ณ วันนี้ ผมเริ่มขยับแผนการศึกษาภูมิปัญญาไทย มาศึกษาพระเนื้อว่าน โดยเฉพาะหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน ปี 2497 ที่ผมได้มาจากพี่ชายเมื่อเกือบห้าสิบที่แล้ว
ผมได้ติดตามสังเกตการพัฒนาการของผิวพระมาเรื่อยๆ ตลอดระยะ 50 ปีที่ผ่านมา
ได้พบว่า
ในช่วงแรกๆ เนื้อพระจะค่อยๆแห้ง และมีลักษณะผิวเหี่ยวลงอย่างชัดเจน จนเริ่มมีรอยแยกเล็กๆ ที่ผิวเมื่อประมาณสักสิบปีที่ผ่านมา
เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีคราบน้ำมันซึมออกมาที่ผิว และกลั่นตัวเป็นเม็ดๆในบางจุด
ผมไปถามผู้รู้ เขาบอกว่าเป็นน้ำว่านที่ออกมาคลุมผิวพระ
ทำให้ผมเพิ่งเข้าใจว่าน้ำว่านมีไว้ทำอะไร
ชุดความรู้นี้เป็นภูมิปัญญาไทยที่คนไม่ค่อยมองและพิจารณาในหลักของความเป็นจริง ด้วยหลักทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ อธิบายได้ และทำซ้ำได้
ดังนั้นพระเนื้อว่านจึงอยู่ได้ด้วยการประสานของน้ำว่าน
พระหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ เป็นกรณีตัวอย่างของพระแก่ว่าน และต้องมีน้ำว่านคลุมทั้งองค์ จึงจะมั่นใจได้ครับ
หลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี 97
เราจึงสามารถใช้หลักนี้ในการพิจารณาอายุของพระเนื้อว่านได้
ให้สังเกตการกลั่นตัวของน้ำว่านขึ้นมาเป็นเม็ดๆที่ผิว
ถ้า 50 ปีขึ้นไป ควรจะมีน้ำว่านออกมาคลุมองค์พระ ไม่งั้นพระอาจจะแตกออกเป็นชิ้นๆได้
เช่นเดียวกับพระผงสุพรรณที่แก่ว่าน
ผงสุพรรณเนื้อแก่ว่าน
ก็จะมีน้ำว่านออกมาคลุมเนื้อพระจนแกร่งทั้งองค์ และอยู่ได้มาหลายร้อยปี โดยไม่ต้องผ่านการเผา
เรื่องน้ำว่านนี่น่าทึ่งจริงๆครับ
เป็นภูมิปัญญาโบราณที่น่าสนใจมากเลยครับ
ด้วยความยินดีแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ
ตอนพิมพ์ความเห็นตอนแรกยังไม่ได้เห็นรูป พอเห็นรูปแล้วยิ่งทึ่งครับ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ
ผมมีหลวงปู่ทวดเนื้อว่านอยู่องค์หนึ่ง...
พี่ชายให้ไว้นานแล้ว ..จะลองดูนะครับอาจารย์
ขอบพระคุณอาจารย์มากนะครับ
ถ้ามีไขน้ำว่านออกมาก็ใช้ได้เลยครับ
ของผมเนื้อจะมีเม็ดเล็กๆเหมือนเชื้อรา(เต็มทั้งองค์)ใช่คราบน้ำว่านรึเปล่าครับ ส่วนด้านหลังเป็นเม็ดแร่เล็กๆโดนแสงจะสะท้อนเหมือนแร่ดีบุกรวมอยู่ด้วยครับ
ลักษณะพระเก๊ครับ