วัฒนธรรมอินเดีย : ทางชีวิต 28


การเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงของประเทศเนปาล

             การเดินทางโดยรถบัส...วิ่งไปตามหุบเขา...ผมเข้าใจว่าเดิมเป็นทางน้ำหิมะละลายลงมากลายเป็นสายน้ำไหลลงสู่พื้นล่าง...ขณะรถวิ่งเลียบไต่เขาไปอยู่นั้น...ผมโผล่หัวออกนอกหน้าต่างรถ...มองลงเบื้องล่าง...เป็นเหวลึกมากครับ...มองเห็นซากรถบัสตกลงไปในซอกหินอยู่ในสภาพพังยับเยิน...ใกล้กับสายน้ำไหลคดเคี้ยวไปตามขุนเขา...

              บางแห่งรถหยุดติดกันยาวเนื่องจาก...หินหล่นมา  ปิดถนนต้องรอ...เมื่อย้ายไปมองด้านขวามองขึ้นไปเป็นหน้าผาสูงชัน...บางแห่งเหมือนเสียบทะลุเมฆเลยครับ...ระหว่างทางมองเห็นน้ำตกแต่ไกล ๆดูเป็นสายยาวลงสู่เบื้องล่าง...ลักษณะเหมือนเทน้ำนมลงจากที่สูงอย่างนั้นครับ

           และแล้วพวกเราชาวเมืองพาราณสีก็มาถึงด่านตรวจ...ก่อนเข้าสู่นครหลวงของประเทศเนปาลในความเข้าใจของผม...เมืองหลวงคือกรุงกัตมัณฑุนี้...ตั้งอยู่กลางเทือกขุนเขาหิมาลัย...เป็นแอ่งกระทะ...มีทางรถเข้าออกทางเดียว...และขุนเขาเป็นกำแพงรอบเมืองมีช่องทางออกที่ทำเป็นถนน  ดังกล่าว...และมีสนามบินนานาชาติอีก  1  แห่ง...เมื่อพักได้ที่คืออาศัยศาลาวัด...ซึ่งพระสงฆ์ที่วัดนี้...หลายรูปเคยมาอยู่ที่วัดสระเกศ  ภูเขาทอง  กทม. เพื่อเรียน ป. ตรี ที่ มหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย...

                 ช่วงนี้ผมกับเพื่อนรุ่นพี่ก็แยกตัวไปกินเหนียว...งานแต่งระหว่าง อมิตา...สาวลูกครึ่งอังกฤษกับญี่ปุ่นซึ่งเป็นเจ้าสาวที่เรารู้จักกับ หนุ่มธิเบต...แล้วกลับมาพักรุ่งขึ้นประมาณ ตี 4

 กว่า ๆเราก็เดินทางขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อชมธรรมชาติยามเช้า...โดยเห็นเทือกขุนเขาหิมาลัย...ทอดยาวสุดลูกตาเลยครับ...เห็นยอดเขาสูงที่สุดในโลกด้วย...คุณรู้มั๊ยว่ายอดเขาอะไร...

                  ต่อจากนั้นเราไปชมน้ำตกประหลาด...ฮา ๆ เอิก ๆ  เพราะเดินไปเหลียวซ้ายแลขวา...ไม่เห็นมี...ที่แท้...ต้องเดินไปส่องดูในหลุมใหญ่ ๆนั้น...คือเป็นสายน้ำไหลออกมาจากดินฟากหนึ่งและ เข้าไปในดินอีกฟากหนึ่ง...ไม่มีที่มาที่ไป...ผมงงเหมือนกันครับต่อจากนั้นเราไปชมสระโปกขรา...เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่มากกว่าบริเวณสนามหลวงใน กทม.เลยครับ...

                 ผมเข้าใจว่าเมื่อหิมะละลายมันก็ไหลลงมารวมที่นี้...ทำให้ผมมองเห็นภาพ...นางมโนราห์ทั้ง 7  นาง  วางปีกหางลงเล่นน้ำ

ตรงนี้เองที่พรานบุญมาเจอแล้วนำไปถวายพระสุธน...และป่าหิมพานต์คือป่าหิมาลัย...

          กรุงไกรราชอาจเป็นกรุงกัตมัณฑุในปัจจุบัน...แม้แต่เรื่องกินรี...คนธรรพ์...ฤาษี...เท่านั้นในอดีตที่บิน...เหาะมาอาบน้ำในสระนี้ได้...วรรณกรรมหลายเรื่องเช่น รามเกียรติ์...พระเวสสันดร...เกี่ยวข้องกับสระนี้ทั้งนั้นครับ...

               ช่วงที่พวกเราเดินชมวิวอยู่นั้นมีคนมาชวนขึ้นเครื่องบินนำเที่ยวบริเวณนั้น ในราคา  200 ดอลล่าร์  ครับ...และแล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราอำลาเนปาล...หลับสู่เมืองพาราณสีอันเป็นจุดเริ่มต้นที่เราจากมา...เหมือนจะบอกว่า...ทุกสิ่งล้วนต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของตนเอง...เป็นวัฏจักรอยู่อย่างนี้ครับ...

โปรดติดตามตอนต่อไป 

ด้วยความปรารถนาดี 

  จาก...umi

หมายเลขบันทึก: 49644เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2006 06:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท