ผมอยากเรียกว่า "วิชาคน" ขอบคุณครับอาจารย์
สวัสดีครับ คุณ แว่นธรรมทอง
ทำนองนั้นก็ได้ครับผม ถ้ามีเป้าหมายอย่างที่ว่ามา...อิ อิ อิ
ขอบคุณครับ
แวะส่งต่อกำลังใจ
ชื่นชมบันทึกของดร.อุทัย มากคะ
ถ้ามีหลักสูตรชีวิตคงดีไม่น้อย เริ่มที่จิตใจ
รู้จักตัวเอง รู้จักคิดพิจารณา ใกล้ชิดธรรมชาติ(ปลูกจิตสำนึกรักในธรรมชาติ)
คนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้น บางครั้งความสูงต่ำของระดับ
การศึกษาก็ใช่ว่าจะจำเป็นเสมอไป อยู่ที่ใจเป็นสำคัญคะ
สวัสดีค่ะท่านอ.UMI แวะมาทักทายตอนบ่ายค่ะ มื้อกลางวันอะไรคะ นำบล็อกท่านเข้าแพลนเน็ตแล้วค่ะ ย้อนกลับไปอ่านได้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลาค่ะ ทุกบทความทรงคุณค่าน่าติดตามและนำไปใช้ได้จริง
สวัสดีครับ คุณ บุษยมาศ
วิชาทางศาสนานี้ ถ้าได้เล่าเรียนแล้วเย็นใจครับ
เป็นการเรียนที่ใกล้เข้ามาหาตนเอง ค้นหาจิตใจตนเองครับ เพื่อปรับให้เกิดความสมดุลของชีวิต
ส่วนวิชานอกศาสนานั้น ยิ่งเรียนยิ่งห่างไกลตัว บางทีไปถึงการเก็บหินบนดวงจันทร์โนน้แล
และเป็นวิชาเร่าร้อน ช่วงชิง แสวงหาผลประโยชน์ เกรงกำไร ขาดทุน สารพัดนะครับ...อิ อิ อิ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ คุณ EGA
วาว ๆ ภาพสวยงามน่าชวนชมครับผม
เรื่องจิตใจสำคัญนะครับผม
หากมหาวิทยาลัยทบทวนหลักสูตรที่เปิดสอนเพื่อนำหลักศีลธรรมกลับมา โลกาคงไม่พินาศนะครับผม อิ อิ อิ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ คุณหมูจ๋า
ตอนนี้ทางภาคใต้ที่ผมอยู่กำลังเจอสายฝนครับ ช่วงสายออกไปนิเทศก์ครูพันธ์ใหม่ และมีสายเข้ามาให้ไปประชุมหารือที่คณะมนุษยศาสตร์เกี่ยวกับการต้อนรับคณาจารย์และนักศึกษา มหาวิทยาลัยหะสะนุดิน เมืองสุลาเวสี เกาะบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย เขาจะมาวันพรุ่งนี้ ผลเลยทานข้าวกลางวันในห้องประชุมประเภท คุยไปด้วยทานไปด้วยครับ อิ่ม ๆ
ขอบคุณครับ