กิจกรรมที่ทำให้เพื่อนเก่า กลับมาสนิทสนมกัน นอกจากการสังสรรค์แล้ว กลุ่ม 6/12 SPK ก็มักชวนกันทำกิจกรรมเพื่อสังคม ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน นายด๋อย คนต้นเรื่อง แอบกระซิบเบาๆ ว่าปีนี้น่าจะไปรร. บ้านโข๊ะทะ จ. ตากนะ แต่โครงการยังไม่เป็นรูปเป็นร่างนัก ด้วยว่า ในแต่ละเดือนมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ หลายประการ ระหว่างนี้ป้าตุ่นก็รวบรวมทุนทรัพย์จากพี่น้องผองเพื่อนไปพลางๆ เพื่อสมทบโครงการ หนังสือเพื่อน้องบ้านโข๊ะทะ
พอ Project ชักจะชัดเจนก็ แต่ละคนก็ทำหน้าที่บอกข่าวระดมทุน ทำเสื้อขายหาทุนบ้าง แบ่งคนไปซื้อหนังสือ และรับบริจาคสิ่งของบ้าง
ซึ่งบางครั้งก็เกรงใจอย่างยิ่งด้วยภาวะเศรษฐกิจสมัยนี้ แต่ที่บอกข่าวกันกว้างขวางเพราะการทำบุญมีหลายทาง เพื่อการทำบุญเพื่อการศึกษาและเยาวชนจะตรงจริต ดังนั้นเราจึงอยากให้คิดว่า “การบอกขานคงไม่ใช่การรบกวน แต่เป็นการรวมพลังในวันที่เรายังทำได้”
และแล้วต้นเดือน พ.ค.รวบรวมสมัครพรรคพวกได้ 10 คน เป็นคนนำส่งของจากผู้ใจบุญทั้งหลายไปส่งยัง รร. บ้านโข๊ะทะ
อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมต้องฝ่าฝนเข้าไปตอนนี้...ก็เพราะหากทิ้งไว้เนิ่นนานอาจดูไม่ดีกับเงินที่รับบริจาคมา และต่อจากนี้อีก 6 เดือนที่เป็นหน้าฝนจะเข้าหมู่บ้านไมได้ เพราะถนนไม่เป็นถนน อีกประการคนต้นเรื่องที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าค่ายในกิจกรรมนี้อาจจะไม่มีเวลาว่าง งานนี้ไม่มีเขา เราคงตกรถ...อิอิ นอกจากใช้รถสมรรถภาพดีแล้วยังต้องใช้คนขับที่ฝีมือดี และใจสั่งมา “ลุย” โดยเฉพาะ
5 ใน 10 ของ คนนำส่งหน้าตาดี เป็นเพื่อน 6/12 (ด๋อย ติ๋ม นิกร แอ๊ว และก็ป้าตุ่น) งานนี้ไปกันน้อยเพราะบอกแล้วว่าเดินทางค่อนข้างลำบาก
เราตั้งใจจะเข้าโข๊ะทะก่อนบ่าย แต่ด้วยฝนที่ตก รถแอร์เสีย เพื่อนถูกหมากัด ทำให้เสียเวลาที่อ.แม้สอดประมาณนึง ทำให้การเข้าหมู่บ้านต้องเลื่อนออกไป ระยะทางไม่ถึง 40 กม. จากถนนดำเข้าหมู่บ้าน เราใช้เวลาเดินทางเข้าไปตั้งแต่ 1 ทุ่ม กระทั่งตี 3 ก็ยังไม่ถึง ต้องพักนอนที่อุทยานแห่งชาติทีลอซูก่อน นี่ยังต้องเดินทางต่ออีก 8 กม. กว่าจะถึงจุดหมาย คืนนั้นเวลาเกือบ 7 ชม.มีภาพ ลากและลาก รถที่ติดหล่ม จนไม่สามารถนับเที่ยวได้ บางที่ภาพสวยจะได้จาก แสงไฟรถที่สาดไปจับคนที่นั่งทิ้งตัวเองไปกับเวลา ควันบุหรี่ที่อ้อยอิ่งระหว่างรอการลากรถ และบรรยากาศที่น่าประทับใจ จากการนั่งคุยกันในรถพร้อมมองฝนพรำ รึเสียงเรียกหาเหล้าป่า เพื่อเอามากรึ๊บแก้หนาว
