Weil Felix test กับ IFA สำหรับตรวจวินิจฉัยโรคสครับไทฟัส ไอ้เรื่องทำแล็บนะไม่กลัวอยู่แล้ว เพราะมันอยู่ในสายเลือด แต่ที่ต้องมานั่งวิเคราะห์ มานั่งเขียนบทความนี่ซิ เป็นเรื่องใหม่สำหรับผม อาจารย์ก็ช่างกะไร อยากทำอีท่าไหน ทำมาได้เลย อาจารย์คอยอ่าน คอยวิจารณ์ แล้วก็แก้ไขให้ ผมก็เริ่มเรียนรู้การทำงานวิจัยมาตั้งแต่ตรงนั้น ความใหม่ของมันที่เราไม่คุ้นเคย นี่แหละที่ทำให้เรากลัวไปเสียก่อน แต่เนื่องจากมีคุณอำนวยที่ดีอย่างอาจารย์ขจรศักดิ์ ทำให้ทั้งจินตนาและผมค่อยๆ ได้เรียนรู้และซึมซับกระบวนการทำงานวิจัย นี่ถ้าต้องเริ่มงานวิจัยครั้งแรกโดยไม่มีคุณอำนวยที่ทั้งเก่งทั้งดีช่วยล่ะก็ สงสัยป่านนี้คงเลิกทำงานวิจัยไปนานแล้ว
การทำงานวิจัย ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเราเข้าใจกระบวนการ และการออกแบบการทดลอง เพราะมันมีหลักที่ตายตัว เพียงแต่อาจจะพลิกแพลงไปได้พอสมควร ก่อนอื่นที่ต้องทำความเข้าใจ ก็คือ คำถามวิจัย หรือ research questions อะไรที่เราอยากรู้ มันจะเป็น guideline บอกทิศทางเราอยู่แล้วว่าเราต้องทำอะไรต่อไปเพื่อให้สามารถตอบคำถามที่เราสงสัยได้ กระบวนการวิจัยเป็นเพียงเครื่องมือที่นำมาครอบ เพื่อให้เราสามารถตอบคำถามได้อย่างสมบูรณ์และน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นเรื่องรอง และจะยิ่งรู้สึกง่ายขึ้น ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญมาคอยแนะนำ แต่ที่หลายๆคนไม่ค่อยอยากจะทำ ก็เพราะความไม่คุ้นเคย ทั้งการตั้งคำถามและแนวทางในการตอบคำถามที่ตั้งไว้ เรื่องนี้ไม่ยากอย่างที่คิดหรอกครับ ลองเริ่มทำโปรเจ็กแรกดูสักครั้งก็จะเริ่มเข้าใจ หากตอกย้ำด้วยโปรแจ็คต่อไป ก็จะเริ่มคุ้นเคย ความยากของมันจึงอยู่ที่การทำใจให้ได้ลองกับครั้งแรก และหากสามารถสร้างให้เกิดความรู้สึกที่ดีกับผลงานที่ออกมาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดกำลังใจในการสร้างสรรค์งานชิ้นต่อไป ลองดูซิครับ มองงานที่ทำประจำอยู่ทุกวันก่อนก็ได้ ว่ามีปัญหาอะไร ทำอย่างไรจึงจะดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำงานได้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น ผลถูกต้องแม่นยำสูงขึ้นเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยมากขึ้น ฯลฯ แค่ผ่านชิ้นแรกไปให้ได้ ชิ้นต่อไปมันก็ไม่ใช่ของใหม่สำหรับเราอีกแล้ว
พบคห. ยินดีของคุณ mitocondria อดนึกและ คิดในใจไม่ได้ว่า คงอยู่ญี่ปุ่นแล้วแน่ ๆ และต่อไปเราจะได้ติดตามอ่านบันทึกแล้ว ไชโย !!!
ยินดีต้อนรับกลับบ้าน gotoknow ค่ะ
มาเร็วกว่าที่คิด..เนาะ
ความยากของมันจึงอยู่ที่การทำใจให้ได้ลองกับครั้งแรก
มันก็จริงนั่นแหละค่ะ กว่าจะ build อารมณ์ให้ทำได้มันยากๆๆ อันนี้เพราะมันไม่ได้อยู่ในสายเลือด...คล้ายๆ ว่าไม่ได้ born to be หรือไม่ได้มีความชอบเป็นทุนเดิม
แต่ทุกอย่างมันอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ถ้ามีแรงกระตุ้น แรงเชียร์และการสนับสนุนที่เหมาะสม
อยากฟังพี่กานต์เล่าว่า ทำไมถึงชอบทำวิจัย (และทำได้ดี)