ไหนๆ ก็นอนที่ทีลอซูอยู่แล้ว ก่อนเข้าหมู่บ้านขอแวะเยี่ยมหน้าทักทายน้ำตกทีลอซูกันก่อน...และเป็นที่น่าประทับใจกับน้ำตกที่มีน้ำมากมาย
บ่ายกว่าคณะเราก็ถึง รร. บ้านโข๊ะทะ หมู่บ้านเลี้ยงต้อนรับพร้อมมีพิธีมัดมือของคนในหมู่บ้าน หลังจากนั้นเราจะมีการมอบสิ่งของของทุกท่านให้กับโรงเรียนและชุมชนในตอนเย็น
หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น คราวนี้เป็นเรื่องของพร้อมมิตรสโมสร ด้วยการสังสรรค์ ไปน้ำตกวงสำราญ น้ำตกโข๊ะทะ ซึ่งไอ้น้ำตกโข๊ะทะนี่หล่ะทำให้ป้าตุ่นหงายเงิบ เกือบเอาชีวิตไม่รอดทีเดียว
ป้าตุ่นบอกกับกลุ่มเพื่อนว่า ตุ่นอยากทำพระประธาน เพื่อนๆ ก็สรุปว่า มาทำที่นี่แหละ คราวหน้ามาหน้าหนาวจะไม่ตองลุยกัน
แม้สภาพสิริพรจะไม่พร้อม ต้องกรอกยาเข้าไว้...แต่ยังไหวกับทริปนี้
...บางครั้งการเหนื่อยเพื่อคนอื่นก็เป็นอะไรที่สุขใจ (มีคนว่าไว้)
...บางครั้งวันเวลาดีๆ ก็มาถามหา โดยไม่สามารถรอได้
...บางครั้งกิจกรรมเล็กๆ ก็เป็นจริงเป็นจังได้ เพราะพลพรรครักเอย
...บางครั้งเรื่องราวเล็กๆ ก็เป็นความประทับใจไปจนตราบชั่วชีวิต
ขอให้ทุกคนแข็งแรง มีความสุขสวัสดี พร้อมมิตรสโมสรเมื่อไหร่คงได้ทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกันอีก
Behind the Scene
1. การบริหารงบประเมาณ
หนังสือเรียนพ้อมแบบฝึกหัด 6 ชั้นปี ชั้นปีละ 8 สาระ สาระละ ชั้นปีละ 20 ชุด
จอบ เสียม บัวรดน้ำ อย่างละ 10 ชุด+พร้อมเมล็ดพันธุ์พืชฃ
ทุนการศึกษา ป. 1- 5 รวม 10 ทุน 5,000 บาท
ทุนสำหรับนักเรียน ไปเรียนต่อ ม.หนึ่งในตัวเมืองแม่สอด 1 ทุน 12,000 บาท
ทุนสำหรับนักเรียน กศน. 2ทุน 3,000 บาท
ทุนอาหารกลางวันและกิจกรรมโรงเรียน 5,000 บาท
ทุนพัฒนามัคคุเทศก์ท้องถิ่น 4,000 บาท
สมทบการสร้างวัด 2,600 บาท
และเครื่องเขียน เครื่องกีฬา ปัตตาเลี่ยน เสื้อผ้า ตุ๊กตา กระเป๋า ยา จากเพื่อนพ้องน้องพี่
..ตุ่น...แอ๊วถูกหมากัดหล่ะ อ้าว ยังงัยนี่ ถูกกัดที่ปั๊มน้ำมัน
นิกร...เฮ้ย...พร้อมยกมือขึ้น
ด๋อยวิ่งวุ่น ไม่รู้ว่าจะพันแผลก่อน หรือจะล้างแอลกอฮอร์ก่อน
ทำเสร็จ นิกรยังเฮ้ยอยู่ ... อิอิ ...แถมด้วยวัคซีนกันหมาบ้าที่สกัดมาจาก DNA ของวัว...งานนี้หมาไม่น่ากัดนี้กิ่งพนา
...เห็นเพื่อนมารับ ดีใจ ขอบคุณ แถมด้วยความหนักใจตามมา ระยะทางมันยาวไกลไปไหม หล่มสัก-พิษณุโลกหล่ะเหวทั้งนั้น เห็นขับมาจาก กท.ปาไป 7 ชม. ต่อแม่สอดอีกเกือบ 10 ชม. ซัดถึงแม่สอดเลย 8 โมงเช้าของอีกวันนี่ชิวๆ
...ทำเพื่อคนอื่นเกินไปรึเปล่านาย ยังกับไปค่ายแล้วตรูจะช่วยอะไรได้มากขึ้นงั้นหล่ะ...อายุมากขึ้น ต้องดูแลสุขภาพให้มากขึ้นด้วย ...นี่รักนะถึงห่วง
เป็นคำกิริยา เป็นอาการของการนั่งยองย่อท่าหนึ่ง ที่ต้องแสดงหน้าตาแบบประมาณหนึ่งที่อธิบายไม่ได้ แต่มันจุ๊กกุ๊กอ่ะ
จริงรึไม่จริงต้องถามเจ้าลูกจิ๊บทะเบียน กท. 37 ไปกะใครไม่เคยเดี้ยง มากะแก๊งค์ 6/12 SPK เดี้ยงซะ...เจอกันมาก็ 3 รอบ จนต้องพิสูนจ์ด้วยการเปลี่ยนรถ...ซะงั้น
แก้แค้นคราวไปสงกรานต์ที่สารคาม งานนี้ ผศ.นิกร จัดเต็ม รถจอดไหนตรูเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่น กะแล้ว 4 ชุดต่อวัน 555+นึกถึงจุดชมวิวจุดแรกที่ด๋อยปลุกขึ้นมาชมวิว นิกรถามคำแรกเลยว่า ถึงแล้วเหรอเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย?...โธ่เพื่อน ณ จุดที่ถามนี่ยังไม่ถึงแม่สอดเลย
ก็เพราะพวกเอ็งทั้งหมดไปน้ำตก และสิริพรก็ติดกาแฟ ไอ้กาแฟแก้วที่ 2 นี่แหละเป็นเรื่อง...555+ เราคุยกันเรื่องความรัก พะนะ...จนจะกลายเป็น ฝัน ฝันหวาน ไม่รุแอ๊วกะนิกร ถูกใจอะไร...อยากจะให้ปรองดองกันซะจริง...พี่เค้าเครียดไปรึเปล่าตรู...ระหว่างกาแฟแก้วที่ 3 นิกรโผล่เข้ามาในฉาก แทนทีจะช่วยกัน ดั้น ดอลลี่ตัวเองหายไปเฉยเลย
เพราะเชื่อมั่นในคำแม่หมอ ที่ว่าองค์จะลงตอน 6 ทุ่ม รอมมี่ทิ้งในลัยนอนคนเดียวเพื่อมาเฝ้าเอาคิวแรก...ดั้นงานเข้า ฟ้าผ่าโรงงาน รอมมี่รีบประสานงานและแจ้งลูกพี่กรรณให้ทราบ...ไอ้ลูกพี่ก็ละเมอ แต่คุยกันรู้เรื่องแฮะ...
ไม่รู้ว่าเกิดเกรงใจครูขึ้นมามากมาย เห็นครูดูแลเรามา 4 วันแล้ว และบ้านครูก็โป่งพองด้วยคน 10 คน ที่มาขอพักหน้าตาเฉย แต่ที่เกรงใจมากคือเรื่องอาหารการกิน เห็นตื่นมาทำตั้งแต่ ตี 5 ป้าตุ่นรีบมุดมุ้งไปกระซิบเพื่อนด๋อย เฮ้ยคิดใหม่ไหม เกรงใจครู...เพื่อนด๋อยตัดสินใจ Go Go แล้วขึ้นไปปลุกรอมมี่โดยด่วน
รอมมี่ขึ้นประจำที่คนขับ เข้าเกียร์และออกรถ มีพี่ตุ่นเป็นผู้โดยสาร ขับไปได้สัก 10 กม. รอมหันมาถามป้าตุ่นว่า ตกลงเราจะไปน้ำตกใช่ป่าวเพ่...555+ กระเจิงเลยงานนี้
เวลาผ่านไปเร็ว เสียดายที่ถ่ายรูปตอนหนูตุ่นหงายเงิบใว้ไม่ทัน มัวแต่หัวเราะอยู่ 555555++++